2022 Honda Civic e:HEV เผยโฉมครั้งแรกใน บางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 เตรียมวางขาย 2 รุ่น คาดตัวท็อปรุ่น RS ราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาท

หลังจากมีข่าวเตรียมวางขาย Honda Civic e:HEV ในกลุ่มประเทศยุโรปในช่วงปลายปี 2022  ฮอนด้า มอเตอร์ ประเทศไทย ก็สร้างเซอร์ไพรซ์ ด้วยการประกาศเปิดตัว All New Honda Civic e:HEV เป็นครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 43  พร้อมเปิดจองสิทธ์ภายในงานตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม – 3 เมษายน 2565 

ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี ใหม่ มีขุมพลังแบบ ฟูลไฮบริด e:HEV เป็นการผสานการทำงานของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มาพร้อมกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) แบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน

ระบบฟูลไฮบริดมีการปรับโหมดการขับขี่ให้เหมาะสมตามสถานการณ์ 3 โหมด คือ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)

ทั้งยังเลือกโหมดการขับขี่ที่ได้ตามสไตล์ 3 โหมด คือ ECON Mode – โหมดการขับขี่แบบประหยัด  Normal Mode – โหมดการขับขี่แบบปกติ ใช้งานโดยทั่วไปและ Sport Mode – โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต เครื่องยนต์ตอบสนองการเร่งได้ดียิ่งขึ้น 

ซีวิค อี:เอชอีวี ใหม่ เตรียมวางขาย 2 รุ่นย่อย (ราคาประมาณการจาก ฮอนด้า ประเทศไทย)

• รุ่น e:HEV RS ราคาประมาณการไม่เกิน 1,270,000 บาท 
• รุ่น e:HEV EL+ ราคาประมาณการไม่เกิน 1,150,000 บาท

Civic e:HEV +  มาพร้อมดีไซน์บ่งบอกความเป็นยนตรกรรมไฮบริด โลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้าย กระจังหน้าและกันชนหน้าสไตล์สปอร์ต และมือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถตกแต่งด้วยโครเมียม ไฟหน้าตกแต่งด้วยโครเมียมพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED   เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วสีใหม่

มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สายและ Android Auto พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง Siri ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ฯ

Civic e:HEV RS ดีไซน์สปอร์ตกว่า ด้วยกระจังหน้าตกแต่งด้วยโครเมียม และกันชนหน้าดีไซน์สปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS ไฟหน้าตกแต่งด้วยโครเมียม ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าและไฟท้ายแบบ LED  กระจกมองข้างสีดำ มือจับประตูด้านนอกสีดำตกแต่งด้วยโครเมียม เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ สปอยเลอร์หลังสีดำพร้อมสัญลักษณ์ RS ด้านท้าย  ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 18 นิ้ว ภายในห้องโดยสาร เบาะหนังกลับและวัสดุสังเคราะห์ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต 

ภายใน เบาะนั่งด้านหลังแยกพับแบบ 60:40 ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะพร้อม Honda Smart Key Card มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง Siri อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา ช่องปรับอากาศและช่องเชื่อมต่อ USB2 ตำแหน่งสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT)

ระบบ Honda SENSING  

• ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
• ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
• ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN

เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่น ๆ อาทิ

• ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
• ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor)
• กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera)
• ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
• ระบบ Auto Brake Hold
• ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
• ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า และผู้โดยสารด้านหลัง (Front Passenger and Rear Seat Belt Reminder) และไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder)

สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี 

• สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV RS
• สีดำคริสตัล (มุก) สีขาวแพลทินัม (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีฟ้ามอร์นิงมิสต์ (เมทัลลิก) เฉพาะรุ่น e:HEV EL+
• สีภายใน มีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีเทาเบจ ซึ่งขึ้นอยู่กับสีภายนอก รุ่น e:HEV RS สีภายในจะเป็นสีดำเท่านั้น

ทั้งนี้ ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี ใหม่ จะทำการเปิดตัวและจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน 2565 แม้จะเป็นเพียงการนำรถมาโชว์ก่อนล่วงหน้าแต่ทางฮอนด้าได้เปิดให้ลูกค้าที่สนใจได้จองสิทธิ์ล่วงหน้ากันได้ทั้งภายในมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 และโชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2565 – 31 พฤษภ าคม 2565

ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่ที่จองสิทธิ์ ฮอนด้า ซีวิค อี:เอชอีวี ใหม่  รับฟรี ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) แพ็กเกจขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร ต่อจากระยะเวลาหรือระยะทางการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรแรกสิ้นสุดลง มูลค่า 19,500 บาท โดยจะได้รับสิทธิ์เมื่อจองและรับรถภายในวันที่บริษัทฯ กำหนด