7 สัญญาณเตือนว่าเบรกมีปัญหา
เบรก คือสิ่งหนึ่งที่ผู้ขับรถควรให้ความใส่ใจ เพราะเป็นอุปกรณ์สำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัยของรถ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ใช้เพื่อช่วยลดความเร็วหรือหยุดรถทั้งในสถานการณ์ปกติหรือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินไม่คาดฝันขึ้น ดังนั้นเจ้าของรถจึงควรมั่นใจว่าส่วนนี้ของรถจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไม่มีความบกพร่องเมื่อต้องการ
อย่างไรก็ตามเนื่องตามระบบเบรกไม่ต่างกับส่วนอื่นของรถที่สามารถเกิดความสึกหรอจนทำให้มีการทำงานไม่เต็มที่หรือผิดปกติได้เมื่อใช้งานไปนานๆ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของเจ้าของรถที่จะสังเกตอาการต่างๆ ที่บ่งบอกว่าเบรกในรถที่ใช้อยู่นั้นกำลังมีปัญหา เพื่อที่จะแก้ไขก่อนที่ปัญหาจากเบรกจะสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน และต่อไปนี้เป็นสัญญาณหรืออาการที่บ่งบอกว่าเบรกของรถกำลังมีปัญหาให้แก้ไข
ไฟเตือนเบรกสีแดงสว่างที่หน้าปัด
ตามปกติแล้วไฟเตือนเบรกซึ่งเป็นเครื่องหมายตกใจ สีแดงจะขึ้นเตือนบนหน้าปัดเมื่อมีการดึงเบรกมือ หรือเมื่อปลดเบรกมือลงไม่สุด แต่หากสว่างขึ้นมาโดยที่ไม่มีการดึงเบรกมือขึ้น นั่นหมายถึงระดับน้ำมันเบรกต่ำ ซึ่งควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อแก้ปัญหา
เบรกแล้วมีเสียง
หากเหยียบเบรกแล้วเริ่มได้ยินเสียงแปลกๆ ในลักษณะเสียงเอี๊ยดๆ เหมือนโลหะเสียดสีกัน และเมื่อปล่อยเท้าจากเบรกแล้วเสียงหายไป นี่คือสัญญาณที่แสดงถึงการสึกหรอของผ้าเบรก หรือผ้าเบรกหมด จนทำให้มีการเสียดสีกับจานเบรก ซึ่งแน่นอนว่าทางออกของปัญหานี้คือการรีบเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ก่อนที่จะเกิดความเสียหายกับจานเบรก ซึ่งจะนำมาสู่ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
หากเสียงที่ได้ยินเมื่อเบรกไม่ใช่เสียงเอี๊ยดๆ เหมือนโลหะเสียดสีกัน แต่เป็นเสียงในลักษณะบด สาเหตุของเสียงจะแตกต่างออกไป เพราะเป็นไปได้ว่าอาจมีกรวด ทราย หรือหินขนาดเล็กหลุดเข้าไปในชุดคาลิเปอร์ ซึ่งเจ้าของรถก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นานหลังจากได้ยินเสียงลักษณะนี้ เพราะสุดท้ายแล้วก็อาจสร้างความเสียหายให้กับระบบเบรกได้
เบรกแล้วมีอาการสั่น
อาการสั่นที่เท้าและอาจมากไปถึงพวงมาลัยเมื่อเบรก เป็นหนึ่งในปัญหาเกี่ยวกับการเบรกที่มักพบได้ ซึ่งสาเหตุหลักของอาการนี้มาจากความเสียหายของจานเบรกจนทำให้มีลักษณะผิดจากรูปทรงปกติ เช่น คด โก่ง หรือเอียง ซึ่งมาจากการเบรกรุนแรงบ่อยๆ หรือจานเบรกสัมผัสกับน้ำเมื่อมีความร้อนสูง รวมไปถึงอาจมาจากสาเหตุอื่นๆ อย่างรถที่จอดทิ้งไปเป็นเวลานานจนทำให้เกิดสนิมที่จานเบรกในบริเวณที่สัมผัสกับผ้าเบรก จึงทำให้ผ้าเบรกไม่สัมผัสกับจานเบรกเต็มที่เมื่อมีการเบรก ซึ่งหากปัญหามาจากสาเหตุข้างต้นวิธีแก้ไขคือเจียร์จานเบรกให้เรียบเสมอกัน หรือเปลี่ยนจานเบรก
นอกจากนี้สาเหตุของอาการสั่นเมื่อเบรกยังอาจมาจากคาลิเปอร์เบรกที่ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพได้ซึ่งส่งผลต่อการสัมผัสจานเบรกของผ้าเบรก
เบรกจม
หากสังเกตพบความปิดปกติเกี่ยวกับแรงต้านเมื่อเหยียบเบรก โดยรู้สึกว่าต้องเหยียบเบรกลึกกว่าปกติ หรือเมื่อเหยียบเบรกค้างแล้วเท้าค่อยๆ จมลงไปที่พื้น นี่คืออีกสัญญาณสำคัญจากระบบเบรกที่บอกให้เจ้าของรถรู้ว่าควรเข้ารับการบริการเกี่ยวกับเบรกไม่ว่าจะที่ศูนย์หรืออู่ซ่อม เพราะอาจมีการรั่วในระบบเบรกซึ่งมักเป็นที่แม่ปั๊มเบรก โดยหากปล่อยอาการนี้ไว้นานๆ อาจกลายเป็นปัญหาเบรกแตกได้
เบรกแล้วรถปัด
ลักษณะของรถมีอาการปัดไปด้านหนึ่งเมื่อเบรกอาจมีสาเหตุมาจากหลายอย่างซึ่งรวมไปถึงจากยางด้วย แต่สาเหตุทั่วไปมาจากความผิดปกติหรือความสึกหรอที่คาลิเปอร์ ซึ่งทำให้มีแรงเบรกที่แต่ละล้อไม่เท่ากัน ส่งผลให้รถเสียสมดุลย์มีอาการปัดไปด้านหนึ่ง โดยหากรถปัดไปด้านใดแสดงว่ามีปัญหาที่ระบบเบรกของรถในด้านตรงกันข้าม
มีกลิ่นไหม้
หากมีกลิ่นไหม้หลังจากการเบรกรุนแรงหลายๆ ครั้ง หรือเมื่อลงทางลาดชันแล้วเบรกบ่อย นั่นเป็นสัญญาณว่าเกิดความร้อนจัดขึ้นที่เบรก สิ่งที่ควรทำทันทีคือจอดรถในที่ปลอดภัย ตรวจสอบเบรกมือว่าค้างอยู่หรือไม่ แล้วรอให้เบรกเย็นลง เพราะหากยังฝืนขับต่อไปเบรกอาจมีการทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่หากมีความควันออกมาจากล้อมีความเป็นไปได้ว่าคาลิเปอร์เบรกอาจจะค้างอยู่ ทำให้ผ้าเบรกจับจานเบรกค้าง ซึ่งหมายความว่าไม่ปลอดภัยที่จะขับต่อก่อนการตรวจสอบและซ่อมแซม
เบรกติด
อาการนี้คือแม้จะถอนเท้าจากแป้นเบรกแล้ว แต่ยังเหมือนแตะเบรกอยู่ รถมีอาการตื้อวิ่งไม่ออก และเมื่อตรวจสอบเบรกมือก็เอาลงจนสุดแล้ว พอขับต่อไปเรื่อยๆ ก็อาจมีกลิ่นไหม้ตามมา แสดงว่ามีปัญหาที่ระบบเบรกเกิดขึ้นซึ่งอาจมาจากหลายสาเหตุทั้งที่แม่ปั๊มเบรก หรือคาลิเปอร์ ซึ่งแน่นอนว่าควรต้องเข้าอู่หรือศูนย์เพื่อตรวจสอบ
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th