All-New BMW M5 สู่ยุคเสียบปลั๊กชาร์จไฟมีไฟฟ้าช่วยขับเคลื่อนเป็นครั้งแรก
BMW เผยโฉม All-New M5 เจเนเรชันใหม่บนพื้นฐานของ 5 Series เจเนเรชันที่ 8 ที่เผยโฉมออกมาเมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งแรกของรถซีดานสมรรถนะสูงรุ่นนี้มีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยในการสร้างกำลังขับเคลื่อนจากระบบปลั๊กอินไฮบริด ทำให้เป็นรถรุ่นแรงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
All-New BMW M5 ใหม่ซึ่งเป็นเจเนเรชันที่ 7 มีหัวใจในการขับเคลื่อนเป็นระบบ M Hybrid ที่ออกแบบโดยเฉพาะ ใช้เครื่องยนต์ V8 4.4 ลิตรเทอร์โบ 585 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 แรงม้า ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 145 kW หรือ 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 แรงม้า และแบตเตอรีความจุ 18.6 kWh ให้กำลังจากระบบไฮบริดออกมารวม 727 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,000 นิวตัน-เมตร โดยใช้ระบบส่งกำลัง M Steptronic 8 สปีดนำกำลังสู่ทุกล้อของรถผ่าน M xDrive พร้อมมี Active M Differential ที่เพลาหลังของรถ
ในด้านความเร็วของรถใช้เวลา 3.5 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ส่วนการทำความเร็วจาก 0-200 กม./ชม. ใช้เวลา 10.9 วินาที และจำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 250 กม./ชม. แต่ไปถึงความเร็ว 305 กม./ชม. ได้ด้วยออปชัน M Driver’s Package ส่วนระยะการเดินทางโดยใช้เฉพาะไฟฟ้าทำได้สูงสุด 69 กิโลเมตร โดยรถรองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ AC 7.4 kW เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
แม้รถจะขับเคลื่อนทุกล้อของรถแต่ก็เน้นที่ล้อหลัง โดยมี 3 โหมดให้เลือกระหว่าง 4WD, 4WD Sport และ 2WD ซึ่งโหมดหลังจะขับเคลื่อนด้วยล้อหลังพร้อมปิดการทำงานควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ รวมทั้งมี Launch Control ให้ใช้เพื่อการมีการเร่งความเร็วดีที่สุดยกเว้นในโหมด 2WD
นอกจากมีระบบขับเคลื่อนไฮบริดสำหรับรุ่นโดยเฉพาะแล้ว แชสซีส์ของรถยังได้รับการอัปเกรดถูกปรับตั้งโดยเฉพาะ มีช่วงล่าง Adaptive M พร้อมแดมเปอร์ควบคุมด้วยไฟฟ้า และ Integral Active Steering เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน อย่างไรก็ตามการที่รถรุ่นใหม่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรีในระบบไฮบริดทำให้มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจาก 1,971 กิโลกรัมในรุ่นที่แล้วเป็น 2,445 กิโลกรัม
ส่วนดีไซน์ภายนอกของรถที่ด้านหน้ามีกระจังหน้าไตคู่ ซึ่งมีแผงสีดำเงาพร้อมแถบแนวนอนอยู่ภายในที่ดูคล้ายกระจังหน้าปิดของรถไฟฟ้า พร้อมมีขอบกระจังหน้าไตคู่เรืองแสง นอกจากนี้รถยังมีซุ้มล้อที่เพิ่มความกว้างมากขึ้น 3 นิ้วที่ด้านหน้าและเพิ่มความกว้างขึ้น 1.9 นิ้วที่ด้านหลัง โดยล้อมาตรฐานของรถมีขนาด 20 นิ้วที่ล้อหน้าและขนาด 21 นิ้วที่ล้อหลัง ส่วนด้านหลังของรถมีสปอยเลอร์หลัง M และปลายท่อไอเสียคู่ M แบล็กโครม รวมไปถึงมีกระจกข้างที่ถูกออกแบบเน้นแอโรไดนามิก
ห้องโดยสารของรถมีเบาะ M Multifunction ที่ถูกออกแบบให้มีความสมดุลย์ทั้งสำหรับการเดินทางไกลและการขับในสนามแข่ง โดยมีหลายสีของวัสดุหุ้มเบาะให้เลือก รวมไปถึงมีพวงมาลัยที่ถูกออกแบบใหม่ปรับความอุ่นได้ แสงไฟในห้องโดยสาร M5-specific ระบบเสียงรอบทิศทาง Bowers & Wilkins การแสดงข้อมูล Head-up Display และหลังคา Sky Lounge Panoramic Roof เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
แน่นอนว่ารถมาพร้อมกับจอ Curved Display เหมือนกับรถรุ่นใหม่ๆ จากค่ายกังหันฟ้า-ขาว โดยมีจอแสดงข้อมูล 12.3 นิ้วซึ่งมีกราฟฟิก M-specific และจอควบคุมขนาด 14.9 นิ้ว โดยรถมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ 8.5 ที่ลดปุ่มจริงลง ใช้การปรับที่หน้าจอแทน
ทาง BMWจะเปิดตัวรถซีดานสมรรถนะสูงรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการในงาน Goodwood Festival of Speed ในอังกฤษเดือนกรกฏาคม 2024 นี้ ส่วนการขายรถทั่วโลกจะเริ่มเดือนพฤศจิกายน 2024 นี้ ขณะที่ตัวถังแวกอน M5 Touring จะมีการเปิดตัวตามออกมาภายหลัง โดยจะเริ่มการผลิตและขายในเดือนพฤศจิกายน 2024
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th