5 วิธีเอาตัวรอดเมื่อขับรถผ่านน้ำท่วมสูง
ต้องยอมรับว่าเมืองไทยเป็นเมืองที่เอาแน่เอานอนเรื่องฤดูกาลไม่ได้ เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว (นิดนึง) เดี๋ยวฝน บางครั้งฝนที่เทลงมาทำให้เกิดน้ำท่วมขังรอการระบาย โดยเฉพาะน้ำท่วมสูง และพวกเรามักจะได้ยินข่าวร้ายอยู่บ่อยครั้งเกี่ยวกับเหตุการณ์น้ำท่วมและเกิดอุบัติเหตุตามมา เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว แน่นอนว่ารถยนต์ของเรานั้นไม่สามารถลุยน้ำหรือดำน้ำได้ เหมือนกับรถหรูของเจมส์ บอนด์ 007 แต่อย่างใด ยิ่งเป็นแบบนี้เรายิ่งต้องเรียนรู้ให้มากว่าจะขับรถผ่านน้ำท่วมสูงรอระบายยังไงดีให้ปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินของเรากับ 5 วิธีขับรถผ่านน้ำท่วมต้องทำไง ? มาอ่านกันเถอะ
- เจอน้ำท่วมต้องปิดแอร์
หากเกิดเหตุสุดวิสัยจริง ๆ เจอน้ำท่วมสูงรอการระบาย ต้องบอกก่อนเลยว่า หากจำเป็นต้องขับรถลุยน้ำท่วมระดับถึงพัดลมรถยนต์ คุณไม่ต้องกลัวร้อน ให้ปิดแอร์เปิดกระจกทุกบานระหว่างขับรถ เพราะพัดลมแอร์อาจจะพัดน้ำเข้าห้องเครื่อง ทำให้ตัวใบพัด และอะไหล่อื่น ๆ เสียหายจากน้ำได้ หากดื้อดึงไม่ปิดแอร์เจ้าใบพัดจะนำสิ่งสกปรก เศษขยะที่ลอยมาตามน้ำพัดเข้าห้องเครื่องทำให้เครื่องยนต์ดับและเสียหาย ถ้าเจอน้ำท่วมสูงมากไม่ควรลุยต่อ และหยุดพักก่อนดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของคุณ
- ขับลุยน้ำท่วมใช้เกียร์ต่ำ
จำไว้ว่าเจอน้ำท่วมต้องใจเย็น ค่อย ๆ ขับด้วยการใช้เกียร์ต่ำหากเป็นรถยนต์เกียร์ธรรมดาให้ใช้เกียร์ 1 และเกียร์ 2 เท่านั้น หากขับรถออโต้ก็ค่อยเลี้ยงความเร็วไปเรื่อย ๆ สามารถใช้เกียร์ L (Low) หรือเกียร์ต่ำที่สุดของเครื่อง รักษาความเร็วให้สม่ำเสมอ พยายามขับจนกว่าจะพ้นต่ำแหน่งน้ำท่วมสูง ห้ามเร่งรอบสูง หรือเร่งความเร็วเด็ดขาด เพราะรถยนต์สุดที่รักของเราอาจจะดับกลางน้ำได้ล่ะ
อย่างไรก็ดี หากเกิดเกิดขับลุยน้ำแล้ว ดั๊นนน !! รถดับกลางน้ำท่วมไม่ต้องตกใจ ใครที่ซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ประกันชั้น 2+ หรือประกันชั้น 3+ เอาไว้คุณจะได้รับความคุ้มครองกรณีน้ำท่วม แนะนำว่ารีบโทรหาบริษัทฯ ประกันของคุณเพื่อแจ้งเหตุ และขอความคุ้มครองได้ทันทีครับ หากประกันรถใกล้หมดจะให้สะดวกซื้อประกันออนไลน์ได้นะครับ
- สังเกตระดับน้ำให้ดี ถ้าลึกเกินอย่าลุย
เพราะรถยนต์เราเป็นยานพาหนะทางบกที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรับมือกับน้ำสูง ให้คุณสังเกตจากรถคันหน้า ถ้าน้ำท่วมเกินครึ่งล้อคันหน้า แนะนำให้หยุดจอดเทียบข้างทาง หรือหาที่ปลอดภัยจอดรอ จนกระทั่งน้ำท่วมถึงระดับที่เหมาะสม และเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันระดับน้ำที่เหมาะกับรถยนต์แต่ละประเภท มีดังนี้
- รถเก๋ง ห้ามลุยน้ำท่วมสูงเกิน 25 เซนติเมตร
- รถกระบะสายลุย สามารถลุยน้ำท่วมสูงสุดประมาณ 40 เซนติเมตร
- รถกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อ 4WD สูงสุด 50 เซนติเมตร
- ขับช้าไว้ก่อน เว้นระยะให้ดี
“Slow but sure.” หากเจอน้ำท่วมจงรักษาระดับรอบเครื่องไว้ที่ 1,500 – 2,000 รอบ ห้ามต่ำหรือสูงกว่านี้ เพราะถ้ารอบต่ำเครื่องดับน้ำเข้ารถ หากขับเร็วรอบสูงก็ดูดน้ำเข้ารถยนต์อีก นอกจากนี้ คุณจะต้องรักษาระยะให้ดี ขับห่างจากคันหน้าให้มากกว่าปกติ ไม่ควรจี้ท้าย เพื่อให้เบรกได้ทันท่วงทีหากเกิดเหตุฉุกเฉิน และลดความเร็วทันทีหากมีรถสวนทาง ป้องกันไม่ให้เกิดคลื่นน้ำ กระทบสูงซัดเข้าห้องเครื่องรถยนต์ของเรา
- เบรกเป็นช่วง ๆ ไล่น้ำจากผ้าเบรก
อาจจะ “งง” ว่า บอกให้ขับช้า ๆ รักษาความเร็ว เว้นระยะห่าง ไหงมาบอกว่าให้ขับแล้วเบรกเป็นช่วง ๆ อีกล่ะ ขออธิบายเลยว่า ระบบเบรกที่อยู่ใต้น้ำจะมีประสิทธิภาพลดลงจากเดิม ดังนั้น รถออโต้ต้องหมั่นเหยียบเบรกเปนช่วง ๆ เพื่อไล่น้ำออกจากระบบเบรก ส่วนรถเกียร์ธรรมดาก็ต้องเหยียบคลัตช์เพิ่มด้วยนะ ป้องกันไม่ให้คลัตช์ลื่น
พอเข้าใจ 5 วิธีขับรถผ่านน้ำท่วมสูงแล้ว แนะนำว่าลุยน้ำท่วมเสร็จ เมื่อกลับถึงบ้านอย่าเพิ่งดับเครื่องรถยนต์ ให้วอร์มเครื่องไล่น้ำที่อาจจะไหลเข้าหม้อพักท่อของรถยนต์ หลังจากนั้นให้นำรถไปล้างด่วน ๆ เน้นฉีดทำความสะอาดใต้ท้องรถเป็นพิเศษ เพื่อทำความสะอาดให้รถยนต์ของเราคงสภาพดีเยี่ยมอยู่เสมอล่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก Frank.co.th
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th