3 สีรถยอดนิยม 2018 'ขาว-ดำ-เทา' ครองใจคนใช้รถทั่วโลก 2018

เทรนด์ความชอบสีรถยนต์ของผู้คนทั่วโลกในปี 2018 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง หลังจาก “สีขาว”, “สีดำ” และ “สีเทา” เป็นตัวเลือก 3 อันดับแรกของรถยนต์ที่ผลิตขายทั่วโลก พร้อมการกลับมาของ “สีเขียว” ที่ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นในทุกภูมิภาค

รายงานเทรนด์สีรถยอดนิยม-Global Color Trend Popularity ของ PPG ผู้ผลิตสียักษ์ใหญ่จากประเทศสหรัฐฯ รวบรวมข้อมูลจากจำนวนการผลิตรถยนต์ทั่วโลกในรอบปี 2018 ที่มีการประเมินว่าจะสูงกว่า 81.3 ล้านคัน โดยรถยนต์ “สีขาว” ถูกผลิตมากที่สุด 39 เปอร์เซ็นต์หรือราว 31.7 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์จากปี 2017

ในอันดับ 2 “สีดำ” ตัวเลขไม่เปลี่ยนแปลงจากปีก่อนอยู่ที่ 17 เปอร์เซ็นต์ ตามด้วย “สีเทา” 12 เปอร์เซ็นต์ และ “สีเงิน” 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนรถยนต์ “สีน้ำตาล”, “สีแดง” และ “สีน้ำเงิน” ได้รับความนิยมเท่ากันที่ 7 เปอร์เซ็นต์ โดย “สีเขียว” รั้งท้ายที่ 1 เปอร์เซ็นต์หรือ 813,000 คัน แต่มีแนวโน้มว่าความนิยมกำลังจะกลับมา

“ในขณะที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่เลือกโทนสีทั่วไปเช่น สีขาวหรือสีดำเมื่อต้องตัดสินใจซื้อรถยนต์ แต่สีเขียวก็มีประวัติว่าเคยเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมที่สูงจนน่าเหลือเชื่อ โดยเฉพาะช่วงทศวรรษ 90” Jane Harrington ผู้จัดการฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์สีรถยนต์ทั่วโลกของ PPG ให้ความเห็น “ในปี 1999 เป็นจุดเริ่มต้นที่ผู้บริโภคเปลี่ยนมาเลือกโทนสีธรรมชาติมากขึ้น จนทำให้ความนิยมสีเขียวลดลงอย่างต่อเนื่องในแต่ละปี และถึงจะมีตัวเลขที่น้อยมากในรายงานความนิยมสีรถยนต์ประจำปี 2018 แต่เทรนด์ของอุตสาหกรรมรถยนต์ในอนาคตจะสะท้อนผ่านความนิยมสีเขียวที่กำลังกลับมาในการตบแต่งบ้าน, เฟอร์นิเจอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอื่นๆ”

เทรนด์ “สีเขียว” ถูกจับตามองมากขึ้นหากดูจากข้อมูลตามภูมิภาค โดยอเมริกาเหนือมีตัวเลข 2 เปอร์เซ็นต์ในกลุ่มรถเอสยูวี รวมทั้งถูกเลือกใช้เป็นสีโปรโมตของ Mercedes-Benz G-Class และ Ford Mustang Bullitt รุ่นพิเศษของรถสปอร์ตที่เป็นสัญลักษณ์ของชาวอเมริกัน ตอนเปิดตัวที่งานนอร์ธ อเมริกา อินเตอร์เนชั่นแนล ออโต้ โชว์ 2018

ตรงกันข้ามกับประเทศจีน คู่ปรับสำคัญในเวทีการเมืองโลก จะเลือกใช้รถยนต์ “สีเทา” และ “สีเงิน” มากกว่าหากแบ่งย่อยเป็นเซกเม้นต์ โดย “สีขาว” จะได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็กซับคอมแพ็กต์ที่ตัวเลข 17 เปอร์เซ็นต์

“ตามการคาดการณ์เทรนด์สีของ PPG เราเชื่อว่าโทนสีธรรมชาติ และสีเขียวเข้มจะได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคในหลายอุตสาหกรรม จากธรรมชาติของผู้คนที่ต้องการหาพื้นที่เพื่อหลบพักจากการแข่งขันตามความเปลี่ยนแปลงของสังคมในยุคดิจิตอล โดยสะท้อนผ่านงานด้านสถาปัตยกรรมทั้งการออกแบบตึกสมัยใหม่ที่จะมีพื้นที่สีเขียวหรือสวนแนวตั้ง เช่นเดียวกับตึกสูงหลายแห่งจะต้องสร้างพื้นที่สีเขียวบริเวณชั้นดาดฟ้า ด้วยการที่ผู้บริโภคต้องการความสงบ และเรียบง่ายของธรรมชาติ โดยความต้องการนี้ส่งอิทธิพลต่อความนิยมในการเลือกสีของผู้คน” Harrington กล่าวสรุป