6 วิธีขับรถให้ปลอดภัยในหน้าฝน
พฤติกรรมขับรถ หน้าฝน เป็นสิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญอย่างมากในช่วงหน้าฝนนี้ เพราะการขับรถขณะที่ฝนตกนั้นมีความเสี่ยงมากกว่าที่คุณคิด เนื่องจากสภาพพื้นถนนที่ลื่นและทัศนวิสัยในการมองเห็นที่ไม่ชัดเจน รวมถึงอุบัติเหตุอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนนในช่วงฤดูฝน ขอแนะนำ พฤติกรรมขับรถที่ควรหรือไม่ควรทำในหน้าฝน ดังนี้
ควรลดความเร็ว
การลดความเร็วนั้นสำคัญอย่างยิ่ง ในการขับรถช่วงหน้าฝน เพราะในตอนที่ฝนตกใหม่ ๆ ประมาณ 5-10 นาที ถนนจะลื่นมากกว่าปกติ สาเหตุมาจากการที่น้ำฝนตกลงมาผสมกับฝุ่นบนพื้นถนนจนกลายเป็นดินโคลนบาง ๆ ฉาบผิวถนน ดังนั้น คุณควรลดความเร็วลงจากปกติครึ่งหนึ่งหรืออย่างน้อยลดลงประมาน 30% โดยการลดความเร็วนั้น คุณควรสังเกตปริมาณฝนด้วยว่าตกปริมาณใด หากตกมากคุณต้องลดความเร็วให้มาก และโดยเฉพาะหากรถของคุณเป็นรถมอเตอร์ไซค์ โอกาสเสี่ยงต่อการเสียหลักนั้นถือว่าสูงกว่ารถยนต์ ดังนั้นหากคุณขี่รถมอเตอร์ไซค์แล้วฝนกระหน่ำตกลงมา ทางที่ดีหาที่จอดหลบฝนก่อนจะดีกว่า
ไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉิน
หลายๆคนคงเปิดไฟฉุกเฉินขณะขับรถช่วงที่ฝนตกกระหน่ำ เพื่อให้รถคันอื่นๆมองเห็นรถคุณได้ชัดเจน พฤติกรรมนี้เลิกเถอะค่ะ มันไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง เพราะการที่คุณเปิดไฟฉุกเฉินนั้นจะทำให้รถคันอื่นไม่ทราบว่าคุณจะเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลน และยังทำให้รถคันที่ขับตามคุณมานั้นปวดตาจากแสงไฟที่กระพริบของคุณอีกด้วย ดังนั้นเมื่อต้องขับรถในหน้าฝนคุณควรเปิดไฟรถด้านหน้าและด้านหลังเท่านั้น ส่วนไฟฉุกเฉินควรเปิดเมื่อยามฉุกเฉินจริงๆจะดีกว่า
ควรให้สัญญาณเลี้ยวไกลกว่าเดิม
ในช่วงหน้าฝนนี้ การให้ชะลอรถแล้วเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวในระยะ30เมตรตามที่กฎหมายกำหนดอาจทำให้ไม่ทันการ เพราะในสภาวะฝนตกนั้นทัศนวิสัยในการมองเห็นของคุณนั้นจะลดน้อยลง ยิ่งตกหนักมากทัศนวิสัยในการมองเห็นของคุณก็จะยิ่งต่ำมาก ดังนั้นก่อนที่คุณจะเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลนควรให้สัญญาณไฟแต่เนิ่นๆจะดีกว่า เพราะรถที่ตามหลังคุณมาจะได้รับรู้และเตรียมพร้อมได้ดียิ่งขึ้น
ไม่ควรเหยียบเบรกแรงโดยไม่จำเป็น
สำหรับท่านที่เท้าหนัก ชอบเหยียบกระแทกเบรกแรงๆในยามกระชั้นชิด ขอบอกเลยว่า อาจจะได้ผลในยามที่ถนนแห้ง แต่จะไม่ได้ผลในยามที่ถนนเปียกน้ำฝนอย่างแน่นอน เพราะน้ำฝนนั้นทำให้การสัมผัสของหน้ายางกับพื้นถนนนั้นน้อยลง ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้น คุณควรประเมินสถานการณ์ในการใช้ความเร็วกับการเหยียบเบรกให้ดีหรือเบรกตั้งแต่เนิ่นๆจะดีกว่า เพราะถ้าใช้ความเร็วมากเกินไป และจำเป็นต้องเหยียบเบรกแรงๆ ในสภาพถนนลื่นๆ อาจทำให้ล้อล็อค จนรถเสียการควบคุมได้
ควรเกรงใจคนริมถนน
หากคุณเดินทางในเมืองหรือชุมชนช่วงหน้าฝน นอกจากคุณจะต้องสังเกตถนนหนทางให้ดีแล้ว คุณควรสังเกตผู้คนภายนอกที่อยู่บริเวณรอบๆด้วย เพราะหากคุณใช้ถนนในเมืองหรือชุมชนย่อมมีผู้คนกำลังยืนหรือเดินอยู่ข้างทาง ซึ่งการที่คุณขับรถผ่านแอ่งน้ำขังหรือหลุมก็อาจทำให้น้ำที่ขังอยู่นั้นอาจกระเด็นไปเลอะผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายได้ ดังนั้นการเป็นเพื่อนมนุษย์ที่ดีต่อกัน คุณควรให้ความสำคัญต่อผู้อื่นที่อยู่บริเวณรอบๆสักนิด โดยการลดความเร็วในการขับรถผ่านหลุมหรือแอ่งน้ำขัง
ไม่ควรละสายตาจากถนน
หน้าฝนแบบนี้ทำให้การจราจรนั้นติดขัดเคลื่อนที่ได้ช้า อาจทำให้หลายท่าน เผลอมองโทรศัพท์ หรือมองสิ่งอื่นๆที่ไม่จำเป็น แต่รู้หรือไม่ว่า เพียงเสี้ยววินาทีที่ท่านละสายตา อุบัติเหตุนั้นก็พร้อมเกิดขึ้นได้ทันที ซึ่งหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วละก็การแก้ไขนั้นยากและเสียเวลากว่าช่วงเวลาที่ฝนไม่ตกอย่างมากแน่นอน ดังนั้นสายตาของคุณควรสังเกตจับจ้องถนนตลอดเวลา เพื่อให้เห็นสิ่งต่างๆที่อาจเกิดขึ้นเพื่อเตรียมวิธีแก้ไขได้ทันจะดีกว่า
ช่วงสภาพอากาศที่ฝนตกกระหน่ำแทบทุกวันแบบนี้ หลายๆคนคงรีบอยากไปให้ถึงจุดหมายปลายทางให้เร็วที่สุด โดยอาจมองข้ามความปลอดภัยของตัวคุณเองและเพื่อนร่วมทางไป ขอแนะนำว่าให้ท่านใจเย็นๆ มีสติในการขับรถ ค่อยๆขับ ถึงช้าแต่ถึงชัวร์ดีกว่านะคะ
เรื่อง เบญญาพร กลิ่นกุหลาบทอง
ภาพจาก : www.digitalnext.wordpress.com,www.chiangmainews.com,www.carmagazine.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์รถจักรยานยนต์รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th