Nissan Note เจเนเรชันที่ 3 ซึ่งเปิดตัวออกมาเมื่อปี 2020 แต่ไม่ได้มีขายในไทยเหมือนกับเจเนเรชันที่ 2 ได้รับการปรับโฉมที่ญี่ปุ่นในโมเดลปี 2024 มาพร้อมกับหน้าใหม่ตามรถรุ่นใหม่หลายๆ รุ่น

หลังทำตลาดมา 3 ปี 2024 Nissan Note เจเนเรชันที่ 3 ก็ได้รับการปรับโฉมครั้งใหญ่ แตกต่างจากรุ่นก่อนปรับโฉมอย่างชัดเจน เพราะที่ด้านหน้าของรถมาพร้อมกับทั้งกระจังหน้าและกันชนหน้าใหม่ โดยกระจังหน้า V-Motion ใหม่ของรถเปลี่ยนมาเป็นหลายแถบแนวนอนสีเดียวกับตัวรถและสีเทา Dark Metal Grey พร้อมแต่งด้วยแถบโครเมียมที่ใต้ไฟหน้าของรถ

นอกจากนี้รถแฮทช์แบ็กรุ่นปรับโฉมยังสีม่วงซึ่งถูกระบุว่าเป็นสีพิเศษมีโทนอมสีแดงในแสงแดดแต่อมสีฟ้าเมื่ออยู่ในร่ม และสีเขียว Turquoise ใหม่ให้เลือก พร้อมมีฝาครอบล้อขนาด 16 นิ้วลายใหม่ในสไตล์ล้อของรถไฟฟ้า ขณะที่กันชนหลังของรถมีส่วนล่างเป็นลายในลักษณะไม่สมมาตรซึ่งถูกระบุว่ากลมกลืนกับทิวทัศน์ของญี่ปุ่น

ห้องโดยสารของรถมีการอัปเดตด้วยการเพิ่มลายใหม่ที่แผงแดชบอร์ด และเบาะผ้า นอกจากนี้ยังมีช่องเก็บของด้านหน้าผู้โดยสารขนาดใหญ่ขึ้นและแบ่งเป็น 2 ช่อง ในขณะที่จอ Infotainment ยังคงมีขนาด 9 นิ้ว และจอแสดงข้อมูลผู้ขับยังคงมีขนาด 7 นิ้วเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า อย่างไรก็ตามทางผู้ผลิตมีเบาะหมุนออกด้านข้างได้เพื่อให้ความสะดวกในการเข้า-ออกจากรถเป็นออปชันให้เลือก

สำหรับอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ที่มาพร้อมกับรถรุ่นปรับโฉมมี Intelligent Key ที่ล็อกและปลดล็อกอัตโนมัติเมื่อผู้ขับเดินมาถึงรถ มีไฟหน้า LED ในรถทุกเกรด และยังปรับปรุงประสิทธิภาพชุดระบบช่วยขับ 360 Safety Assist ทำให้ปรับความเร็วของรถตามการจราจรอัตโนมัติ

ระบบขับเคลื่อนของรถยังคงไม่เปลี่ยนไปจากรุ่นก่อนปรับโฉมที่ยังคงเป็นเทคโนโลยี e-Power เจเนเรชันที่ 2 ใช้เครื่องยนต์ 3 สูบ 1.2 ลิตรเพื่อสร้างพลังงานไฟฟ้าให้กับมอเตอร์เดี่ยวในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าหรือมอเตอร์คู่ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยรถแฮทช์แบ็ก e-POWER รุ่นใหม่จะเริ่มขายที่ญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกราคม 2024 เป็นต้นไปในราคา 2,299,000 เยนสำหรับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า และ 2,580,600 เยนสำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือประมาณ 546,000 บาทและ 633,000 บาทตามลำดับ