2023 Nissan Almera พร้อมขายไทย 11 พ.ค. นี้ หลังจากที่เผยโฉมอย่างเป็นทางการไปแล้วที่สหรัฐอเมริกาภายใต้ชื่อ New Nissan Versa 2023 เป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ปรับดีไซน์ภายนอกให้ดูทันสมัยมากขึ้น เพิ่มจอสัมผัส 8 นิ้ว Wi-Fi Hotspot และที่ชาร์จไฟไร้สาย โดย Nissan Versa 2023 ที่เปิดในสหรัฐอเมริกา จะมาพร้อมขุมพลังเบนซิน 1.6 ลิตร กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แต่ในประเทศไทยน่าจะยังคงใช้เบนซินเทอร์โบ 1.0 ลิตร 100 แรงม้า เช่นเดิม

ภายนอกมีการปรับดีไซน์ใหม่ให้ดูทันสมัย และเท่ มากยิ่งขึ้น มาพร้อมกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ แต่ยังคงเอกลักษณ์แบบ V-motion ไว้พร้อมโลโก้นิสสันแบบใหม่ ไฟหน้า LED พร้อมไฟ LED signature ในโคมเดียวกัน กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ไฟท้าย LED

กันชนหลังยังคงใช้ดีไซน์เดิม โลโก้ Nissan รูปแบบใหม่ติดตั้งทั้งกระจังหน้า ฝาท้าย และดุมล้อ เสริมด้วยล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 17 นิ้ว ในรุ่นท็อปสุด

ภายในห้องโดยสารมีการเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ ที่จำเป็นมาให้เช่น Wireless Charger และ หน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay ที่วางแขนในคอนโซลกลางและเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ มีช่อง USB จำนวน 3 ตำแหน่ง, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันท้ายตัด สามก้านปะโลโก้ Nissan ใหม่ ,กุญแจรีโมทแบบ Keyless Entry รวมถึงติดตั้งระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Automatic Emergency Braking และระบบเตือนรถออกนอกเลน Lane Departure Warning เบาะนั่งด้านหลังปรับพับแยกแบบ 60:40

Nissan Versa 2023 ในสหรัฐอเมริกาถูกติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC ความจุ 1.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า สามารถเลือกได้ทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT

แต่ในประเทศไทยคาดว่าจะยังคงใช้ขุมพลังเดิมคือ เบนซิน 3 สูบเทอร์โบ ความจุ 1.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 100 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 152 นิวตัน-เมตร ที่ 2,400 – 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT

ล่าสุดเราได้จบเจอ Nissan Almera 2023 ติดสติกเกอร์พรางด้านหน้า และท้าย บนถนนในเมืองไทย ซึ่งนั้นเป็นการยืนยันแล้วว่า นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กำลังจะปล่อย นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ เร็วๆนี้อย่างแน่นอน ซึ่งจากการคาดการณ์น่าจะเปิดตัวภายในปี 2023 นี้ เก็บเงินรอได้เลยครับ www.nissan.co.th

เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th

ภายนอกมีการปรับดีไซน์ใหม่ให้ดูทันสมัย

และเท่ มากยิ่งขึ้น มาพร้อมกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ แต่ยังคงเอกลักษณ์แบบ V-motion ไว้พร้อมโลโก้นิสสันแบบใหม่ ไฟหน้า LED พร้อมไฟ LED signature ในโคมเดียวกัน

กระจกมองข้างทรงพร้อมไฟเลี้ยว และ ไฟท้าย LED และกันชนหลังยังคงใช้ดีไซน์เดิม โลโก้ Nissan รูปแบบใหม่ติดตั้งทั้งกระจังหน้า ฝาท้าย และดุมล้อ เสริมด้วยล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 17 นิ้ว ในรุ่นท็อปสุด

ภายในห้องโดยสารมีการเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ

ที่จำเป็นมาให้เช่น Wireless Charger และ หน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Android Auto และ Apple CarPlay ที่วางแขนในคอนโซลกลางและเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ

มีช่อง USB จำนวน 3 ตำแหน่ง, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันท้ายตัด สามก้านปะโลโก้ Nissan ใหม่ ,กุญแจรีโมทแบบ Keyless Entry รวมถึงติดตั้งระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ

Automatic Emergency Braking และระบบเตือนรถออกนอกเลน Lane Departure Warning เบาะนั่งด้านหลังปรับพับแยกแบบ 60:40