8 EV CARS น่าใช้ ราคาน่าคบ ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43
8 EV CARS น่าใช้ ราคาน่าคบ ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 บางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ดูจะคึกคักเป็นพิเศษ ภายใต้มาตรการคัดกรองโควิค 19 อย่างเข้มงวด เพราะค่ายรถแต่ละค่ายต่างอวดโฉมรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ทั้งรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % ที่ภายในงานมีทั้งแบรนด์เก่า แบรนด์ใหม่ นำรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมเทคโนโลยีเจ๋งๆเข้ามาอวดโฉม และจำหน่ายกันหลากหลายรุ่น ครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆมารู้จัก 8 EV CARS ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 กันว่าคันไหนน่าโดนบ้าง 8 EV CARS
- ORA GOOD CAT ราคาจำหน่าย 828,500 – 1,038,500 บาท
ORA GOOD CAT รถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่ถูกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม GWM LEMON E PLATFORM มีตัวถังแบบ Hatchback 5 ประตู ดีไซน์ในแบบน่ารักคิกขุ กระจังหน้าคลาสสิกพร้อมระบบ Active Air Intake ชุดไฟหน้า LED รูปทรง Cat Eyes ด้านในเป็นไฟ Daytime Running Light ที่เป็นวงกลม ด้านท้ายตัวรถชุดไฟท้าย LED แบบ Tail light Strip พาดยาวซ้ายจรดขวา ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตลาย 5 ก้าน ขนาด 18 นิ้ว สำหรับรุ่น PRO และ ULTRA ขนาด 17 นิ้ว สำหรับรุ่น TECH ภายในห้องโดยสารของ ORA Good Cat 2022 จะมีให้เลือกทั้งแบบโมโนโทนสีดำ และสีทูโทนที่เป็นสีเดียวกับตัวรถภายนอก โดดเด่นด้วยหน้าจอ Interactive Double Screen ที่เป็นหน้าจอ 2 จอเชื่อมต่อกันในขนาด 17.25 นิ้ว โดยแบ่งเป็นจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิตอล Full TFT ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจอมัลติมิเดียระบบสัมผัส ขนาด 10.25 นิ้ว โดยจะมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 400 TECH, 400 PRO และ 500 ULTRA มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 2 ขนาด ที่วิ่งได้ไกล 400 – 500 กม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง พละกำลังของ ORA Good Cat จะมากับมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัวให้กำลังพละกำลัง 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า ให้ความเร็วสูงสุด 152 กม./ชม.
- MG EP ราคาจำหน่าย 761,000 – 771,000 บาท
หนึ่งเดียวของรถยนต์ไฟฟ้า 100 %ในประเทศไทย ที่มาในรูปแบบรถยนต์อเนกประสงค์ 5 ที่นั่ง ทรงสเตชั่นแวกอน MG EP มาพร้อมดีไซน์ภายนอกที่ทันสมัยด้วยกระจังหน้าแบบ Suspended Wing Grille ที่ตกแต่งด้วยโครเมียมและ Piano Black ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน LED Daytime Running Light พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟท้าย LED แบบ Electric Pulse Design และไฟเบรก ดวงที่ 3 แบบ LED ล้ออัลลอยด์ดีไซน์แบบสปอร์ตขนาด 16 นิ้ว ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งหุ้มวัสดุหนังแบบปรับมือ ตกแต่งแผงคอนโซลด้วยวัสดุแบบ Soft-touch เสริมความทันสมัยด้วยจอแสดงข้อมูลการขับขี่ Digital Multi-Function Display ขนาด 7 นิ้ว พร้อมทั้งหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว MG EP ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร พร้อมเกียร์แบบ Single-speed ทำความเร็วสูงสุดได้ 185 กม./ชม. สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางไกลสูงสุด 380 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง
- NEW MG ZS EV ราคาจำหน่าย 949,000 – 1,023,000 บาท
NEW MG ZS EV ไมเนอร์เชนจ์ เพิ่มแบตเตอรี่วิ่งไกลขึ้นเป็น 403 กิโลเมตร ภายนอกมีการเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่ให้เป็นแบบทึบซึ่งมันทำให้รุ่นใหม่นี้ดูเป็นรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED, ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, กระจังหน้าแบบ Grille-less Design พร้อมช่องชาร์จไฟ, ไฟท้ายแบบ LED, กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า, สปอยเลอร์หลัง และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อ Aero Wheel Cover ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยโทนสีดำ พร้อมปรับปรุงดีไซน์คอนโซลหน้าใหม่ ติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนังปรับระดับ 6 ทิศทางฝั่งผู้ขับขี่, หน้าจอมาตรวัดความเร็วแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว หน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว ขณะที่รุ่น X เพิ่มเติมด้วยหลังคา Panoramic Sunroof, ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, ราวหลังคา, เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง, ที่พักแขนด้านหลัง, ระบบ Wireless Charger และเพิ่มจำนวนลำโพงจาก 4 จุด เป็น 6 จุด NEW MG ZS EV มีแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 50.3 kWh เทียบกับรุ่นก่อนไมเนอร์เชนจ์ที่มีขนาด 44.5 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางไกลขึ้นอยู่ที่ 403 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง (เดิมมีระยะทางขับขี่ 337 กิโลเมตร)
- HOZON NETA V ราคาจำหน่ายไม่เกิน 700,000 บาท
HOZON NETA V เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่ถูกนำเข้าโดย บริษัท อรุณ พลัส จำกัด (ARUN PLUS) กลุ่มเครือ ปตท. มีกำหนดการเปิดตัวในช่วงกลางปี 2565 ที่จะถึงนี้ ดีไซน์ของ HOZON NETA V ได้รับแรงบันดาลในมาจาก “โลมา” ด้านหน้ารถยื่นแหลมเหมือนกับส่วนของปาก และตัวถังมีสันนูนเน้นความลู่ลม ชุดไฟหน้าแบบ Eagle eye อยู่ในโคมเดียวกันทั้งไฟส่องสว่าง ไฟเลี้ยว และไฟ DRL ที่เป็น LED ทั้งระบบ ฝากระโปรงหน้าลาดเทมาจนชนในส่วนกระจังหน้าที่เป็นแบบปิดทึบ พร้อมออกแบบให้มีเส้นสายที่คมชัด ล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 15 นิ้ว ชุดไฟท้ายออกแบบให้ดูโฉบเฉี่ยว บนหลังคาติดตั้งสปอยเลอร์หลังคาและไฟเบรกด้วยที่ 3 กันชนท้ายสีดำดีไซน์สปอร์ตมาพร้อมไฟทับทิมดวงโต ภายในได้รับการออกแบบให้ดูเรียบง่ายสไตล์มินิมอล พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรง 2 ก้านขนาดใหญ่แบบหัวตัดและท้ายตัด หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่เป็นแบบดิจิทัลทรงเหลี่ยมยาววางอยู่หลังพวงมาลัย หน้าจออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 13 นิ้ว อยู่ที่แผงแดชบอร์ด มาพร้อมระบบควบคุมสั่งงานด้วยเสียง ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติและระบบกรองอากาศ N95 ขุมพลังของ Hozon Neta V 2022 ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าไว้ที่เพลาคู่ล้อหน้า มาพร้อมแบตเตอรี่ที่มีให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ รุ่น Standard เป็นแบตเตอรี่ลิเธียมแบบ LFP ขนาด 40 kW แรงบิดอยู่ที่ 110 นิวตันเมตร ให้ระยะทางการวิ่งอยู่ที่ 301 กม. ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง ส่วนในรุ่น Lone Rage จะมีแบตเตอรี่ขนาด 55 kW มากับแรงบิดสูงสุด 175 นิวตันเมตร ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ไกล 401 กม. ส่วนความเร็วสูงุสดจะถูกจำกัดไว้ที่ 100 กม./ชม.
- POCCO DD ราคาจำหน่าย 429,000 – 479,000 บาท
POCCO DD รถยนต์ไฟฟ้าคันจิ๋วที่ถูกนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยโดย BRG พร้อมดีไซน์ตัวถังแบบ 5 ประตู พวงมาลัยซ้าย แบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อย คือ L และ K ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 29 กิโลวัตต์ (ประมาณ 39.4 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 110 นิวตัน-เมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 100 กม./ชม. โดยรุ่น L ติดตั้งแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 10.3 kWh ให้ระยะทางขับขี่ประมาณ 128 กิโลเมตร และ รุ่น K ขนาด 14.5 kWh ให้ระยะทางขับขี่ประมาณ 178 กิโลเมตร สามารถชาร์จด้วยไฟบ้านขนาด 220 โวลต์ ในเวลาราว 6-8 ชั่วโมง
- POCCO MM ราคาจำหน่าย 439,000 –499,000 บาท
POCCO MM เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 3 ประตู เน้นความสปอร์ตมากกว่ารุ่น DD มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย คือ YX และ ZX ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 20 กิโลวัตต์ (ประมาณ 27 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร สามารถขับขี่ด้วยความเร็วสูงสุด 100 กม./ชม. พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 9.2 kWh ให้ระยะทางขับขี่ประมาณ 116 กิโลเมตรในรุ่น YX และความจุขนาด 14 kWh ให้ระยะทางขับขี่ 170 กิโลเมตรในรุ่น ZX
- VOLVO C40 RECHARGE PURE ELECTRIC ราคาจำหน่าย 2,750,000 บาท
VOLVO C40 RECHARGE PURE ELECTRIC ครอสโอเวอร์ขุมพลังไฟฟ้า 100 % ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ไกลกว่า 500 กม.รูปลักษณ์ตัวรถดีไซน์ให้เป็นรถรูปแบบครอสโอเวอร์คูเป้ท้ายลาด กระจังหน้าเป็นแบบยูนิบอดี้พร้อมโลโก้วอลโว่ขนาดใหญ่ มากับพื้นที่ใต้ฝากระโปรงหน้าเมื่อเปิดขึ้นมาจะสามารถเก็บสัมภาระได้ถึง 30 ลิตร ชุดไฟหน้าแบบไฟ Pixel Technology Headlight โดยใช้เซ็นเซอร์กล้องหน้าควบคุมการเปิด-ปิดของ LED ทั้งหมด 84 ดวง สามารถปรับระดับความสว่างอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมของแสงภายนอก และติดตั้งไฟ Welcome Light ต้อนรับเมื่อผู้ขับแตะที่มือจับประตูรถ มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ภายในห้องโดยสารมีความเรียบหรู ใช้วัสดุสีดำชาร์โคลกับอะลูมิเนียมในส่วนต่าง ๆ โดยจะเป็นรถอีก 1 รุ่น ของทางวอลโว่ที่จะไม่มีการใช้หนังแท้ของสัตว์เข้ามาตกแต่งภายใน นอกจากนี้ ยังถูกติดตั้งมาตรวัดแบบ TFT ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ระบบอินโฟเทนเมนต์มากับหน้าจอขนาด 9 นิ้วแบบสัมผัส ที่มาในรูปทรงแนวตั้ง รองรับคำสั่งการด้วยเสียง ระบบเสียงจากHarman Kardon หลังคาแบบ Panoramic Glass Roof ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า VOLVO C40 RECHARGE PURE ELECTRIC มากับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ไว้ที่คู่ล้อหน้าและหลัง ให้กำลังสูงสุดรวม 408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 660 นิวตันเมตร เร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.7 วินาที ด้านความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 180 กม./ชม. แบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียม-ไอออนขนาดความจุ 78 kWh ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ไกลกว่า 500 กม.
- NISSAN LEAF ราคาจำหน่าย 1,490,000 บาท
NISSAN LEAF ถึงแม้จะออกมาจำหน่ายในประเทศไทยอยู่พักใหญ่ แต่ก็มียอดขายไม่ได้เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่นักหนึ่งเหตุผลนั้นก็คือราคาที่สูงเกิน เพราะออกมาวางจำหน่ายในราคา 1,990,000 บาท เมื่อเทียบราคากับสิ่งที่ได้แล้วดูจะแพงเกินไปซะหน่อย แต่ล่าสุดภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ได้มีการประกาศลดราคา NISSAN LEAF ลงไป 700,000 บาท ทำให้มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,490,000 บาท เท่านั้น นับว่าเป็นราคาที่น่าสนใจไม่น้อย ภายนอกของ NISSAN LEAF ติดตั้งไฟหน้าแบบ LED, ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED, กระจังหน้าทรง V-Motion สำหรับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งหุ้มหนังสีดำตกแต่งด้วยสีฟ้า เครื่องเสียงวิทยุหน้าจอสีขนาด 5 นิ้ว ฝั่งผู้ขับขี่ติดตั้งหน้าจอสีแบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว NISSAN LEAF ถูกติดตั้งเทคโนโลยี e-Pedel ช่วยให้สามารถเร่งความเร็วและลดความเร็วจนถึงจุดหยุดนิ่งได้ด้วยแป้นคันเร่งเพียงอย่างเดียว โดยไม่จำเป็นต้องแตะเบรก มาพร้อมระบบ Intelligent Ride Control ที่ช่วยควบคุมแรงบิดของมอเตอร์ไฟฟ้าอย่างเหมาะสมในขณะเข้าโค้ง นอกจากนี้ NISSAN LEAF ยังมีขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า EM57 ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 7.9 วินาที สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทาง 311 กิโลเมตร ต่อการชาร์จแต่ละครั้ง
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th