BMW 5 Series รถซีดานหรูเจเนเรชันที่ 8 มาครบทั้งเครื่องยนต์สีดาป ปลั๊กอินไฮบริด และไฟฟ้า
BMW เผยโฉม 5 Series ซีดานเจเนเรชันที่ 8 ออกมา (8th generation) โดยนอกจากมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่แล้ว ยังมีระบบขับเคลื่อนให้เลือกทั้งเครื่องยนต์สันดาปพร้อมระบบไมลด์ไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และยังเป็นครั้งแรกที่มีทางเลือกในแบบใช้ไฟฟ้าล้วนกับชื่อ i5
BMW 5 Series 8th generation ถูกระบุว่าได้รับการออกแบบให้มีเอกลักษณ์โดยมีความสมดุลย์ระหว่างความสปอร์ตและความสบายในการขับ โดยด้านหน้าของรถมีการตีความใหม่ของไฟหน้าและกระจังหน้าไตคู่ ส่วนด้านข้างมีเส้น Shoulder Line ที่สูง มีพื้นผิวที่มีพลัง รวมทั้งมี 2 เส้นที่สร้างคาแรกเตอร์มีพลังให้กับรถ นอกจากนี้รถยังมาพร้อมกับสเกิร์ตข้างสีดำและที่เปิดประตูแบบ Flush-mounted ที่แนบไปกับตัวรถ ขณะที่ด้านหลังมาพร้อมกับไฟท้ายทรงแอลที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งได้รับการตีความใหม่มีลักษณะกว้างและยาว
ในด้านขนาดของรถถูกขยายขึ้นจากรุ่นก่อนทุกมิติ ด้วยความยาว 5,060 มม. ยาวขึ้นกว่ารุ่นก่อน 97 มม. ส่วนความกว้างของรถอยู่ที่ 1,900 มม. กว้างขึ้น 32 มม. ขณะที่ความสูงเพิ่มขึ้นจากเจเนเรชันก่อน 36 มม. ไปอยู่ที่ 1,515 มม. และมีระยะฐานล้อยาวขึ้น 20 มม. เป็น 2,995 มม. โดยหากต้องการรถที่แตกต่างจากรถมาตรฐานทางผู้ผลิตรถยนต์หรูจากเยอรมนีก็มีออฟชัน M Sport Package และ M Sport Package Pro ให้เลือกติดเพิ่ม รวมไปถึง 3 สี BMW Individual ให้เลือกตั้งแต่เริ่มขาย
ห้องโดยสารของรถซีดานหรูขนาดกลางถูกระบุว่าออกแบบมาเพื่อให้ความพึงพอใจในการขับในสภาพการจราจรที่ใช้งานแต่ละวัน รวมทั้งให้ความสบายเมื่อเดินทางไกลด้วยวัสดุคุณภาพสูง ความปราณีตในการผลิต และบริการดิจิตอล ส่วนค็อกพิตของรถมีการลดปุ่มและการควบคุมลงอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยรถมาพร้อมกับจอ Curved Display ที่ประกอบด้วยจอแสดงข้อมูลผู้ขับขนาด 12.3 นิ้ว และจอควบคุมขนาด 14.9 นิ้วที่ยาวต่อเนื่องในกรอบเดียวกัน
5 Seriesใหม่ยังมีพวงมาลัยดีไซน์ใหม่ด้านล่างแบน พร้อมกับมีการตอบสนองเมื่อสัมผัสที่แผงควบคุมของพวงมาลัย รวมทั้งเบาะสปอร์ตออกแบบใหม่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นอกจากนี้ยังเป็นรถรุ่นแรกของค่ายกังหันฟ้า-ขาวที่ไม่ใช้วัสดุจากสัตว์กับส่วนต่างๆ ทั้งที่พวงมาลัย เบาะ แผงแดชบอร์ด และแผงประตูเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเป็นครั้งแรก
รถซีดานหรูขนาดกลางรุ่นใหม่มีทางเลือกทั้งในแบบเครื่องยนต์พร้อมระบบไมลด์ไฮบริด 48-Volt ปลั๊กอินไฮบริด และไฟฟ้า โดยในส่วนของรุ่นเครื่องยนต์เบนซินพร้อมระบบไมลด์ไฮบริดมีทั้งเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบกับรุ่น 520i 208 แรงม้า, 530i และ 530i xDrive 258 แรงม้า รวมทั้งเครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตร เทอร์โบกับรุ่น 540i xDrive 381 แรงม้า สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล พร้อมระบบไมลด์ไฮบริด 48-Volt มีรุ่น 520d และ 520d xDrive ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบมีกำลัง 197 แรงม้า
ในขณะที่รุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่ถูกระบุตอนเปิดตัวมีทางเลือกเดียวคือ 530e ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังขับเคลื่อนรวมจากระบบ 299 แรงม้า ส่วนการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนของรถซีดานขนาดกลางมี 2 ทางเลือกระหว่าง i5 eDrive40 กำลังขับเคลื่อน 313 แรงม้า ให้ระยะการเดินทางถึง 582 ต่อการชาร์จ และ i5 M60 xDrive มีกำลัง 517 แรงม้า เดินทางได้ 516 กิดลเมตรต่อการชาร์จ
ทาง BMWจะเริ่มขายรถซีดานหรูขนาดกลางรุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อด้วยเครืองยนต์พร้อมระบบไมลด์ไฮบริด และไฟฟ้าตั้งแต่เดือนตุลาคม 2023 นี้ แต่รุ่นปลั๊กอินไฮบริดจะเริ่มขายตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปี 2024
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th