5 อันดับ รถน่าใช้ ราคาไม่เกิน 500,000 บาท
เมื่อมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ จะหารถยนต์ใช้หนึ่งคันมันต้องคิดให้รอบคอบ ทั้งค่าผ่อนต่อเดือน ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง แถมยังมีงบประมาณจำกัด เอาเป็นว่าถ้าคุณเงินเดือน 15,000 บาท รถที่คุณจะสามารถซื้อได้และผ่อนสบาย แบบไม่ต้องอดมื้อกินมื้อ รถยนต์คันนั้นต้องราคาไม่เกิน 500,000 บาท คราวนี้เราจะมาดูกันว่าถ้าเรามีงบประมาณแค่นี้ จะได้รถประเภทไหนรุ่นไหน ผมเลยคัดเลือกรถยนต์ที่ราคาไม่เกิน 500,000 บาท และคุ้มค่าน่าใช้มาให้เพื่อนดูกันครับ
1 . Suzuki Swift GA CVT ราคา 499,000 บาท
Suzuki Swift (ซูซูกิ สวิฟท์) เจนสองของอีโคคาร์ยอดนิยม มาพร้อมกับเครื่องยนต์ใหม่ ขุมพลังสุดประหยัด เบนซิน K12M ขนาด 1.2 ลิตร เพิ่มเทคโนโลยีใหม่คือหัวฉีดคู่หรือ DUALJET แรงม้าสูงสุด 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที รองรับน้ำมัน E20 ส่งพละกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT ประหยัดน้ำมัน 23 กิโลเมตรต่อลิตร ระบบเบรกหน้าดิสก์ หลังดรัมเบรก[expander_maker id=”4″ more=”อ่านเพิ่มเติม” less=”Read less”]Read more hidden text
Suzuki Swift GA CVT เป็นรุ่นล่างสุดของ สวิฟท์ การออกแบบตัวถังมีกลิ่นอายของรถยุโรปมากยิ่งขึ้น ด้วยมิติของตัวรถซึ่งความสูงอยู่ที่ 1,495 มิลลิเมตร และกว้างขึ้น 40 มิลลิเมตร พร้อมโครงสร้างตัวถังแบบ TECT พร้อมระบบกันการสั่นสะเทือน ระบบ TCS ช่วยในการควบคุมรถขณะขับขี่บนถนนลื่นหรือในทางโค้ง และยังเหมาะกับการขับในเมืองด้วยระบบ IDLING STOP ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะรถหยุดนิ่ง ขับขี่อย่างมั่นใจในทุกเส้นทางด้วยระบบ Hill Hold Control ที่จะช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน และปลอดภัยมากขึ้นด้วยถุงลมนิรภัย 2 ตำแหน่ง โดยมีสีสันให้เลือกทั้งหมด 6 สี Ablaze Red Pearl , Star Silver Metallic , Mineral Gray Metallic , Super Black Pearl รวมถึงสีใหม่ 2 สี คือ Speedy Blue Metallic และ Pure White Pearl มีรุ่นมาให้เลือก 4 รุ่นได้แก่
- GA 1.2 ราคา 499,000 บาท
- GL 1.2 ราคา 536,000 บาท
- GLX 1.2 ราคา 609,000 บาท
- GLX-Navi 1.2 ราคา 629,000 บาท
จากราคา Suzuki Swift GA CVT 499,000 บาท ถ้าคุณต้องการออฟชั่นเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยยกตัวอย่างเช่น กระจกหลังไฟฟ้า , กุญแจรีโมท , ช่องเชื่อมต่อ USB AUX , ไฟLED หน้ารถ เป็นต้น ขยับราคาขึ้นมาอีกนิดเป็นเล่นรุ่น GL ราคา 536,000 บาท ผมว่ามันน่าเล่นมากกว่ารุ่นต่ำสุดนะครับ
2. Toyota Yaris J Eco ราคา 489,000 บาท
Toyota Yaris (โตโยต้า ยาริส) อีโคคาร์ยอดนิยมอีกหนึ่งรุ่นที่น่าใช้ ราคาไม่แพงมาก ยาริส รุ่นปรับโฉมใหม่ ปรับเปลี่ยนดีไซน์ภายนอกให้มีความเฉี่ยวรอบคัน ไฟหน้ารุ่น J eco นี้จะเป็น มัลติรีเฟลกเตอร์ กระจังหน้าด้านบนสีเดียวกับตัวรถ ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding กระจกหน้าต่างไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบด้านคนขับ มีเฉพาะคู่หน้า
ความสนุกในการขับยังคงอยู่เหมือนเดิม ด้วยเครื่องยนต์ DUAL VVT-i 1.2 ลิตร4 สูบ แถวเรียง 16 วาวล์ ภายใต้รหัส 3NR-FE ผสานระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ตอบสนองการขับที่ดีขึ้นด้วยกำลังสูงสุด 86 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 108 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที และมีอัตราประหยัดน้ำมัน 20 กิโลเมตรต่อลิตร รองรับน้ำมัน E20 รวมทั้งสร้างความมั่นใจในทุกสถานการณ์ขับขี่ ด้วยเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยสูงสุดเป็นมาตรฐานในทุกรุ่น และเป็นหนึ่งเดียวในรถยนต์แฮตช์แบ็กขนาดเล็กที่มีถุงลมนิรภัยระบบ SRS 7 ตำแหน่ง มีกุญแจรีโมท ให้ด้วยในทุกรุ่น สีสันตัวรถมีมาให้เลือกกัน 7 สี ได้แก่ Citrus Mica Metallic (สีเขียว) , Orange Metallic (สีส้ม) , Red Mica Metallic (สีแดง) , Super White II (สีขาว) , Silver Metallic (สีเงิน) , Grey Metalic (สีเทา) , Attitude Black Mica (สีดำ) มี 5 รุ่นให้เลือก ดังนี้
- J ECO ราคา 489,000 บาท
- J ราคา 539,000 บาท
- E ราคา 569,000 บาท
- G ราคา 619,000 บาท
- G+ ราคา 639,000 บาท
แน่นอนโตโยต้า ยาริส คันนี้ก็เช่นกันถ้าคุณขยับราคาขึ้นมาอีกนิดคุณจะได้ออฟชั่นเพิ่มเติมเพื่อความสะดวกสบายอีกหน่อยแต่จากที่ผมดูรายละเอียดของเจ้า J ECO กับ J ซึ่งราคามันต่างกันประมาณ 5 หมื่นบาท อุปกรณ์มาตรฐานของเจ้า J ECO ก็ถือว่าให้มาครบครัน แตกต่างกับรุ่น J เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ผมคิดว่าเล่น J ECO ก็พอแล้ว หรือไม่ถ้าอยากได้ออฟชั่นก็กระโดดไปเล่น E ขึ้นไปเลย จะคุ้มค่าเงินมากกว่า
3. Mitsubishi Mirage GLX ราคา 467,000 บาท
Mitsubishi Mirage โฉมใหม่ที่ได้รับการปรับเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐาน มุ่งยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้กับ มิตซูบิชิ มิราจ ซึ่งเป็นซิตี้คาร์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากของแบรนด์มิตซูบิชิ
Mitsubishi Mirage GLX ยังคงขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ทรงประสิทธิภาพ 3 สูบ DOHC MIVEC ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ INVECS-III CVTพร้อมระบบ INC และ G-Sensor ที่ผสมผสานความประหยัดน้ำมันและสมรรถนะการขับขี่ได้อย่างลงตัว
Mirage ใหม่ มีให้เลือก 4 รุ่น ได้แก่ GLX (เกียร์ธรรมดา) GLX GLS และรุ่นสูงสุด GLS-LTD สีภายนอก 5 สี ประกอบด้วย สีแดง Wine Red สีส้ม Sunrise Orange สีน้ำเงิน Cerulean Blue Mica สีขาว White Pearl และสีเทา Titanium Gray มี 4 รุ่นให้เลือก ดังนี้
- 2 GLX M/T 467,000 บาท
- 2 GLX CVT 501,000 บาท
- 2 GLS CVT 567,000 บาท
- 2 GLS-Ltd. CVT 609,000 บาท
ราคาเริ่มต้นของ Mitsubishi Mirage GLX ถูกมากจริงๆครับ 467,000 บาท เอง แต่มันได้เกียร์ธรรมดานะครับ เมืองไทยรถติดขนาดนี้ ยอมขยับขึ้นไปเล่นเกียร์ CVT ดีกว่า ซึ่งผมว่านะครับถ้าคุณมีงบประมาณ 500,000 บาท บวกเงินเพิ่ม 1,000 บาท เล่นรุ่น 1.2 GLX CVT 501,000 บาท ขับสบายกว่ากันเยอะครับผม
4. Nissan March 1.2S MT ราคา 420,000 บาท
แม้จะออกมานานกว่าเพื่อน แต่รูปทรงก็ยังทันสมัย น่ารักอยู่ แถมยังมีการไมเนอร์เชนจ์ใหม่ และมีสีใหม่อีกต่างหากนั้นก็คือ นิสสัน มาร์ช สีฟ้า Capri Blue สีสันใหม่
ด้วยดีไซน์ใหม่รอบคัน สวย สะดุดตา ตั้งแต่หน้าจรดท้าย พรีเมียมยิ่งขึ้นด้วยห้องโดยสารโทนสีเบจใหม่ และคอนโซลกลางตกแต่งด้วยวัสดุสีดำ เปียโน แบล็ค พร้อมฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกสบายครบครัน ตอบโจทย์ชีวิตสุดสนุกของคนเมือง ให้คุณไปได้ทุกที่อย่างคล่องตัว มั่นใจได้ทุกการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยเหนือชั้น และโครงสร้างภายนอกแข็งแกร่งปลอดภัยตามมาตรฐานยุโร ล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 20 กม./ลิตร
เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ รหัส HR12DE ระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และระบบเกียร์แปรผันอัจฉริยะ XTRONIC CVT ให้ความนุ่มนวลตอบสนองทุกการขับขี่ และประหยัดน้ำมัน
Nissan March (นิสสัน มาร์ช) รถอีโคคาร์ยอดนิยม รูปทรงกระทัดรัด มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.2L ให้ความประหยัดน้ำมัน ส่งกำลังด้วยเกียร์ XTRONIC CVT และ เกียร์ธรรมดา มีให้เลือก 4 รุ่น
- NISSAN March รุ่น 1.2S MT ราคา 420,000 บาท
- NISSAN March รุ่น 1.2E MT ราคา 479,000 บาท
- NISSAN March รุ่น 1.2E CVT ราคา 493,000 บาท
- NISSAN March รุ่น 1.2EL CVT ราคา 526,000 บาท
ซึ่งดูจากราคาแล้วมันน่าจับจองเป็นเจ้าของมากครับถูกมากเพราะมันเริ่มต้นเพียง 420,000 บาท แต่ผมแนะนำเลยนะไหนๆราคามันก็ถูกระดับรุ่นสูงสุดราคา 526,000 บาท แล้วเพิ่มจากงบแค่ 26,000 เท่านั้น ได้ออฟชั่นเพียบ แต่ถ้าคิดว่ามันเพิ่มเยอะไปก็จัดรุ่น 1.2 E CVT ราคา 493,000 บาท จบแบบสบายใจไม่เกินงบด้วย
5. Toyota Yaris ATIV J Eco ราคา 479,000 บาท
คันนี้นับว่าเป็นรถยนต์อีโคคาร์ ในรูปแบบซีดาน 4 ประตู ที่น่าสนใจมากเพราะด้วย การดีไซน์ภายนอกที่ล้ำสมัย โดดเด่น โฉบเฉี่ยวด้วยเส้นสายที่มีความต่อเนื่องรอบคัน ไฟหน้ารุ่น J Eco จะเป็นมัลติรีเฟลกเตอร์เ ชื่อมต่อกับกระจังหน้าโครเมียมรมดำ สะท้อนถึงความหรูหรา ทันสมัยอย่างลงตัว กระจังหน้าสีดำ ด้านล่างตกแต่งด้วยแถบสีแดงเพิ่มความสปอร์ต ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding ช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX ไม่มีนะครับ ล้อกระทะขนาด 15 นิ้ว
ห้องโดยสารดีไซน์ล้ำสมัยกับการออกแบบที่เน้นความกว้างขวางสะดวกสบายและพื้นที่ใช้สอยประโยชน์สูงสุด ตกแต่งสีดำ สปอร์ต หรูหรา พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน เบาะนั่งทรงสปอร์ตคู่หน้า โอบกระชับ รองรับทุกสรีระของผู้ขับขี่ เงียบและนุ่มนวลเหนือระดับรถยนต์ซับคอมแพคซีดาน
เครื่องยนต์ DUAL VVT-i ขนาด 1.2 ลิตร ผสานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ที่มีการปรับจูนเกียร์ให้ตอบสนองต่อการขับขี่ที่ดีมากขึ้น ช่วยเพิ่มสุนทรียภาพในการขับขี่ อีกทั้งยังช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างยอดเยี่ยม
มั่นใจด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด เพียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยระดับสูงสุดเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นและเป็นหนึ่งเดียวในรถยนต์ซับคอมแพคซีดาน ที่มีถุงลมเสริมความปลอดภัยระบบ SRS 7 ตำแหน่ง มีให้เลือก 5 รุ่น
- 2 J Eco CVT 479,000 บาท
- 2 J CVT 529,000 บาท
- 2 E CVT 559,000 บาท
- 2 G CVT 609,000 บาท
- 2 S+ CVT 639,000 บาท
Toyota Yaris ATIV J Eco คันนี้ใหญ่ กว้างขวางนั่งสบายจริงครับ เป็นอีโคคาร์ ซีดาน 4 ประตู ที่เรียกได้ว่าในอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยมากกว่าคู่แข่ง เพราะใส่มาให้เป็นอุปกรณ์มารตรฐานเลย ยกตัวอย่าง ถุงลมเสริมความปลอดภัยระบบ SRS 7 ตำแหน่ง และเกียร์ CVT ที่มีให้ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น สุดมั้ยละครับ 479,000 บาท ได้ถุงลม 7 ลูก แต่ถ้าคุณอยากได้ออฟชั่นเพิ่มเติมก็ขยับขึ้นมารุ่น 1.2 J CVT 529,000 บาท ก็น่าใช้เช่นเดียวกันครับ
เรื่อง: ณัฐพล เดชสิงห์
ขอบคุณภาพ ซูซูกิ สวิฟท์ : CarShow
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th[/expander_maker]