หลายคนคงเคยเจอกับเหตุการณ์ที่โชคไม่เข้าข้างหรือเรียกง่ายๆ ว่า “ซวย” นั่นเอง ถ้าวันนั้นเจอรถจักรยานยนต์ขี่มาชนหรือเฉี่ยวกับรถของเราแล้วหนีหายไปอย่างไม่ใยดี ( ชนแล้วหนี ) ทั้งๆ ที่เรายังรถติดไปไหนก็ไม่ได้ นอกจากต้องทำใจอย่างเดียว แต่บางคนก็จอดเพื่อมารับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำ (แต่เป็นส่วนที่น้อยมาก) จนทำให้เกิดข้อสงสัยว่า รถจักรยานยนต์เหล่านี้ทำไมต้องหนี แล้วทำไมไม่มารับผิดชอบหรือตกลงกับคู่กรณีกับสิ่งที่ตนได้กระทำไว้ ซึ่งบางครั้งถ้าได้รับคำขอโทษ คู่กรณีของคุณอาจจะไม่เอาผิดอะไรคุณก็ได้ แต่คุณกลับเล่นขี่ไปดื้อๆ แบบนี้รถชาว 4 ล้อก็แย่สิคะ เรามาดูเหตุผลหลักๆ ของชาว 2 ล้อกันดีกว่าที่ชอบชนแล้วหนีเพราะอะไร???

1. ไม่มีประกัน

ที่ขับหนีกันส่วนใหญ่เพราะรถไม่มีกันภัยกันนี่แหละ เพราะตอนออกรถใหม่จะมีแค่ พ.ร.บ. และประกันรถหาย

แค่นั้น หากผู้ซื้อต้องการทำประกันอุบัติเหตุเพิ่มเติมนั้นต้องเสียค่าใช่จ่ายเพิ่ม ซึ่งมันก็แพงพอสมควร ทำให้รถจักรยานยนต์ส่วนใหญ่ไม่ทำประกันอุบัติเหตุกันนั้นเอง

2. ไม่มีใบขับขี่

สมัยนี้ใบขับขี่ทำยากขนาดนั้นเลยหรอ ถึงทำให้คนที่ใช้รถกันทุกวันไม่มีใบขับขี่ พอเกิดอุบัติเหตุก็ไม่สนใจคนอื่น

รีบขับรถหนี เนื่องจากกลัวความผิดเพราะตนเองนั้นไม่มีใบขับขี่ ถ้าอยากขับรถแบบปลอดภัยสบายใจ ควรสละเวลาของคุณไปทำใบขับขี่เพื่อชีวิตที่ปลอดภัยของคุณ

3. ไม่ได้เสียภาษี

เนื่องจากขาดส่งการเสียภาษีรถ ทำให้ไม่มีการคุ้มครองใดๆทั้งสิ้น ไม่มีก็หนีดีกว่าทำแบบนี้ไม่ถูกนะคะ ทางที่ดี

ควรรักษากฎหมายและปฎิตามกฎระเบียบของกรมทางขนส่งกันดีกว่าคะ

4. ไม่มีจ่าย

บางคนยอมขับตามไปจับคู่กรณีมาจนได้ เมื่อได้สอบถามว่าทำไมต้องหนี เหตุผลง่ายๆ คือ “ไม่มีจ่าย” พอได้ยิน

แบบนี้ก็ช็อคสิค่ะ ไม่มีจ่ายก็ควรตกลงกันดีๆ ไม่ใช่หนีกันไปดื้อๆ แล้วทิ้งความเสียหายที่เราไม่ได้ก่อขึ้น และเรายังต้องมานั่งรับผิดชอบกับสิ่งที่เราไม่ได้ทำ มันใช่เรื่องหรอ???

ทุกวันนี้สังคมของเราจะน่าอยู่ขึ้นเพียงแค่เรามอบน้ำใจให้กัน เห็นใจกัน รับผิดชอบในสิ่งที่เราทำ เพื่อลดปัญหาการสูญเสียและเกิดการทะเลาะวิวาท อย่าให้ความเห็นแก่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนอีกเลยนะคะ

ขอบคุณภาพ : prumon (Pantip)

ขอบคุณข้อมูล : pantip.com

เรื่อง : สุทธินี วงค์นาญาติ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th