ที่ใดมีกระแสความสนใจ ความอยากรู้อยากเห็นย่อมจะมีตามมา ช่วงนี้กระแสของการ ปลุกปั้นสปอร์ต 2 จังหวะอยู่ในช่วงที่ “พีค” จริงหลังจากลากกระแสยาวต่อเนื่องมาราวสอง สามปีหลังนี้ จนกระทั่งตอนนี้หลายอย่างกลับมาเติบโตอย่างมากจนเรียกว่าแทบจะเหมือนกับ ตอนที่ มอเตอร์ไซค์เหล่านี้ยังผลิตจำหน่ายโดยผู้ผลิตอยู่เลยทีเดียว

เครื่องยนต์รถมอเตอร์ไซค์ในยุคก่อน โดยที่จะเป็นช่วงยุคที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีของ เครื่องยนต์แบบ 2 จังหวะให้ก้าวหน้าไปอย่างมาก มากขนาดเมื่อมันถูกลดการผลิตจนไม่มีการ ผลิตออกมาแล้ว และเมื่อมีกระแสย้อนยุคนำมันกลับมาใช้ มันยังทันสมัยให้สมรรถนะที่เร้าใจอยู่เลย

กับเครื่องยนต์แบบ 2 จังหวะมันแทบจะเป็นเหมือนสัญลักษณ์คู่กับมอเตอร์ไซค์ของ เมืองไทย ย้อนไปตั้งแต่ปี พ.ศ.2525 เป็นต้นมา มอเตอร์ไซค์แทบทุกรุ่น ทุกยี่ห้อใช้เครื่องยนต์ แบบ 2 จังหวะแทบทั้งสิ้น บางค่ายเอาสัญลักษณ์ “ส้อมเสียม”เครื่องมือพิเศษในการซ่อม เครื่องยนต์ 2จังหวะ สำหรับขัดล็อกเพลาข้อเหวี่ยงมาเป็นสัญลักษณ์กันเลยทีเดียว

แต่ช่วงเวลาที่น่าจะเป็นช่วงที่น่าจดจำมากที่สุดของมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ 2 จังหวะน่าจะเป็นในช่วงปี 2535 เป็นต้นมาซึ่งถือว่า “พีค” สุดๆ ในช่วงนั้นมอเตอร์ไซค์ที่จัดจำหน่ายจะคุ้นหน้าคุ้นตากันเพียง 4 แบรนด์หลักๆ HONDA KAWASAKI YAMAHA และ SUZUKI และพิกัดความจุสูงสุดจะอยู่ที่ 150 ซี.ซี. ส่วนมอเตอร์ไซค์แบบบิ๊กไบค์ต้องเป็นคนมีสตางค์และมีเส้นสายพอสมควรถึงจะได้จับต้อง เรียกว่าพบเห็นได้ยากมากๆ เพราะราคาค่าตัวแพงกว่ารถยนต์และยังไม่มีการซื้อขายแบบผ่อน ไฟแนนซ์ไม่ทำธุรกิจ ทะเบียนการครอบครองต้องทำหลายอย่าง บางทียังมีการขับขี่แบบไม่มีทะเบียนมีแต่เพียงใบครอบครองหรือแสดงที่มาและการได้มาเท่านั้น หรือที่เรียกว่า อินวอยซ์ เอาไว้ให้ตำรวจดูถ้าโดนเรียก

มอเตอร์ไซค์ 2 จังหวะถูกผลิตออกมาจำหน่ายและนำเสนอเรื่องราวของสมรรถนะความเร็วแรง เร้าใจ มีการเปิดตัวแทบจะทุกเดือน ตลาดมอเตอร์ไซค์เติบโตไปพร้อมเทคโนโลยี ความทันสมัยถูกนำมาพัฒนาในมอเตอร์ไซค์รุ่นใหญ่อย่างค่าย KAWASAKI ที่มีรุ่นใหญ่ยอดนิยมอย่าง VICTOR , KR , SERPICO ที่ตอนนี้มันกลับมาเป็นที่ใฝ่หา เรียกว่ามีการตามหามันมาทำการฟื้นคืนชีพและตกแต่งอย่างเต็มที่ เหมือนตอนสมัยที่มันยังมีขายอยู่เลย

บางคนสงสัยว่ามันคือ “มอเตอร์ไซค์อะไร” มันก็เป็นรถรุ่นหนึ่งที่เคยจำหน่ายทั่วไป จนกระทั่งมีระเบียบเรื่องของการควบคุมมลพิษและการประหยัดพลังงานออกมา ประกอบกับเกิดวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงปี 2540 ทำให้ทุกคนรัดเข็มขัด ยานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิงน้อยจึงได้เข้ามาทดแทน เครื่องยนต์ 4 จังหวะจึงได้ฉายแสงและลืมตาอ้าปาก หลังจากที่เมื่อสมัยก่อนถ้ามีรถมอเตอร์ไซค์ติดไฟแดงอยู่ 10 คัน ทุกคันจะเป็นเครื่องยนต์แบบ 2 จังหวะหมด เรียกว่ามีคนใช้มอเตอร์ไซค์ 4 จังหวะน้อย เพราะผู้ผลิตไม่ตอบสนองไม่มีรุ่นที่โดนใจ ต่างกับสมัยนี้เพราะสภาพการณ์มันบังคับ

กระแสการนำมอเตอร์ไซค์ 2 จังหวะมารีเทิร์นอาจมีหลายคำถามที่บางคนอยากรู้ เล่าให้ฟังแบบคร่าวๆ ว่าทางด้านของคุณสมบัติตัวรถนั้น รุ่นใหญ่อย่าง 150 ซี.ซี. คือรถที่ถูกพัฒนาให้ทันสมัยอย่างมากทั้งด้านรูปทรงและสมรรถนะเครื่องยนต์ ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่าง KAWASAKI KR-VICTOR-SERPICO นั้นล้วนแต่สามารถทำความเร็วได้สูงแม้จะเป็นรถเดิมๆ และสามารถปรับแต่งเพิ่มสมรรถนะได้อย่างชัดเจน อะไหล่ทดแทนมีมากเพราะมียอดขายที่สูงมากทำให้ผู้ผลิตมีการสต็อกอะไหล่เอาไว้อย่างมาก และอะไหล่ทดแทนตามร้านอะไหล่ยิ่งมากเพราะการผลิตออกมาขายอย่างมากมาย อีกทั้งความทนทานเพราะชิ้นส่วนหลายอย่างที่นำมาประกอบเป็นมอเตอร์ไซค์ในตอนนั้น มีหลายชิ้นที่เป็นอะไหล่ทำมาจากต่างประเทศ เมื่อมันถูกนำมาทำแบบฟื้นคืนชีพมันจึงได้รับความนิยมเพราะมันปั้นขึ้น

สมรรถนะเครื่องยนต์ 2 จังหวะนั้นให้รอบสูงและรวดเร็วกว่า 4 จังหวะถ้าเทียบในพื้นฐานเดียวกัน แต่ด้วยเรื่องของมลพิษและการใช้เชื้อเพลิงที่มากกว่าทำให้มันเป็นข้ออ้างในการถูกยกเลิกการผลิต ไว้คราวหน้าจะได้มาเรียนรู้การทำงานของเครื่องยนต์แบบ 2 และ 4 จังหวะกันดูว่าเป็นอย่างไร เอาไว้จะเล่าให้ฟังใหม่นะ…

https://youtu.be/zBwtBb4R1Lw

เรื่อง : ศิปิวรรธ ปานกลาง

ขอบคุณข้อมุล /ภาพ : www.upic.me / www.c.lnwfile.com / www.f.ptcdn.info

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th