ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ร่วมแสดงความยินดีกับผลการแข่งขันช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018 หลังจาก 2 นักขับเลือดซามูไร ฮิเดกิ มูโตะ และไดซูเกะ นากาจิมะ สังกัดทีม Mugen ซิ่งสุดยอดรถสปอร์ตระดับโลกฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที คว้าอันดับ 5 ในรุ่นจีที 500 ด้านศึกซัพพอร์ตเรซ “ฮอนด้า เรซซิ่ง 2018” ทั้ง 3 รุ่นสุดคึกคัก 47 ทีมลงประลองความเร็วสร้างสีสันให้แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยร่วมเชียร์อย่างสนุกสนาน

การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบระดับตำนานของประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับการติดตามชมจากแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลก ศึกซูเปอร์ จีที เรซ 2018 รายการที่ 4 ของฤดูกาล ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 30 มิถุนายน–1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อรายการช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018 โดยนับเป็นปีที่ 5 ที่จัดขึ้นในประเทศไทย

ไฮไลต์สำคัญของศึกช้าง ซูเปอร์ จีที เรซ 2018 คือการลงแข่งขันครั้งแรกในเมืองไทยของเจนสัน บัตตัน ยอดนักแข่งรถชาวอังกฤษที่เคยได้แชมป์โลกฟอร์มูล่า วัน ร่วมกับฮอนด้า ในปี 2009 โดยจับคู่กับนักขับดาวรุ่งชาวญี่ปุ่น นาโอกิ ยามาโมโตะ ภายใต้สังกัด Team Kunimitsu ด้วยรถแข่ง ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์-จีที หมายเลข 100 รั้งจ่าฝูงตารางคะแนนรวม และมือขับอันดับหนึ่งในตารางรุ่นจีที 500 จากการเก็บคะแนนใน 3 สนามแรกก่อนเดินทางมาประเทศไทย

กองทัพรถแข่งฮอนด้า ในรุ่นจีที 500 พร้อมหน้ากันทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมในรอบควอลิฟายด์ด้วยรถยนต์ฮอนด้า เอ็นเอสเอ็กซ์–จีที โดยตำแหน่งโพลโพซิชั่นเป็นของมูโตะ กับนากาจิมะ คู่หูนักขับชาวญี่ปุ่นสังกัดทีม Mugen หมายเลข 16 ตามด้วยโคอุดาอิ ซึกาโกชิ กับทาคาชิ โคงูเระ นักขับญี่ปุ่นจากทีม Keihin Real Racing หมายเลข 17 เป็นอันดับ 2 และบัตตัน กับยามาโมโตะ ออกตัวจากกริดเป็นลำดับที่ 5

สำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ในวันอาทิตย์ ที่ต้องขับทั้งหมด 66 รอบ รวมระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร ปรากฏว่าทีม Mugen จากฝีมือการขับของ มูโตะ/นากาจิมะ เป็นทีมที่ใช้รถแข่งฮอนด้า ทำผลงานได้ดีที่สุดในสนามนี้ เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 5 ตามด้วยทีม Keihin Real Racing ในอันดับ 7 และ Team Kunimitsu เข้าป้ายในอันดับ 11

อย่างไรก็ตามการคว้าอันดับ 11 ในสนามที่ 4 ไม่ได้ส่งผลต่อการลุ้นแชมป์ประจำปีของบัตตัน และยามาโมโตะ หลังจากมี 43 คะแนนรั้งอันดับ 2 ในตารางคะแนนสะสมนักแข่ง ไล่ตามผู้นำเพียง 1 คะแนนเท่านั้น

สำหรับการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการฮอนด้า เรซซิ่ง 2018 ซึ่งถือเป็นซัพพอร์ตเรซที่จัดขึ้นทุกปีที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ยังคงมีการตอบรับที่ดีจากนักแข่งดาวรุ่งที่เข้าร่วมการแข่งขันมากถึง 47 คัน แบ่งออกเป็น 3 รุ่น ได้แก่ ฮอนด้า โปรคาร์ โมดิฟาย (รถยนต์ฮอนด้าที่เปิดให้สามารถโมดิฟายเครื่องยนต์ได้ พิกัดความจุ 1500 ซี.ซี.) จำนวน 15 คัน, ฮอนด้า โปรคาร์ (รถยนต์ฮอนด้าเครื่องยนต์สแตนดาร์ด พิกัดความจุ 1500 ซี.ซี.) จำนวน  18 คัน และรุ่นเล็ก ฮอนด้า บริโอ้ คัพ (รถยนต์ฮอนด้า บริโอ้ และบริโอ้ อเมซ รถยนต์ในกลุ่มอีโค คาร์) จำนวน 14 คัน กับการแข่งขันทั้งหมด 3 เรซ ชิงถ้วยเกียรติยศ และเงินรางวัลรวมกว่า 750,000 บาท

แชมป์ในคลาสโอเวอร์ออลรุ่น ฮอนด้า โปร คาร์ ตกเป็นของยศสรัญ แสนสุข จาก 888 คาร์ วอช ที่ควบรถแข่ง ฮอนด้า ซิตี้ เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 14 นาที 50.9 วินาที ตามด้วย เดชาธร ภู่อัคราวุฒิ จากวายเค มอเตอร์สปอร์ต บาย ซันโนโก้ ในอันดับ 2 ตามหลังแชมป์ 2.345 วินาที ส่วนอันดับ 3 ตกเป็นของชาพล โยธา จากหมอเส็ง เรซซิ่ง ทีม ตามหลังแชมป์ 2.468 วินาที

ด้านการแข่งขันรุ่นฮอนด้า โปร คาร์ โมดิฟาย แชมป์สนามแรกตกเป็นของอานนท์ รอดประเสริฐ จากแว็กซ์วัน เรซซิ่ง โปรเจ็กต์ ที่พารถแข่ง ฮอนด้า ซีอาร์-ซีร์ สตาร์ทจากกริดที่ 10 ไล่แซงคู่แข่ง 9 คัน เข้าป้ายเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลา 14 นาที 2.797 วินาที

ในรุ่นฮอนด้า บริโอ คัพ สนามแรกแชมป์ตกเป็นของดานุวัฒน์ วรกิตติชัย จากสุโขทัย เอฟซี ดีเอ็นเอ เรซซิ่ง ทีม เข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 15 นาที 30.150 วินาที ทิ้งห่างอันดับ 2 เกียรติพันธุ์ ไพเจริญ จากก๋วยเจ๋ง 4.627 วินาที ตามด้วยรัชชากร รัตนาวุฒิ จากอาร์เอ็มไอ เรซซิ่ง ทีม ในอันดับ 3 ตามหลังแชมป์ 5.720 วินาที

ในสนามที่ 2 ของฮอนด้า บริโอ้ คัพ แชมป์ตกเป็นของณศรัญ โพธิสนทัย จากสุโขทัย เอฟซี ดีเอ็นเอ เรซซิ่ง ทีม นำม้วนเดียวจบด้วยเวลา 15 นาที 22.935 วินาที เฉือนอันดับ 2 อธิป ภูวนานนท์ จากเอบีเอส ออโต้คาร์ เพียงแค่ 0.891 วินาทีเท่านั้น อันดับ 3 ดานุวัฒน์ เจ้าของแชมป์สนามนี้ตามหลังผู้ชนะ 1.030 วินาที

สำหรับการแข่งขันสนามสุดท้ายของฮอนด้า เรซซิ่ง 2018 ในรุ่นฮอนด้า โปร คาร์ โมดิฟาย และฮอนด้า โปรคาร์ ผลปรากฏว่าแชมป์โอเวอร์ออลในรุ่นฮอนด้า โปรคาร์ โอเวอร์ออล ตกเป็นของอนิวัฒน์ ล้อมมหาดไทย จากแว็กซ์วัน เรซซิ่ง โปรเจ็กต์ ทำเวลาได้ 14 นาที 6.426 วินาที โดยธีรศักดิ์ ศักดิ์แพทย์ จากจูน บาย เอก เข้าอันดับ 2 ตามหลังแชมป์ 3.485 วินาที และอันดับ 3 ตกเป็นของภาสฤทธิ์ พรหมสมบัติ จากวายเค มอเตอร์สปอร์ต บาย ซันโนโก้ ตามหลัง 12.781 วินาที

ด้านแชมป์รุ่นฮอนด้า โปรคาร์ สนาม 2 เป็นของยศรัญ แสนสุข จาก 888 คาร์วอช ควบรถแข่งเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 14 นาที 32.768 วินาที เหนือ ฐนโรจน์ ธนาสิทธิ์นิธิเกตุ จากวายเค มอเตอร์สปอร์ต บาย ซันโนโก้ ตามหลังแชมป์ 2.202 วินาที และชยพล โยธา จากหมอเส็ง เรซซิ่ง ทีม ในอันดับ 3 ตามหลังแชมป์ 18.594 วินาที

ตลอดสุดสัปดาห์ภายในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต มีกิจกรรมมากมายที่ฮอนด้า จัดขึ้นเพื่อให้แฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ตชาวไทยได้ร่วมสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม Pit Walk ที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมลงไปเดินในบริเวณที่เก็บรถของทีมแข่งข้างสนาม (Paddock) และถ่ายรูปกระทบไหล่นักแข่งอย่างใกล้ชิด พร้อมตื่นตาตื่นใจกับบรรดาสาวสวยเรซควีนจากประเทศญี่ปุ่น รวมถึงกิจกรรม Grid Walk ซึ่งเป็นการเดินชมรถซูเปอร์ จีที และการทำงานของทีมวิศวกรในการเตรียมความพร้อมรถแข่งที่จุดสตาร์ท นับเป็นกิจกรรมที่มีแฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ตชาวไทยให้ความสนใจและเข้าร่วมอย่างคับคั่ง

นอกจากนี้ฮอนด้า ยังเปิดโอกาสให้กลุ่มลูกค้ารถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ จำนวน 50 คัน ได้สัมผัสประสบการณ์พิเศษจัดขบวนลงขับจริงในสนามแข่งเดียวกับ ซูเปอร์ จีที เรซ ในกิจกรรม “Honda Track Experience” โดยก่อนหน้านี้ กลุ่มลูกค้าฮอนด้า แจ๊ซ ใหม่ ยังได้ร่วมอบรมหลักสูตรการขับรถในสนามแข่งเบื้องต้นผ่านโครงการ “Honda Driving Clinic” อีกด้วย

ส่วนภายในบูธของฮอนด้าบริเวณหน้าสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต คึกคักไม่แพ้กัน เพราะแฟนมอเตอร์สปอร์ตสามารถมาร่วมสนุกได้กับ เกมประลองความเร็ว ฮอนด้า เรซซิ่ง เพื่อชิงของรางวัลจากฮอนด้า พร้อมทั้งเลือกซื้อของที่ระลึกจากฮอนด้า คอลเลคชั่น ตลอดทั้ง 2 วันของการแข่งขัน

ความสนุกของการแข่งขันรายการ ซูเปอร์ จีที เรซ 2018 ยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทยสามารถติดตาม และเชียร์ทีมฮอนด้าทั้ง 7 ทีมทั้งในรุ่น จีที 500 และจีที 300 ในอีก 4 สนามที่เหลือของฤดูกาล โดยการแข่งแข่งขันสนามต่อไปจะกลับไปแข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ฟูจิ อินเตอร์เนชั่นแนล สปีด เวย์ ระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคมนี้

เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณข้อมูล: ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th