5 จุดบอดที่ควรระวังเป็นพิเศษเวลาขับรถยนต์
ส่วนใหญ่ที่เกิดอุบัติเหตุก็จะมาจากหลายๆ ด้าน เช่น หลับใน เมา คุยโทรศัพท์ เล่นมือถือ ความไม่มั่นใจ ความลังเล การตัดสินใจในการขับรถ ฯลฯ หรือแม้กระทั่งจุดบอดหรือมุมอับ (Blind Spots) ที่เรามองไม่เห็นก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน วันนี้เรามีเทคนิคในการขับรถหาบรรดา จุดบอด ของตัวรถยนต์กัน ที่จะคอยระวังและหาวิธีแก้ไขเมื่อเราขับรถแล้วเจอปัญหาเช่นนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุทั้งตัวเราเองและผู้อื่นที่ใช้ถนนร่วมกันกับเรา
1.จุดบอดจากเสาเอ เสาเอ ก็คือเสาที่ติดตั้งกระจกคู่หน้าและด้วยเทคโนโลยีการออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่ๆ จะเน้นความเป็นสปอร์ตด้วยการปรับเสาเอให้มีความลาดเอียงมากขึ้น รวมถึงมีขนาดใหญ่หรือหนาขึ้นกว่าเดิมเพื่อเสริมความปลอดภัย บางรุ่นมีการติดตั้งม่านถุงลมนิรภัยไว้ด้วย จึงทำให้เกิดจุดบอดที่สายตาเรามองไม่เห็นได้ โดยเฉพาะด้านขวา เมื่อผู้ขับขี่จะเลี้ยวรถ หรือกลับรถ วิธีนี้บรรดาผู้ผลิตรถยนต์ได้แนะนำให้ผู้ขับขี่นั้นอย่าปรับเบาะนั่งให้สูงเกินไป แนะนำว่า บางทีจะต้องโยกศีรษะมาข้างหน้า หรือเอียงศีรษะมาดูบ้างแล้วแต่เอาให้เห็นชัดเจนก่อนแล้วค่อยเลี้ยวไป
2. จุดบอดจากกระจกมองข้างอันนี้เจอกันบ่อยแน่นอนเป็นจุดที่อยู่นอกเหนือจากองศาการมองเห็นของกระจกที่เราปรับไว้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นจุดที่ห่างจากตัวรถในจังหวะเกือบจะตีคู่กับรถของเรา วิธีแก้ไขนั้น ให้ปรับท่านั่งของรถในแบบที่ถนัดและถูกต้องตามหลักขับขี่ที่ปลอดภัย หลังจากนั้นให้ปรับกระจกมองข้างให้มองเห็นทั้งตัวรถด้านข้างและพื้นผิวถนน และเส้นแบ่งเลน ไม่ควรจะสูงเกินไป ที่สำคัญผู้ขับขี่จะต้องไม่เคลื่อนศีรษะในแบบก้มลงไปมองใช้เพียงการหันศรีษะเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำแบบนี้ทั้งด้านซ้ายและขวา
3. จุดบอดกระจกมองหลังในจุดนี้บางคนแทบไม่ให้ความสำคัญ เพราะจะถนัดใช้กระจกมองข้างด้านซ้ายเสียเป็นหลัก แล้วรู้หรือไม่ว่า กระจกมองหลังนั้นมีประโยชน์ที่สุด ทั้งในการแซง การเปลี่ยนเลน การถอยรถ โดยกระจกมองหลังต้องมองเห็นกระจกที่อยู่ด้านหลังได้ทั้งบาน เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยของรถที่อยู่ด้านหลัง และต้องปรับด้วยองศาที่มองไม่เห็นศีรษะของเราเช่นกัน
4. จุดบอดจากรถที่ใหญ่กว่าจำไว้เลยว่าอย่าขับรถตามหลังรถที่ใหญ่กว่า เพราะทัศนวิสัยในการมองเห็นข้างหน้ามันจะเหลือน้อยมาก เพราะไม่ว่าว่าข้างหน้าเกิดอะไรขึ้นบ้าง มีทางแยกหรือไม่ มีทางโค้งหรือเปล่า รวมไปถึงรถที่สวนทางมานั่นเอง แต่ถ้าต้องขับรถตามหลังรถยนต์ ก็ควรเว้นระยะห่างให้มากที่สุด กะระยะพอสมควรและเหมาะสม พอที่จะสามารถมองเห็นเลนที่สวนทางมาได้อย่างชัดเจน แต่ถ้ามีโอกาสแซงได้ก็ควรแซงไปให้ไกลๆ เลยยิ่งดี แต่ขอบอกเลยว่าอย่าแซงซ้ายเด็ดขาดนะครับ เพราะจุดบอดของรถใหญ่จะอยู่ทางด้านซ้าย
- จุดบอดจากสภาพถนนจุดบอดในแบบนี้เกิดจากสภาพถนนหรือเส้นทางที่เราใช้กัน มีทั้งทางโค้ง ทางขึ้นลงเนิน ในส่วนของทางโค้งนั้นให้ปฏิบัติตามป้ายเตือนที่อยู่ข้างทางอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเส้นทางที่เราไม่ชิน หรือเพิ่งไปแค่ครั้งแรก ก็ไม่ควรที่จะแซงในทางโค้ง อย่าวิ่งตัดโค้งเป็นอันขาด ในส่วนของการขับขึ้นเนินนั้น อย่าใช้ความเร็วจนเกินไป เพราะเราไม่รู้ว่าข้างหน้ามันจะใช้ปลายทางที่เราจะไปต่อหรือไม่ แต่ถ้าขับในช่วงกลางคืนให้ใช้สัญญาณไฟสูงช่วย เพื่อแสดงให้รถที่สวนขึ้นมาอีกด้านให้เห็นเราด้วย
เรื่อง : ณัฐพล ศรีนามโหน่ง
ขอบคุณรูปภาพ/ข้อมูล : www.roojai.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th