ความคล่องตัว รวดเร็ว ทางด้านเทคโนโลยีในปัจจุบัน ดูจะสวนทางกันกับการใช้ชีวิต ที่ต้องการความเรียบง่าย และผ่อนคลายมากขึ้นรอบด้าน แต่เชื่อเถอะว่า…นี่คือความขัดแย้งที่หลอมรวมอยู่ในพฤติกรรมผู้บริโภคยุค 2018

• นิยมปัญญาประดิษฐ์ (AI/VR) : คือสิ่งที่นักคิดค้นทั้งหลายดึงเอาแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค มาตอบโจทย์ได้ตรงจุด โดยเฉพาะการโฆษณาต่างๆ ถูกรังสรรค์ขึ้นให้มีความเสมือนจริงมากที่สุดจนแทบจะแยกไม่ออก และนั่นคือสิ่งที่เจ้าของ รวมถึงผู้บริหารต่างๆ ในโลกเทคโนโลยีต้องให้ความสำคัญ เพราะการเข้าถึงด้วยโฆษณาที่เสมือนจริง จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณเติบโตอย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะในวงการยานยนต์ ผู้บริโภคต้องการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ จับต้องได้จริง ความเป็นผู้นำ หรือการได้สิทธิพิเศษก่อนใคร ก่อนที่เขาจะตัดสินใจซื้อรถยนต์สักคัน

• ใช้การสั่งงานด้วยเสียง : หูฟังจะเข้ามาราวกับเป็นอวัยวะอีกส่วนหนึ่งของร่างกาย แม้ในขณะนอนหลับ แต่ในโลกของยานยนต์ การขับขี่จำเป็นต้องได้ยินเสียงของเพื่อนร่วมทางรอบข้างด้วยเพื่อความปลอดภัย ดังนั้นการสั่งงานด้วยเสียงไม่ใช่สิ่งที่รถยนต์ทุกคันควรจะมี แต่ ‘จำเป็น’ ต้องมี โดยเฉพาะประเทศไทยเรา การสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยอาจตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้มากกว่า ดังเช่นที่ MG ZS ได้เปิดตัวระบบ I – SMART ระบบอัจฉริยะที่สามารถสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยได้ ซึ่งแนวโน้มของผู้บริโภคในอีก 3 ปีข้างหน้าต่อจากนี้ เชื่อว่ามนุษย์เราจะมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งของต่างๆ ไม่ด้วยสีหน้าท่าทาง ก็ต้องด้วยเสียงพูด

• เปิดรับเทคโนโลยีอัจฉริยะมากขึ้น : ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มเด็กนักเรียน วัยทำงาน หรือวัยกลางคน ที่หันมาเปิดรับการเรียนรู้ใหม่ๆ ในโลกเทคโนโลยี แต่ในเด็กเล็ก และกลุ่มผู้สูงอายุเริ่มเข้ามามีอิทธิพลในโลกเทคโนโลยีมากขึ้น ดังนั้นเทคโนโลยีในยานยนต์ที่ควรผลิตออกมาตอบสนองความต้องการของคนกลุ่มนี้ ควรมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่โดนใจใดบ้างที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อทันที ซึ่งไม่ว่าระบบอัจฉริยะที่ผลิตออกมาจะล้ำสมัยแค่ไหน ถ้าตอบโจทย์ตรงใจผู้บริโภคก็พร้อมเรียนรู้ เพื่อเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ

• โซเชียลเน็ตเวิร์กคือชีวิต : ปฏิเสธลำบากว่าจะไม่มีใครเล่นโทรศัพท์ขณะขับรถ เพราะโลกโซเชียลคือสิ่งที่คนส่วนใหญ่ขาดไม่ได้ ไม่เฉพาะอัพเดตเรื่องราวชีวิต แต่เรื่องธุรกิจการงานก็มีวงจรอยู่บนนั้น ความไวในการโต้ตอบกับลูกค้า หรือประชุมบอร์ดผู้บริหาร บางครั้งยังต้องทำผ่านแอพพลิเคชั่นบนหน้าอินเตอร์เน็ต จะให้ไม่จับขณะขับคงยาก ฉะนั้นผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลายจึงพยามยามคิดค้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองให้ตอบโจทย์จุดนี้ได้มากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตภายในรถยนต์ หรือตำแหน่งในการวางอุปกรณ์ภายในรถยนต์

• เสพย์ติดการผ่อนคลาย : 32 เปอร์เซ็นต์ของนักเรียนและคนทำงานคิดว่าพวกเขาไม่ต้องการมีชีวิตอยู่เพื่อที่จะทำงานเท่านั้น 40 เปอร์เซ็นต์กล่าวว่าพวกเขาต้องการหุ่นยนต์ที่จะสามารถทำงานสร้างรายได้ให้แก่พวกเขา และยังสามารถมีเวลาพักผ่อนอีกด้วย ดังนั้นในโลกที่มีข้อจำกัดหลากหลาย แต่ความต้องการช่างมากมายเช่นนี้ รถยนต์หนึ่งคันที่จะสามารถทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้นั้น จำเป็นที่จะต้องตอบโจทย์ทั้งหมด คือสามารถใช้ในชีวิตประจำวัน ไปทำงาน ซื้อของเข้าบ้าน หรือไปฟิตเนส และยังต้องถูกสร้างมาเพื่อให้พวกเขาใช้ในวันพักผ่อน เช่นการขับรถไปต่างจังหวัดกับครอบครัว หรือพร้อมที่จะขนอุปกรณ์เพื่อไปลุยกับพวกเขาได้ด้วย จึงเห็นได้ชัดเจนว่ารถยนต์เอนกประสงค์ได้รับความนิยมสูงขึ้นมาก และยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

• อยากมีถนนบนอากาศ : เราเสียเวลาไปมากแค่ไหนกับการจราจรบนถนนทั่วไปในเมือง มีงานวิจัยหนึ่งสรุปผลว่า ผู้บริโภคจำนวน 39 เปอร์เซ็นต์ต้องการถนนบนท้องฟ้า เพราะคิดว่าเมืองของพวกเขาต้องการโครงข่ายถนนสำหรับโดรน และยานพาหนะที่บินได้ อย่างไรก็ตามพวกเขายังมีความกังวลว่าโดรนจะหล่นลงบนหัวของพวกเขาสักวัน ดังนั้นความสะดวกรวดเร็วคือสิ่งที่ตอบโจทย์ได้มากที่สุด ไม่จำเป็นว่าความสบายจะต้องใหญ่โต แต่ความสะดวกสบายและรวดเร็วต่างหากที่ตรงจุด แม้ว่าจะเป็นรถยนต์ไซส์มินิอย่างอีโค่คาร์ แต่ถ้าสามารถออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ครบได้ทุกความต้องการ ความเล็กกะทัดรัดนี่แหละที่จะเป็นจุดพีค เพราะสามารถลัดเลาะ ปลอดภัย หาที่จอดได้ง่ายกว่า

• ต้องการพลังงานสำรองสูง : โลกแห่งอนาคต โลกแห่งการเชื่อมต่อย่อมต้องการพลังงาน มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคเชื่อว่าภายในอีก 5 ปีข้างหน้า เราจะมีแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องที่ชาร์จอีกต่อไป เช่นเดียวกับความใส่ใจที่ค่ายรถยนต์หลายๆ ค่ายเริ่มพัฒนาให้มีจุดเชื่อมต่อแบตเตอร์รี่มากขึ้น ลองคิดดูแล้วกันว่ารถแท็กซี่ หรือรถตู้โดยสารยังต้องหาซื้อแบตเตอร์รี่สำรองเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าของพวกเขาได้นั่งชาร์จแบตกันอย่างสบายใจ แล้วคุณในฐานะผู้ผลิตรถยนต์จะไม่คิดเพิ่มจุดเชื่อมต่อให้มากขึ้นหรือ?

*ข้อมูลบางส่วนจากผลสำรวจแนวโน้มในอนาคตจากทัศนคติของผู้ใช้งาน อีริคสัน (NASDAQ: ERIC) ผลสำรวจออนไลน์เกี่ยวกับผู้ใช้อินเตอร์เน็ตใน 10 เมืองทีมีอิทธิพลทั่วโลก เมื่อเดือนตุลาคม 2560 การศึกษาในครั้งนี้อ้างอิงจากกลุ่มตัวอย่างประชากรจำนวน 30 ล้านราย ซึ่งเป็นผู้ที่มีการปรับเปลี่ยนได้เร็วกว่าผู้อื่นทำให้กลุ่มตัวอย่างมีความเข้าใจในการทำแบบสำรวจแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

เรื่อง: สัญชวัล จินดารัศมี

ขอบคุณข้อมูล: pixabay

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th