คุณจันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์ “ลามิน่า” และฟิล์มกลุ่มพิเศษ “ลูมาร์” จากสหรัฐอเมริกา

1. ภาพรวมธุรกิจฟิล์มกรองแสง ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้เป็นอย่างไร

ภาพรวมตลาดในช่วง มกราคม ถึงเมษายน เราเติบโตอยู่ที่ 10 เปอร์เซ็นต์ ในเรื่องของฟิล์มกรองแสง ถือว่าเป็นยอดขายที่น่าพอใจ ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของตลาดที่กำลังโตต่อเนื่องมา และยังสอดคล้องกับเป้าหมายที่ทางบริษัทได้วางไว้ด้วยเช่นกัน เพราะตัวเลขที่เรามองไว้ จากอุตสาหกรรมรถยนต์ คาดการณ์ไว้ว่าปีนี้ตลาดรถยนต์น่าจะอยู่ที่ 930,000 คัน แต่ตอนนี้ไม่แน่ใจว่าด้วยทิศทางของเศรษฐกิจอาจจะมาก หรือน้อยกว่านี้ก็เป็นได้ เพราะระยะหลังมานี้ก็มีปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันที่มีการแกว่งตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง

2. มองแนวโน้มของตลาดฟิล์มกรองแสงของเทคโนเซลฯ ในประเทศในช่วง 2-3 ปีจากนี้ว่าอย่างไร

ปีนี้เราตั้งเป้าท้าทายตัวเองไว้ที่ 850 ล้านบาท และปีนี้ กระทั่งอีก 2 ปีข้างหน้า คิดว่าอยากจะแตะที่ 1,000 ล้านบาท ฉะนั้นหมายความว่าปี 2019 นี้ เราจะต้องโตขึ้นอีก 10 เปอร์เซ็นต์ ถึงจะไปแตะเส้นชัยที่วางไว้ ซึ่งการที่ตั้งเป้าระยะกลางแบบนี้เอาไว้ ก็เพื่อที่จะได้มีทิศทางที่ชัดเจนสำหรับทีมงาน ว่าจะต้องทำงานกันในระดับที่ท้าทายขนาดไหน และคิดว่าก็เป็นความยากที่เราสามารถจะทำได้ ถ้าเราร่วมมือร่วมใจกัน

3. ความนิยมของฟิล์มนวัตกรรมใหม่ LAMINA DIGITAL CTX CERAMIC SAFETY ที่เพิ่งเปิดตัวไป เพื่อต่อยอดฟิล์มเซรามิก LAMINA DIGITAL CTX เป็นอย่างไรบ้าง แล้วฟิล์มรุ่นนี้มีจุดเด่นพิเศษอะไร

ฟิล์ม LAMINA DIGITAL CTX CERAMIC SAFETY นี้ เป็นฟิล์มรุ่นใหม่ล่าสุดของทางบริษัทของเรา เพราะกระแสการตอบรับฟิล์มเซรามิกค่อนข้างดีมาก มันไม่ใช่แค่ฟิล์มกรองแสงทั่วไป และไม่ใช่แค่ฟิล์มกรองแสงเท่านั้นที่มีการนำตัวเซรามิกมาใช้ แต่พวกวัสดุที่ใช้เกี่ยวกับบ้านก็มีการนำเซรามิกมาใช้ผสมไว้ด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นสีทาบ้าน ฯลฯ เพราะเซรามิกเป็นวัสดุที่มีความทนทาน และสามารถกันความร้อนได้ดี

ส่วนในเรื่องของฟิล์มกรองแสง ประโยชน์ของเซรามิก ด้านหนึ่งก็คือความเป็น Digital Friendly เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่จะต้องวนเวียนเข้ากับ Digital Gadget ตลอดเวลา และด้วยความที่เราเองอยู่ในธุรกิจนี้ ในสายการตลาดนี้มาเป็นปีที่ 23 แล้วค่ะ เราจึงทราบว่า เมื่อเราปล่อยสินค้าเซรามิกเข้าสู่ตลาดแล้ว แน่นอนว่าเราจะต้องมีฟิล์มกรองแสงตัวใหม่ๆ ที่จะต้องเกาะกระแสเซรามิกขึ้นมาด้วย และเราเองก็ต้องอธิบายลูกค้าให้เข้าใจด้วยว่าเซรามิกที่แท้ และฟิล์มเซรามิกของจริงเป็นอย่างไร ดังนั้นฟิล์มของเราที่แท้จะต้องมีคำว่า “LAMINA DIGITAL CTX CERAMIC SAFETY”

เมื่อทราบแล้วว่าฟิล์มเซรามิกที่แท้นั้นเป็นอย่างไรแล้ว สิ่งที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งที่ลูกค้าต้องการคือ เรื่องของความปลอดภัย ที่จะเป็นส่วนสำคัญในเรื่องของฟิล์มกรองแสง ซึ่งฟิล์มกรองแสงทั่วไป ก็จะมีความหนาอยู่ประมาณ 1.5 – 2.0 mil ซึ่งตรงนี้ก็จะช่วยให้ความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง ถ้าเกิดเคสที่ไม่รุนแรง ฟิล์มตัวนี้จะช่วยยึดเศษกระจกเอาไว้ด้วยกัน แต่ถ้าลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่ให้ความสำคัญในเรื่องของสมาชิกในครอบครัวที่ต้องนั่งโดยสารภายในรถยนต์ เขาก็อยากได้ความเป็นนิรภัยจริงๆ ซึ่งมันจะต้องมีความหนาที่เริ่มต้นที่ 4.0 mil ขึ้นไป นั่นคือหนากว่าฟิล์มกรองแสงธรรมดาทั่วไปประมาณ 2 – 2.5 เท่า เมื่อเป็นดังนั้น เราจึงคุยกับทางโรงงานและพัฒนาออกมาเป็นตัว “LAMINA DIGITAL CTX CERAMIC SAFETY” ออกมา

4. ด้วยคุณภาพที่ดีของฟิล์มเซรามิกตัวนี้ ทำให้ราคาจำหน่ายค่อนข้างสูง ทางเทคโนเซลฯ เองวางกลยุทธ์การทำตลาดเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายไว้อย่างไร

สำหรับฟิล์มตัวนี้เราวางกลุ่มเป้าหมายไว้ให้เป็นกลุ่ม Family Man คนรักครอบครัว ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวไปกับครอบครัว เขาน่าจะให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัย เพราะรถยนต์บ้านเราที่มีการใช้ฟิล์ม Safety ที่เป็น Laminate เวลาแตกแล้วจะแตกเป็นไยแมงมุมนั้น ส่วนใหญ่จะติดตั้งไว้เฉพาะกระจกบ้านหน้าเท่านั้น แต่ในรอบด้านอื่นๆ ยังเป็นกระจกที่แตกเป็นเมล็ดข้าวโพดอยู่ ซึ่งมีความอันตรายต่อผู้โดยสารเมื่อเกิดอุบัติเหตุจากด้านข้าง เพราะเศษกระจกจะปลิวมาบาดผู้โดยสารภายในได้ เพราะฉะนั้นผู้ที่ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางก็น่าจะเป็นกลุ่มผู้สนับสนุนฟิล์ม LAMINA DIGITAL CTX CERAMIC SAFETY ตัวนี้ของเรา

ซึ่งสำหรับตัวฟิล์มเซรามิกเอง ไม่ได้มีพัฒนาขึ้นมาเฉพาะสำหรับใช้กับรถยนต์เท่านั้น แต่ในแง่ของตัวอาคารทางเราก็มีจำหน่ายออกไปเยอะมากเช่นกัน โดยผลงานหลักๆ ที่ทางเราติดตั้งไป อาทิ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารสำนักงานใหญ่ของธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเขาค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยให้กับอาคารมาก

LAMINA DIGITAL CTX CERAMIC SAFETY ตัวนี้ ผ่านมาตรฐาน SACT ของ CP Films โรงงานผู้ผลิตฟิล์มลามิน่า ซึ่ง SACT นี้ หมายถึง The Best Surface เนื้อฟิล์มหนาถึง 100 ไมครอน หรือ 4 Mil. ผิวหน้ากันรอยขีดข่วนระดับ AAA, The Best Appearance เนื้อฟิล์มเข้มนอกชัดใน ในทุกสภาพแสงทั้งกลางวัน-กลางคืน, The Best Conductive/Reflective/Barrier ด้วย 3 คุณสมบัติพิเศษ กระจาย-สะท้อน-ปิดกั้นทุกความร้อน ทุกรังสีจากแสงแดดที่เป็นอันตรายได้สูงสุด และ The Best Technology เนื้อฟิล์มรองรับทุกสัญญาณดิจิตอล 100%

ในแง่ของกลยุทธ์การตลาด เราเน้นในเรื่องของ กลุ่มเป้าหมาย ที่เราวางไว้ชัดเจน จึงพยายามที่จะทำการสื่อสารทั้งในรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์เข้าไปยังกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด

5. ในยุคปัจจุบันที่ผู้บริโภคเปิดรับกระแสดิจิตอลอย่างกว้างขวาง ทางเทคโนเซลฯ มีการปรับองค์กร และพัฒนาแนวทางการทำตลาดอย่างไรบ้าง เพื่อตอบรับตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในวันนี้

ในยุดดิจิตัล 4.0 ทุกคนก็ต้องปรับตัวเองให้ทันยุคทันสมัย ที่สำคัญต้องมีความ “Speed” ในตัวสูง เพราะนี่ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ บริษัทเราจึงได้ตั้งทีม Spark IMC ขึ้นมา เพื่อที่จะเป็นทีมที่คอยเข้ามากระตุ้มทีมงานในบริษัทให้เกิดความคิดใหม่ๆ ในขณะเดียวกันก็คอยแสวงหาแนวคิดใหม่ๆ เพราะ ณ ตอนนี้ เราอยากได้ความคิดของคนรุ่นใหม่ ที่จะสามารถปรับแนวทางเพื่อให้สอดคล้องไปกับความคิดของคนรุ่นก่อนได้ด้วย เรียกว่าเป็นการผสมผสานเอาประสบการณ์เข้ากับความรู้ใหม่ๆ เข้าไว้ด้วยกัน

เรามีการเปิดกว้าง ทั้งความคิด และสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ในที่ทำงานเพื่อกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ถ้าทีมงานคนไหน รู้สึกว่าการนั่งทำงานในมุมทำงานเดิมๆ แล้วคิดอะไรไม่ออก น่าเบื่อ เราก็สร้างมุม Spark Café ขึ้นมาใหม่เพื่อตอบโจทย์ตรงนี้ มีทั้งชา กาแฟ ขนม หรือเปลี่ยนการประชุมบนโต๊ะประชุมแบบเดิมๆ มานั่งแชร์ไอเดียกันที่ Spark Café แห่งนี้ได้ หรือมุมอื่นๆ ของบริษัทได้ หลักๆ เลยทีมงานใน Spark IMC ก็มีสายครีเอทีฟเข้ามาสร้างสรรค์งานร่วมกับทีมงานคนอื่นๆ มากขึ้น

6. เชื่อว่าในฐานะผู้นำตลาดฟิล์มกรองแสง ย่อมต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย จากทั้งสถานการณ์ภายในและภายนอกที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งเทคติกการทำตลาดของคู่แข่ง ทางเทคโนเซลมีวิธีรับมืออย่างไร

ปัจจัยเหล่านี้ก็ถือเป็นสิ่งที่ทางเราคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว จึงได้มีการออกแคมเปญย้ำว่าฟิล์มเซรามิกแท้ตัวจริงคือ LAMINA DIGITAL CTX CERAMIC SAFETY สิ่งสำคัญที่สุดคือการเรียนรู้ และเข้าใจ เท่าทันตลาด สิ่งเหล่านี้ก็ได้มาจากประสบการณ์ที่เราสั่งสมกันมากว่า 23 ปี ทำให้เรามองเห็นทิศทางของตลาด และเข้าใจความคิดของร้านค้า โชว์รูม และผู้บริโภคระดับหนึ่ง

สิ่งสำคัญต่อมาคือ แม้ว่า เราจะอยู่ในตลาดนี้มานาน แต่เราก็ไม่เคยทะนงตนว่าเรารอบรู้ไปหมดเสียทุกอย่าง แต่เรายังคงเรียนรู้ และเปิดรับความคิดใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ Spark Café หรือการแสวงหาองค์ความรู้ใหม่ๆ เปิดรับองค์ความรู้ใหม่ๆ เข้ามาในองค์กรของเรา

ต่อมาก็คือในเรื่องของวัฒนธรรมองค์กรของเทคโนเซลฯ เราเน้นการสร้างคนในแต่ละรุ่นให้มีคุณภาพอย่างแท้จริง ทำให้ในบางข้อที่เราให้ความสำคัญนั้นมันเข้ามาสอดคล้องกับชีวิตของคนในปัจจุบันพอดี เช่น การส่งเสริมการกล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และการเรียนรู้ตลอดชีวิต

สิ่งเหล่านึ้คือองค์ความรู้ที่ทำให้คนของเรามีคุณภาพ ไม่ว่าคุณจะแข่งในตลาดไหนๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือบุคลากร ดังนั้นบริษัทเราจึงเน้นในเรื่องของการพัฒนาบุคลากรอย่างมาก

เมื่อเรามีคนที่มีคุณภาพ เข้าใจตลาดดี แคมเปญ หรือสื่อโฆษณาต่างๆ ในการที่เราจะอธิบายตลาด ก็พยายามที่จะทำให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของเราให้มากที่สุด ปรับเปลี่ยนองค์กรให้รวดเร็ว ทันยุคทันสมัยมากที่สุด

กระบวนการทำงานที่กล่าวมาข้างต้นก็ถือเป็นองค์รวมที่สำคัญ แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้ และเป็นหัวใจสำคัญที่สุดเลยก็คือ “สินค้า” เรากล้าพูดได้ว่าเราคัดสรรเอาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเทคโนเซลล์ โดยเฉพาะในเรื่องของฟิล์มกรองแสง ถ้าเรามองไปรอบโลก เราจะเห็นได้ว่า CP Films ที่มีการก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1995 เขาคือผู้นำฟิล์มกรองแสง

ที่มีคุณภาพเป็นอันดับหนึ่งของโลก และเราเองก็เป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงเจ้าเดียวในประเทศไทยต่อเนื่องมายาวนานถึง 23 ปี ไม่มีบริษัทฟิล์มรายไหนที่มีความสัมพันธ์อันดีต่อเนื่องยาวนานกับผู้ผลิตยาวนานขนาดนี้ ฉะนั้นเมื่อสินค้าดี มี Innovation มีนวัตกรรมใหม่ๆ ออกมาตลอด ได้ผู้แทนจำหน่ายที่เข้าใจตลาด เน้นในเรื่องของการเป็นผู้นำด้านการบริการ รวมทั้งการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ด้วยบุคลากรที่เราปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรเข้าไปแล้ว และมีการให้ข้อมูลที่เป็นความจริง ก็น่าจะทำให้เรายังคงเป็นผู้เล่นที่มีบทบาทสำคัญในตลาดฟิล์มกรองแสงต่อไป

7. จากความสำเร็จที่ผู้บริโภคโหวตให้ ลามิน่าเป็นผู้นำฟิล์มกรองแสงยอดนิยมอันดับ 1 ทางเทคโนเซลฯ มีทิศทางเป้าหมายอะไรต่อไป แล้วมีเคล็ดลับเพื่อก้าวไปให้ถึงเป้าหมายนั้น อย่างไร

เราเน้นในเรื่องของความเป็นผู้นำ 4 ประการ เรื่องแรกคือ Innovation หรือนวัตกรรม กับตัวสินค้า สองคือเรื่องการเป็นผู้นำด้านการบริการ นอกเหนือจาก Lamina Films Exclusive Shop ที่เราได้ตั้งขึ้นมาแล้ว ล่าสุดเรายังเปิดรวมผลิตภัณฑ์ที่เป็นซูเปอร์ฮีโร่เอาไว้ด้วยกันในนาม Ltimate Shop ในเร็วๆ นี้ก็คงจะได้ประชาสัมพันธ์เข้าสู่วงกว้างมากยิ่งขึ้น ส่วนที่สามคือ การเป็นผู้นำในด้านการให้ข้อเท็จจริง ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า มานั่งพูดคุยถึงข้อมูลจริงๆ ที่ลูกค้ามีข้อสงสัย ส่วนสุดท้ายคือ การเป็นผู้นำในเรื่องของการทำกิจกรรมตอบแทนสังคม ปีนี้เราทำโรงเรียนเป็นปีที่ 17 ปลูกป่าเป็นปีที่ 11 ซึ่งนอกเหนือจากการที่เราได้ใช้สินค้า และได้ขายสินค้าร่วมกันแล้ว ความรู้สึกผูกพันระหว่างเรากับลูกค้าก็คือการได้ทำกิจกรรมดีๆ ตอบแทนสังคมร่วมกัน ทำให้เกิดอาคารเรียนที่ต่างจังหวัด โครงการมินิสานฝันอีก 8 โครงการ มียูนิตทำฟันที่บริจาคให้กับชุมชน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้คือความเขื่อมโยงระหว่างเรากับลูกค้า ที่สำคัญได้ตอบแทนสังคมร่วมกัน

8. สุดท้ายนี้อยากให้ฝากแนวคิดในการที่จะก้าวสู่ผู้นำผลิตภัณฑ์อันดับ 1 ต้องประกอบด้วยปัจจัยอะไรบ้าง

เพราะสังคมในปัจจุบันมันมีทั้งข้อดี และข้อเสีย ความสะดวกสบายที่ได้รับต้องแลกมากับการใช้วิจารณญาณในการใช้ข้อมูล แต่ถ้าจะเป็นนักธุรกิจให้ได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน สองหลักที่ใช้มาตลอดคือ ธรรมภิบาล กับ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำให้บริษัทเทคโนเซลฯ อยู่รอดปลอดภัย ผ่านวิกฤติมาหลายรอบ และเติบโตได้มากระทั่งทุกวันนี้

เรื่อง : สัญชวัล จินดารัศมี

ภาพ : พิศวัส พงศ์พุฒิโสภณ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th