โตโยต้า ปรับลุค ALL-NEW CAMRY HEV หวังขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ ตั้งเป้าขาย 10,000 คันต่อปี
เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคยุคใหม่ โตโยต้า ปรับลุค ALL-NEW CAMRY HEV หวังขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมตั้งเป้ายอดขาย 10,000 คันต่อปี
ต้องยอมรับว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบัน มีความท้าทายอย่างมากกับการที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ แม้ว่าทางโตโยต้าเองจะเป็นผู้นำ ครองตำแหน่งบนสุดในตารางยอดจำหน่ายมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังต้องเผชิญกับตัวเลขยอดจำหน่ายที่ลดลงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนตลอดปีที่ผ่านมา
ล่าสุด บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดตัว ALL-NEW CAMRY โดยที่ไร้รุ่นเครื่องยนต์สันดาปออกมา มีแต่ HEV หรือเครื่องยนต์ Hybrid ทั้งหมด ถือเป็นการบ่งชี้ได้ถึงการปรับตัวให้เข้ากับตลาดปัจจุบัน และเพื่อตรงกับความต้องการที่เปลี่ยนไป
ศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เผยว่า
“สำหรับ ALL-NEW CAMRY ที่พร้อมจำหน่าย และส่งมอบแล้ววันนี้ ต้องการที่จะขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้สำหรับกลุ่มผู้บริหาร และรถกลุ่มฟลีต อีกทั้งยังมีการปรับเครื่องยนต์ในเจนใหม่นี้ ให้เป็นเครื่องยนต์ไฮบริดทั้งหมด เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน เนื่องจากที่ผ่านมา โตโยค้า คัมรี่ ที่เป็นเครื่องยนต์สันดาป หรือรถที่ใช้น้ำมันล้วนนั้นมียอดจำหน่ายที่น้อยกว่าเป้า คือไม่ถึง 30%
ซึ่งการเปิดตัวเจนใหม่เข้ามาเพิ่มนั้น ตั้งเป้าไว้ว่าจะได้ส่วนแบ่งการตลาดเท่ากับยอดที่เคยเปิดตัวมาคือ 50-60% จากตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ D-Segment จากเดินราวเดือนละ 1,000 แต่ที่ปัจจุบันมียอดขายรวมราวเดือนละ 700 คัน แบ่งเป็น Camry, Accord, Seal, L07 และ ORA07 แต่อย่างไรก็ดี หลังจากออก Camry เจนใหหม่ออกมาแล้ว และมีการปรับให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมายใหม่มากขึ้น คาดว่ายอดน่าจะโตขึ้นพอสมควร เนื่องจากมีแฟนๆ คัมรี่ที่รออยู่
บวกกับครั้งนี้เราเชื่อว่าเป็นการมาที่มีจุดเด่นเหนือกว่าคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบริการหลังการขาย จำนวนศูนย์บริการที่มีกว่า 450 แห่งทั่วประเทศ พร้อมกับช่างชำนาญการที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี รวมถึงประสิทธิภาพในการขับขี่ที่อยากให้ทดลองขับกันแล้วจะรู้ว่าสมรรถนะการขับขี่รุ่นนนี้ดีมากๆ พร้อมกับในอนาคตที่เราพร้อมจะส่งออก โตโยต้า คัมรี่ ไปยังแถบเอเชีย”
และแนวโน้มในอนาคตทางโตโยต้าไม่ได้ยืนยันว่าจะเปลี่ยนมาผลิตเครื่องยนต์ไฮบริดเพียงอย่างเดียว ยังยืนยันที่จะใช้นโยบาย Multi-Pathway ในการผลิตต่อไป เนื่องจากยังมีรถยนต์ใน Segment อื่นๆ ยังคงผู้บริโภคที่มีความต้องการเครื่องยนต์สันดาปอยู่ และขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ แต่ละทวีปด้วย ซึ่งยังคงมีความต้องการแตกต่างกัน อย่างไรก็ดี หากตลาดผู้บริโภคมีความต้องการรถยนต์สันดาปลดลง ทางโตโยต้าเองก็พร้อมที่จะปรับการผลิต และจำหน่ายเครื่องยนต์ไฮบริดมากขึ้น
นอกจากนี้ทาง มร. โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เผยว่า
“ปีนี้ สถานการณ์อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยยังคงเผชิญความท้าทายอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดที่หดตัวลง ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว โตโยต้านับว่าประสบความสำเร็จจากรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวไป และความพยายามของผู้แทนจำหน่ายฯ ทั่วประเทศ ทำให้เราสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 38% สูงสุดในรอบ 13 ปี
ซึ่งนับตั้งแต่โตโยต้าเปิดตัว Camry สู่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อพ.ศ. 2536 ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากลูกค้าทั้งภายในประเทศและในต่างประเทศ ยอดจำหน่ายสะสมในประเทศอยู่ที่กว่า 230,000 คัน (ข้อมูลยอดขายตั้งแต่พ.ศ. 2536 ถึงเดือนสิงหาคม 2567) และเราได้ส่งออก Camry มากกว่า 130,000 คัน ไปจำหน่ายยังประเทศอื่นๆ กว่า 10 ประเทศ (ข้อมูลยอดส่งออกตั้งแต่พ.ศ. 2550 ถึงเดือนสิงหาคม 2567) ซึ่งช่วยส่งเสริมการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย รวมทั้งการพัฒนาของอุตสาหกรรมยานยนต์ มาเป็นระยะเวลากว่า 15 ปี
อีกทั้งยังเป็นรถโมเดลหลักที่มีความสำคัญในเซกเมนต์รถยนต์นั่งขนาดกลางในประเทศไทย ที่สำคัญ Camry HEV ยังเป็นยนตรกรรมที่บุกเบิกตลาดรถยนต์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (xEV) ของประเทศไทย โดยโตโยต้าเริ่มการผลิตและแนะนำ Camry HEV รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดในปีพ.ศ. 2552 จากนั้นเป็นต้นมา ยังได้พัฒนายนตรกรรมไฮบริดให้ดียิ่งขึ้นอีกหลายรุ่น เพื่อมุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายในรถประเภทนี้
ปัจจุบัน ตลาดรถ xEV มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย สัดส่วนตลาด xEV ในปีนี้ (ข้อมูลถึงเดือนกันยายน 2567) ขยายตัวอยู่ที่ 36% ของตลาดรวม โดยยอดขายรถยนต์ไฮบริดเติบโตที่ 21% ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 13% ทำให้รถยนต์ไฮบริดกลายเป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากลูกค้าชาวไทย ปีนี้ โตโยต้ายังสามารถครองความเป็นผู้นำด้านยอดขายในตลาด xEV ด้วยยอดขาย HEV สูงที่สุดในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากความสำเร็จด้วยยอดขายของยาริส ครอส ที่เปิดตัวปีที่ผ่านมา เราจึงขอขอบพระคุณลูกค้าทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุน Toyota Trusted Hybrid ซึ่งเป็นหนึ่งในทางเลือกที่สามารถไว้วางใจได้ และเหมาะสมสอดคล้องกับการใช้งานจริงสูงสุด
และเพื่อต่อยอดความสำเร็จของ Toyota Camry เราพร้อมแล้วที่จะแนะนำสุดยอดยนตรกรรมแห่งความสมบูรณ์แบบเหนือระดับกับ ALL-NEW CAMRY ที่มาในรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดในทุกไลน์อัพ เพื่อตอบรับความต้องการที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วของรถเครื่องยนต์ไฮบริด HEV ที่มีระดับราคาที่หลากหลาย ผมเชื่อว่า ALL-NEW CAMRY จะสร้างความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของให้กับผู้ที่ครอบครองยนตกรรมรุ่นนี้ ควบคู่ไปกับความสบายใจตลอดการใช้งาน ผ่านเทคโนโลยีไฮบริดของโตโยต้าที่มาพร้อมความเหนือกว่า ทั้งนี้ เราตั้งเป้าหมายการขายที่ 10,000 คัน ต่อปี”
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ยังย้ำถึงความเป็นผู้นำรถยนต์ไฮบริดเพิ่มเติมว่า
“ALL-NEW CAMRY จะมาพร้อมขุมพลังไฮบริดในทุกรุ่นย่อย ช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำรถยนต์ไฮบริด ที่ได้รับความไว้วางใจในประเทศไทยมายาวนานกว่า 15 ปี และยังมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ด้วยการสื่อสารภายใต้แนวคิด “TOYOTA TRUSTED HYBRID” โดยทางโตโยต้าจะยังมุ่งเน้นสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้รถโตโยต้า Hybrid อย่างต่อเนื่องทั้ง 3 ด้าน
- Toyota Service Technician ช่างผู้ชำนาญการที่ผ่านการฝึกอบรมจากศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมโตโยต้าที่มีมากกว่า 8,000 คน รวมถึงอุปกรณ์การซ่อมที่ได้มาตรฐานสำหรับรถ Hybrid ที่ศูนย์บริการทั่วประเทศ
- ด้านอะไหล่ เรามีความพร้อมให้บริการ เรามีการจัดเตรียมอะไหล่ไว้รองรับนานกว่า 15 ปี และสามารถจัดส่งได้ภายใน 48 ชั่วโมง
- และเรายังพร้อมดูแลลูกค้าทั่วประเทศ ด้วยศูนย์บริการกว่า 450 แห่ง
จากความไว้วางใจและเป็นที่นิยมของลูกค้ามาอย่างยาวนาน ส่งผลให้ราคาขายต่อรถไฮบริดของโตโยต้านั้น ยังคงมีมูลค่าที่สูง และเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง”
ซึ่งหลังจากที่ทางโตโยต้าเปิดลงทะเบียนจองสิทธิ์รถยนต์โตโยต้า คัมรี่ ใหม่ ไปเมื่อช่วงวันที่ 1-9 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น มีผู้สนใจจองสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ ALL-NEW CAMRY เข้ามา มากถึง 1,516 คัน
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th