5 รถซิ่งยอดฮิต ราคาหลักหมื่น !!
เมื่อคุณอยากได้ รถซิ่ง แต่งสวย โมแรง เอาไว้พาสาวซิ่งสักคันแต่งบประมาณในกระเป๋าดูเหมือนจะไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่นัก ครั้งนี้เรามีทางออกให้คุณแล้วกับรถซิ่งยอดฮิตยุค90 ที่กาลเวลาไม่สามารถทำให้รถยนต์เหล่านี้ลดความนิยมน้อยลงได้เลย แต่ราคาในปัจจจุบันต้องบอกว่าจับต้องเป็นเจ้าของได้สบายใจเพราะราคาหลักหมื่นเท่านั้น มีรถอะไรบ้างไปดูกันเลย
1. civic EG6 (สามประตู) ราคาเริ่มต้นประมาณ 45,000 บาท
Civic EG เป็นรถที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว และเป็นรถที่ใครในยุค 90 ได้เห็นแล้วก็ต้องร้องซี๊ด ฮอนด้าEG6 หรือสามประตูที่เราเรียกกัน เป็นรถยนต์ที่เรียกได้ว่าได้รับการออกแบบมาได้อย่างดีและลงตัวมากที่สุด แถมด้วยบอดี้ที่เป็นแบบแฮชแบ็ค 3 ประตู ซึ่งในยุคนั้นรถยนต์ 3 ประตูนั้นมันดูแล้วช่างสวยงามโดนใจ ฮอนด้า ซีวิค 3 ประตู เปิดตัวในไทยเมื่อเดือนสิงหาคม 2536 ในรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ระบบกันสะเทือนดับเบิลวิชโบนอิสระทั้ง 4 ล้อ ในปัจจุบันนี้ยังคงได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นอยู่ไม่เปลี่ยนแปลงรูปทรงที่ดูยังไงก็ไม่เก่าไม่เชย แถมราคาค่าตัวในปัจจุบัน ขายกันตามสภาพตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงเฉียดล้านตามอุปกรณ์ของแต่งที่ใส่เข้าไป เพราะมันมีของซิ่งให้ใส่ทำกันไม่รู้จบ เครื่องมีให้เลือกวางกันหลายรุ่น ตั้งแต่1500ccจนถึง2000cc หรือจะขยายความจุกันไปจนถึง 2700cc ก็สามารถทำได้ตามทุนเลยครับ
2. Mitsubishi Lancer โฉมท้ายเบนซ์ ราคาเริ่มต้นประมาณ 43,000 บาท
โฉมนี้ แลนเซอร์ออกแบบมาคล้ายคลึงกับโฉมที่ 6 อย่างมาก ข้อแตกต่างที่เห็นเด่นๆจะมีอยู่สองจุดคือ ไฟท้าย ซึ่งจะมีลักษณะเป็นก้อนต่างจากโฉมที่ 6 ซึ่งมีไฟท้ายเป็นแถบคาด และไฟหน้าของโฉมที่ 7 จะเหลี่ยมกว่าโฉมที่ 6 ส่วนอื่นคล้ายกันมาก เมื่อมองเผินๆ จะนึกว่าเป็นโฉมเดียวกัน ดังนั้น ในวงการรถไทยจึงตั้งชื่อโฉมว่า โฉมท้ายเบนซ์ เพื่อแยกความแตกต่างออกจากโฉม E-CAR ส่วนระบบส่งกำลังของโฉมท้ายเบนซ์ เป็น Invects II ระบบใหม่ และเครื่องยนต์ที่เพิ่มปริมาตรกระบอกสูบ แบ่งรุ่นย่อย ดังนี้ 1.5 GLXi ,1.6 GLXi และต่อมาได้แตกออกมาเป็นรุ่น F-Style โดยมีเครื่องยนต์ปริมาตรความจุ ดังนี้1.6 GLXi Limited ,1.8 SEi Limited อย่างไรก็ตาม โฉมนี้ก็จัดเป็นอีกโฉมหนึ่ง ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย มีการนำไปแต่งเป็นรถสปอร์ต นอกเหนือจากการใช้เป็นรถส่วนตัวและรถครอบครัว ขาซิ่ง ขาแต่งทั้งหลายมักนิยมนำชิ้นส่วนของรุ่น Evolution เข้ามาประจำการ ตกแต่งเพิ่มให้กับ Lancer โฉมท้ายเบ็นซ์ จนทำให้ตัวรถออกมาดูดี มีมิติสัดส่วนสปอร์ตกว่ารถบ้านเดิมทั่วไป ยิ่งสำหรับบางคันที่จัดหนักจัดเต็มยกทั้งเครื่องยนต์ของรุ่น Evolution มาประจำการใน Lancer โฉมท้ายเบ็นซ์นี้ แรงอย่าบอกใครเลยครับ
3. Nissan Cefiro โฉม A31 ราคาเริ่มต้นประมาณ 68,000 บาท
เซฟิโร่โฉมนี้ขายระหว่าง พ.ศ. 2533-2539 มีจุดเด่นตรงที่การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ (ในสมัยนั้น)มาลงในรถ เช่น ระบบการเปิดไฟหน้า และควบคุมแสงหน้าปัดอัตโนมัติ โดยมีตัวรับแสงคอยจับปริมาณแสง และส่งข้อมูลไปที่ระบบอัตโนมัติ ซึ่งเมื่อมืดลง ไฟจะสว่างขึ้นโดยอัตโนมัติ ระบบจับสภาพพื้นถนน เป็นต้น หลังจากที่ยกเลิกการผลิตไปแล้วนั้น A31 ยังคงได้รับความนิยมมากมาย รวมทั้งในประเทศไทยด้วย เนื่องมาจากเป็นรถขับหลังที่มีรูปทรงสปอร์ต ทันสมัยที่สุดรุ่นหนึ่ง และที่สำคัญคือ มีราคาที่ถูกลงมากเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน กลุ่มวัยรุ่นและค่ายรถแข่งต่างๆ ที่นิยมรถรุ่นนี้เพราะว่ามันเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งสามารถนำมาใช้สำหรับการแข่งขันยอดนิยมอย่าง Drift ได้ เนื่องจากรถขับเคลื่อนล้อหลังรุ่นอื่นๆ จะเป็นรถที่มีราคาแพงหลายเท่าตัว Cefiro A31 จึงเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับกีฬาชนิดนี้ นอกจากการแข่งดริฟท์แล้ว ยังนิยมใช้ในการแข่งขัน Drag ด้วย เนื่องจาก A31 มีห้องเครื่องขนาดใหญ่ สามารถวางเครื่อง 6 สูบแถวเรียงหรือเครื่องแบบ V8 ได้อย่างสบายๆ ลูกเล่นการตกแต่งก็มีให้เลือกมากมาย จะข้ามขั้นเปลี่ยนหน้าให้เหมือนรถสปอร์ตสองประตูอย่างรุ่น S13, S14, S15 ด้วยรูปทรงตัวถังที่ “แบน” พอๆ กัน ทำให้การดัดแปลงออกมาลงตัวไม่น้อย
4. BMW E36 (นกแก้ว) ราคาเริ่มต้นประมาณ 75,000 บาท
ที่เรียกกันติดปากว่า “BMW นกแก้ว” ในประเทศไทยจำหน่ายในปี 2535 โดยมี 2 รุ่นที่ขายดีเทน้ำเทท่าคือ 318i และ 318iA ทั้ง 2 รุ่นนี้เป็นรุ่นประกอบในประเทศ ทั้ง 2 รุ่นจะใช้เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 4 สูบ รหัสเครื่องยนต์นั้นจะแตกต่างกันออกไป เป็น M40B18 M42B18 M43B18 และ M44B19 นอกจากนั้นยังมี 316i compact ที่ขายดีด้วยเช่นกัน โดยใช้เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร 4 สูบ รหัส M40B16 และ M43B16 รุ่นนี้ที่เป็นอีกรุ่นน่าสนใจสำหรับใครที่อยากจะได้รถแต่งสวยๆ สักคัน ด้วยงบประมาณไม่สูงมาก แม้รุ่นนี้จะขึ้นชื่อว่าเป็นรถยุโรป หลายคนจะสงสัยว่าเรื่องการซ่อมบำรุงจะแพงกว่ารถญี่ปุ่นที่หรือเปล่า บอกได้เลยว่าหายห่วงไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไหล่หรือแหล่งซ่อมบำรุงของรุ่นนี้มีไม่น้อยแล้วในปัจจุบัน ส่วนราคาอะไหล่กับค่าซ่อมบำรุงแน่นอนมันแพงกว่ารถญี่ปุ่นอยู่แล้วครับ แต่ด้วยได้ชื่อว่า BMW ที่ราคามือสองไม่แรงนัก และรูปทรงที่เป็นอมตะ ไม่ว่าจะไปแต่งสวยหรือแต่งซิ่งวางเครื่อง 2JZ ก็ออกมาลงตัว ขับไปทางไหนเชื่อว่าจะดึงสายตาให้คนมองได้อย่างแน่นอน
5. Toyota corolla (สามห่วง) ราคาเริ่มต้นประมาณ 32,000 บาท
Toyota Corolla โฉม 3 ห่วง โฉมนี้ถือเป็น Generation ที่ 7 เปิดตัวครั้งแรกใน พ.ศ. 2534 โดยในเมื่องไทยมีเครื่องยนต์ให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ 1.3 , 1.5 , 1.6 ให้กำลัง 99 ,104 และ 113 แรงม้า ตามลำดับ ทั้งสามเป็นเครื่องยนต์เบนซิน ขับสบายๆ ด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด และระบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ระบบช่วงล่างของ Toyota Corolla โฉม 3 ห่วง ใช้แบบอิสระทั้ง 4 ล้อ เกาะถนนได้ดี สำหรับจุดเด่นของ Toyota Corolla โฉม 3 ห่วง อยู่ที่ความทนทาน ไม่จุกจิก อะไหล่แท้เทียบเทียมเก่าใหม่ในราคาไม่แพง อีกทั้งยังประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ส่วนสมรรถนะโดยรวมค่อนไปในทางดี ในการซ่อมแซม หาที่ซ่อมได้ไม่ยาก เนื่องจากไม่มีระบบอะไรที่ซับซ้อน อะไหล่เทียบ-เทียมคุณภาพดีก็มีมากมาย อะไหล่แท้มือสองจากเชียงกงหาได้ง่าย สนนราคามือสองยังพอหาจับกันได้ ซึ่งในปัจจุบันก็ยังคงเป็นรถยอดนิยมอยู่เพราะแม้ว่าจะเอามาทำซิ่งไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ถ้าคนที่เข้าใจและใจรักจริงๆ ก็สวยและแรงได้ไม่ยาก เพราะเครื่องมีให้เล่นตั้งแต่Naเช่น 4A-fe ,4A20valve , 3s-ge หรือเล่นของแรงด้วย 2zz-ge เครื่องเทอร์โบก็ 3s-gte รับรองวิ่งกระจายแน่นอนครับ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th