5 เหตุผลที่คุณควรเป็นเจ้าของ Mitsubishi Outlander PHEV
มีหลายเหตุผลที่ส่งผลให้ Mitsubishi Outlander PHEV เป็นรถเอสยูวีแบบปลั๊กอินไฮบริดที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในโลก ทั้งพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวาง ความอเนกประสงค์ในการใช้งาน และความประหยัด ความสำเร็จของรถเอสยูวีรุ่นนี้ยังมาจากระบบขับเคลื่อนที่ทรงพลัง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมทั้งบนถนนปกติ และทางขรุขระ
Mitsubishi Outlander PHEV โดดเด่นด้วยความหรูหรา พร้อมความสะดวกสบายสำหรับทุกการใช้งานในชีวิตประจำวัน ห้องโดยสารขนาดใหญ่สามารถรองรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว เพื่อการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์สำหรับทุกจุดหมายด้วยสมรรถนะที่เหนือชั้น ปราศจากความกังวลด้านระยะทางการขับขี่ อีกทั้งยังเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ปลอดมลพิษ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ที่มีเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับการเดินทางที่ไร้ขีดจำกัด
ไม่ว่าไลฟ์สไตล์ของคุณจะเป็นแบบใด Mitsubishi Outlander PHEV สามารถตอบโจทย์ทุกการใช้งาน พร้อมรองรับทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยคุณสมบัติดังนี้
1.นี่คือ Mitsubishi Outlander PHEV รุ่นล่าสุด
Mitsubishi Outlander PHEV ถูกผลิตขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่1 ธันวาคม 2563 ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 โดยรถเอสยูวีรุ่นดังกล่าวถือเป็น Mitsubishi Outlander PHEV รุ่นล่าสุดของ Mitsubishi Motors Corporation ที่ยังจำหน่ายทั่วโลก และเป็นรถยนต์รุ่นแฟล็กชิพที่สำคัญที่แสดงถึงความเชี่ยวชาญของ Mitsubishi Motors ทั้งในด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมด้านพลังงานไฟฟ้า ยานยนต์อเนกประสงค์ และเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ส่งผลให้ Mitsubishi Outlander PHEV มอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวล มีความต่อเนื่อง และเงียบ พร้อมอัตราการเร่งแซงที่ยอดเยี่ยมทรงพลัง ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
2.ประสบความสำเร็จและได้รับรางวัลจากทั่วโลก
Mitsubishi Outlander PHEV ไม่ได้เป็นเพียงแค่รถเอสยูวีแบบปลั๊กอินไฮบริดรุ่นแรกของโลก แต่เป็นรถพีเอชอีวีที่ขายดีที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน พร้อมตอกย้ำอีกครั้งในการเป็นผู้นำรถเอสยูวีแบบ PHEV ที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในยุโรปด้วยยอดจำหน่ายมากถึง 26,673 คันในปี 2563 โดย Mitsubishi Outlander PHEV ถูกจำหน่ายไปแล้วมากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก และมียอดจำหน่ายสะสมทั่วโลกมากถึง 270,000 คัน เมื่อสิ้นสุดเดือนธันวาคมปี 2563
สำหรับประเทศไทย Mitsubishi Outlander PHEV สามารถคว้ารางวัล “รถเอสยูวีแบบไฮบริด เครื่องยนต์ต่ำกว่า 2,500 ซีซี ยอดเยี่ยม” ซึ่งถือเป็น 1 ใน 7 รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2564 ที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้รับในปี 2564 โดยครอบคลุมรถยนต์ทุกรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ที่มุ่งมั่นนำเสนอรถยนต์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าชาวไทย ทั้งในด้านสมรรถนะ ความปลอดภัย และคุณภาพ
3.ไม่ใช่แค่เพียงรถยนต์ แต่เป็นไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่
Mitsubishi Outlander PHEV สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าจากตัวรถมาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่มีขนาดสูงสุดถึง 1,500 วัตต์ ด้วยการเสียบปลั๊กเข้ากับช่องจ่ายกระแสไฟฟ้าภายในตัวรถที่มีอยู่ 2 จุด เพื่อให้สามารถสัมผัสกับไลฟ์สไตล์กลางแจ้งรูปแบบใหม่ และยังสามารถใช้เป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าสำรองเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือ กรณีที่ไฟฟ้าดับ เพราะ Mitsubishi Outlander PHEV สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เอง และสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่ที่พักอาศัยด้วยเทคโนโลยีระบบพลังงานแบบ Vehicle-to-Home (V2H) ได้นานถึง 10 วัน สำหรับครัวเรือนทั่วไป โดยแบตเตอรี่ต้องถูกชาร์จไฟเต็มและมีน้ำมันเต็มถัง
สำหรับเทคโนโลยี V2H คือแนวคิดเดียวกันกับเดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ ของ Mitsubishi Motors ซึ่งในภาษาญี่ปุ่น “เดน” หมายถึง “ไฟฟ้า” และ “โด” หมายถึง “การขับขี่” เดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ คือชุดระบบไฟฟ้าที่ออกแบบมาสำหรับที่พักอาศัยประกอบด้วย Mitsubishi Outlander PHEV, อุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าแบบเทคโนโลยี, แผงโซลาร์เซลล์ และแบตเตอรี่สำหรับที่พักอาศัย
ระบบเดนโด ไดร์ฟ เฮ้าส์ สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ด้วยแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อนำไฟฟ้าไปชาร์จให้ Mitsubishi Outlander PHEV และในทางกลับกันยังสามารถดึงกระแสไฟฟ้าจากรถเพื่อนำกลับไปใช้ในที่พักอาศัย โดยเทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยลดการบริโภคพลังงานไฟฟ้า และสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งเป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้าในกรณีเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน กรณีที่ไฟฟ้าดับ และเพื่อใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ อีกมากมาย
Mitsubishi Outlander PHEV ช่วยทำให้ทุกกิจกรรมเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยความอเนกประสงค์และสมรรถนะการขับขี่ที่สามารถไปได้ทุกสถานที่ พร้อมความประหยัดที่ผู้ขับขี่สามารถสัมผัสได้ รวมถึงความสะดวกสบาย และความหรูหราระดับพรีเมียมที่เหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน
การชาร์จไฟฟ้าของ Mitsubishi Outlander PHEV สามารถทำได้อย่างสะดวกง่ายดาย ด้วยวิธีการชาร์จไฟฟ้าที่หลากหลาย โดยลูกค้าสามารถเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟฟ้าที่บ้าน, การชาร์จไฟฟ้าผ่านเครื่องชาร์จที่ใช้ในที่พักอาศัย และสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะทั่วไป โดยการชาร์จไฟฟ้าแบบปกติจนเต็มจะใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมง และการชาร์จไฟแบบเร็วด้วยหัวชาร์จแบบ CHAdeMO ที่สามารถอัดประจุไฟฟ้าได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ภายในเวลาเพียง 25 นาที
พร้อมกันนี้ Mitsubishi Outlander PHEV ยังมาพร้อมกับระบบเบรกรีเจนเนอร์เรทีฟ ที่สามารถชาร์จกระแสไฟฟ้ากลับไปยังแบตเตอรี่ได้ในขณะที่ถอนคันเร่งหรือ เหยียบเบรก รวมทั้งชาร์จโหมดที่สามารถชาร์จกระแสไฟฟ้ากลับไปยังแบตเตอรี่ได้จนเกือบเต็มในขณะขับขี่ ซึ่งทำให้ยังมีไฟฟ้าเหลืออยู่ในแบตเตอรี่เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง
4.เทคโนโลยีเหนือระดับ และหมดกังวลเรื่องระยะทางการขับขี่
Mitsubishi Outlander PHEV เหนือกว่ารถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดทั่วไปในปัจจุบันเพราะสามารถขับขี่ได้ทั้งในโหมดไฟฟ้า (EV) สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน และสามารถเป็นรถยนต์แบบไฮบริด (HEV) สำหรับการเดินทางระยะไกล พร้อมสร้างความเพลิดเพลินให้แก่ผู้ขับขี่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการหาสถานีชาร์จไฟฟ้า มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซูเปอร์-ออลวิลล์คอนโทรล (S-AWC) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถยนต์ได้อย่างมั่นใจในทุกสภาพอากาศ และทุกสภาพถนน
Mitsubishi Outlander PHEV ยังมอบสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมพร้อมอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ต่ำเพียง 52.6 กม.ต่อลิตรตามมาตรฐานทดสอบ NEDC มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับต่ำที่ 43 กรัมต่อกม. พร้อมอัตราเร่งและแรงบิดที่ดีเยี่ยม หมดกังวลเรื่องระยะทางการขับขี่ ประหยัดน้ำมัน พร้อมการขับขี่ที่นุ่มนวล ห้องโดยสารเงียบ และสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย “พลังงานสองรูปแบบ” ที่ได้จากการชาร์จกระแสไฟฟ้าและน้ำมันแบนซินที่สามารถรองรับได้ถึง E20
พร้อมกันนี้ Mitsubishi Outlander PHEV ครบครันด้วยเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับรถในระดับเดียวกัน อาทิ ระบบสัญญาณเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (RCTA), ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM), ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (BSW) พร้อมระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (LCA) และระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ (AHB) โดยระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (ACC) ไม่ได้ทำหน้าที่แต่เฉพาะรักษาระดับความเร็วให้คงที่เท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่ตรวจจับรถคันหน้า พร้อมควบคุมความเร็วและรักษาระยะห่างเพื่อความปลอดภัยจนถึงหยุดนิ่ง
5.ใช้งานง่ายปราศจากความกังวล
Mitsubishi Outlander PHEV มีทั้งหมด 2 รุ่น และมีสีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว White Diamond, สีเงิน Sterling Silver และสีดำ Jet Black Mica โดยรุ่นเริ่มต้น GT มีราคาจำหน่ายที่ 1,640,000 บาท และ GT Premuim มีราคาจำหน่ายที่ 1,749,000 บาท โดยทั้ง 2 รุ่น ลูกค้าสามารถมั่นใจและหมดความกังวลในด้านค่าบำรุงรักษาด้วยแพ็กเกจวอรี่ฟรี (Worry-free) ประกอบด้วย ฟรี รับประกันแบตเตอรี่และระบบ EV ปลั๊กอินไฮบริด 10 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร, ฟรี มิตซูบิชิ เซอร์วิส แพ็กเกจ 5 ปี, ฟรี ช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชม. นาน 5 ปี, ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี, ฟรี รับประกันคุณภาพพร้อมค่าแรงเช็คระยะ 5 ปี และรับค่าสนับสนุนการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อชาร์จไฟฟ้าที่บ้านรวมมูลค่าสูงสุด 20,000 บาท
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th