นี่คือ Porsche 911 Carrera ที่ลงตัวกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน “แรงและควบคุมได้อย่างง่ายดาย” ด้วยขุมพลังใหม่ขนาด 3.0 ลิตร 370 แรงม้า และแรงบิด 450 นิวตันเมตร เป็นเจ้าชายกบสุดหล่อที่ไม่ดื้อรั้น แถมยังเป็นมิตรกับผู้ขับแม้ว่าจะเป็นมือใหม่หัดขับ Porsche อีกด้วย

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จัดกิจกรรมให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับ Porsche 911 Carrera (ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า) รุ่นใหม่ล่าสุด ณ ลานอเนกประสงค์ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เพื่อให้ปลดปล่อยสัญชาตญาณความแรงและแรงบิดของรถสปอร์ตระดับตำนานได้อย่างถึงใจและปลอดภัย ซึ่งการทดลองขับในครั้งนี้ ผู้เขียนและนักข่าวคนอื่นๆ ได้ลองขับกันคนละ 2 รอบสนาม โดยทีมงานจัดให้ลองอัตราเร่งในทางตรง , การเปลี่ยนเลนกะทันหัน, การเบรกกะทันหัน และสลาลอม

มาพูดถึงตัวรถกันก่อน สำหรับ 911 Carrera คือรถสปอร์ตที่ขายดีที่สุดในโลกมาอย่างยาวนาน โดยรุ่นเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุดนี้ มีตัวถังที่เพรียวลู่ลม มาพร้อมระบบ Porsche Communication Management ใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Turbo Flat สุดแรงที่ผสานสมรรถนะเครื่องยนต์กับความสะดวกสบายได้อย่างลงตัวและเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน รวมทั้งติดตั้งระบบ Infotainment ใหม่ล่าสุดตอบโจทย์การใช้งาน อีกทั้งประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากถึง 13.5 กิโลเมตรต่อลิตร และมีอีกหนึ่งความโดดเด่นคือ Rear-Axle steering ที่สามารถเลือกติดตั้งเป็นอุปกรณ์เสริมให้กับ 911 คาร์เรร่า ได้เป็นครั้งแรก ทำให้เจ้าชายกบรุ่นนี้มีความคล่องตัวและควบคุมง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

จุดเด่นของ 911 Carrera ใหม่สะท้อน เห็นชัดเจนตั้งแต่ไฟหน้าที่มาพร้อมกับไฟ Daytime 4 ดวง (Four point daytime running lights) จนไปถึงที่จับประตูและฝากระโปรงหลังได้รับการออกแบบใหม่ ตัดเข้ากับไฟท้ายแบบใหม่ล่าสุดได้อย่างลงตัว ไฟเบรกแบบ 4 ดวง (Four point daytime brake lights) และที่ขาดไม่ได้กับสปอยเลอร์หลังที่เปิดและปิดได้ตามความเร็ว รวมถึงท่อไอเสียคู่เสียงดุดันกำลังดีที่สามารถสร้างความเร้าใจได้จากสวิทซ์ควบคุมบริเวณคอนโซลเกียร์

ส่วนภายในห้องโดยสารให้ความสปอร์ตและเรียบหรู มาพร้อมกับระบบ Porsche Communication Management ฟังก์ชั่นการใช้งานใหม่ เป็นระบบสัมผัสที่ง่ายต่อการใช้งาน เป็นห้องโดยสารที่ดีไซน์ประณีตและเนียบไปทุกจุด เบาะนั่งและพวงมาลัยเป็นงานแฮนด์เมด ทั้งยังมี Sport Chrono Package ฟังค์ชั่นเสริมที่สามารถเลือกติดตั้งได้ พร้อมกับโหมด Switch on บนพวงมาลัย ปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ 4 ระดับ คือ Normal, Sport, Sport Plus และ Individual พร้อม “Sport Respone button” ซึ่งจะทำให้เร่งเครื่องยนต์ถึง RED LINE ได้นานถึง 20 วินาที สำหรับการแซงด้วยความเร็วสูง สมองกลอิเลคทรอนิคส์จะควบคุมระบบเกียร์ให้ทำงานร่วมกับการจัดการเครื่องยนต์ เพื่อปรับเปลี่ยนพร้อมตอบสนองได้ในเวลาที่รวดเร็ว

อย่างที่พูดเอาไว้ข้างต้นกับระบบ Porsche Communication Management (PCM) ใหม่ล่าสุด อธิบายว่าระบบนี้มาพร้อมกับฟังก์ชั่นการค้นหาเส้นทางแบบออนไลน์ และควบคุมการใช้งานด้วยเสียงหรือ Voice Control โดย PCM สามารถใช้งานผ่านระบบหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว คล้ายกับการใช้งานบนสมาร์ทโฟน ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเรียกใช้งานด้วยการเขียนได้อีกด้วย

ในส่วนของขุมพลังใหม่  911 Carrera เป็นเครื่องยนต์ Bi-Turbocharged ขนาด 3.0 ลิตร ใหม่ล่าสุด ที่เพิ่มพละกำลังมากขึ้น 20 แรงม้า และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น มีพละกำลังสูงสุดถึง 370 แรงม้า และเพิ่มแรงบิดขึ้นอีก 60 นิวตันเมตร ทำให้มีแรงบิดสูงสุดถึง 450 นิวตันเมตร ที่รอบเครื่องยนต์ 1,700 – 5,000 รอบต่อนาที และเมื่อเครื่องยนต์ทำงานเข้าสู่ความเร็วสูงสุดที่ 7,500 รอบต่อนาที จะผลิตความเร็วสูงสุดของเครื่องยนต์เทอร์โบออกมาได้อย่างเต็มพิกัด พร้อมคำรามเสียงโทนต่ำที่ดังกระหึ่มสร้างความเร้าใจได้อย่างเต็มที่ ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ PDK ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นถึง 12% มีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเพียง 13.51 กิโลเมตรต่อลิตร  และมีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพียง 4.2 วินาที ถือได้ว่าเร็วกว่าเดิมถึง 2 ใน 10 ของวินาทีเมื่อเทียบกับรุ่นเดิม

ในเรื่องของการขับได้มีการพัฒนาความสมดุลระหว่างความสะดวกสบายในการขับใช้ในชีวิตประจำวันเข้ากับประสิทธิภาพเสมือนรถแข่งได้อย่างลงตัวมากขึ้นเรื่อยๆ และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่นำตัวถัง PASM ใหม่ล่าสุด (Porsche Active Suspension Management) ที่สามารถลดความสูงของรถให้ต่ำอีก 10 มิลลิเมตร ช่วยให้รถมีเสถียรภาพระหว่างเข้าโค้งด้วยความเร็วมากขึ้น ในขณะเดียวกันโช้คอัพสามารถการกระจายและเพิ่มความสะดวกสบายได้มากกว่าเดิม ส่วนล้อมาตรฐานแบบใหม่มาพร้อมกับก้านล้อแบบเรียวยาวคู่ 5 ก้าน และยางที่มีความกว้างของขอบล้อทางด้านหลังเพิ่มขึ้นอีก 0.5 ถึง 11.5 นิ้ว

สำหรับความปลอดภัยของ 911 Carrera ได้เพิ่มระบบช่วยเหลือต่างๆ เข้าไป ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (automatic speed control) สามารถช่วยเรื่องการเบรกได้อย่างมั่นคงเมื่อความเร็วเกินที่ตั้งค่าไว้ เช่น เมื่อขับลงเขา เป็นต้น , ระบบ Adaptive Cruise Control (ACC) เป็นอุปกรณ์เสริม มาพร้อมกับฟังก์ชั่น Coasting ที่ทำงานร่วมกับระบบเกียร์ PDK เมื่อต้องขับขี่ในสถานการณ์รถติด คลัทซ์จะหยุดทำงานเพื่อประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ไม่สูญเสียพละกำลังเครื่องยนต์ , ระบบช่วยเหลือในการเปลี่ยนช่องทาง (lane change assistant) ระบบเสริมที่สามารถเลือกติดตั้งได้ จะทำการตรวจสอบรถทางด้านหลังด้วยตัวจับสัญญาณและใช้ไฟ LED ทั้งด้านซ้ายและขวา เพื่อเป็นการเตือนผู้ขับขี่ให้ระวังรถที่อาจวิ่งเข้ามาในระยะจุดบอดได้  และระบบหยุดวงจรไฟที่เสียงต่อการเกิดไฟไหม้หรือความเสียหายหลังเกิดการชน (the post-collision braking system) ซึ่งเป็นคุณสมบัติมาตรฐานที่ติดตั้งมาใน 911 Carrera

มาถึงการทดลองขับจริงกันบ้าง..ก่อนที่จะได้ลองขับ ทางทีมงานของปอร์เช่ ประเทศไทย ได้ขับให้ดูไลน์สนาม 1 รอบ แต่เป็นการขับให้ดูแบบจัดเต็มและจริงจังมาก สัมผัสได้ถึงแรงG ที่กดให้หลังติดเบาะจนต้องร้องว้าววว!! ตั้งแต่ออกตัว แต่ที่น่าตื่นใจไปมากกว่านั้นคือ การเปลี่ยนเลนกะทันหันด้วยความเร็ว แต่รถไม่มีเสียอาการแม้แต่นิดเดียว เมื่อถึงเวลาที่ผู้เขียนได้ขับดูบ้าง ก่อนอื่นต้องปรับเบาะให้เหมาะสม สำรวจอุปกรณ์ต่างๆ และปรับให้อยู่ในโหมดสปอร์ต ดันเกียร์ในตำแหน่ง D แล้วกดคันเร่งจนมิด…

เข็มความเร็วและวัดรอบกวาดขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมๆ กับแรงกระชากที่พุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรุนแรงอย่างมั่นคง ไม่มีอาการท้ายสะบัดแม้แต่น้อย หน้ารถไม่เชิดขึ้นเมื่อคิกดาวน์เหมือนรุ่นก่อน และเพียงพริบตาเดียวความเร็วทะลุ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมๆ กับถึงจุดที่ต้องเปลี่ยนเลนกะทันหัน แตะเบรกเล็กน้อยแล้วหมุนพวงมาลัยไปทางซ้ายแล้วกลับมาขวา ด้วยความเร็วที่รู้สึกได้ว่ามันเร็ว (ไม่ทันได้มองมาตรวัดว่าเร็วเท่าไหร่) ตัวรถไม่มีอาการโยนตัวสักนิด ช่วงล่างแน่นและเกาะถนนอย่างมหัศจรรย์ จากนั้นเบรกเต็มแรงก่อนเข้าโค้งซ้ายด้วยการกดคันเร่งดันความเร็วขณะเข้าโค้ง แล้วขับทางตรงเพื่อทำ Lane Change อีกครั้ง และกลับสู่ทางตรงเมื่อเริ่มต้น จากนั้นผู้เขียนเพิ่มความเร็วมากขึ้นกว่าในรอบแรกแล้วพิจารณาถึงผลการขับอีกครั้ง

สรุปได้ว่า 911 Carrera รุ่นใหม่ ขุมพลัง 3.0 ลิตร Bi-Turbo charged แรงม้า 370 ตัว แรงบิด 450 นิวตันเมตร เป็นอะไรที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเรื่องของอัตราเร่งที่เร็วขึ้น มีการตอบสนองของเกียร์ PDK ที่ทันใจมาก พร้อมทั้งระบบช่วงล่างที่ต้องใช้คำว่า “เป็นเลิศ” ทำให้การขับเพียง 2 รอบใช้เวลาเพียงไม่ถึง 3 นาทีเท่านั้น แต่สัมผัสที่ได้คือความตื่นเต้น เร้าใจ ปลอดภัยและน่าประทับใจกับผลที่ได้รับ เป็น 911 ที่เหมาะทั้งกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แถมพร้อมที่จะสวมวิญญาณเป็นตัวแรงในสนามแข่งในทันที และด้วยราคาค่าตัวที่ 12,200,000 บาท ทำให้เหล่าผู้ชื่นชอบ Sport Car ต้องอยากเป็นเจ้าของอย่างแน่นอน

ขอขอบคุณ ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ที่เอื้อเฟื้อความสะดวกในการทดลองขับ

เรื่อง/ภาพ : พุทธิ  ผาสุข

เรียบเรียงข้อมูลโดย กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th