เปิดตัวครั้งแรกของโลก All-new Electric Mercedes-Benz G-Class เอสยูวีขวัญใจสายลุยพลังไฟฟ้า
All-new Electric Mercedes-Benz G-Class เปิดตัว อย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลก ติดตั้งเทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้า EQ Technology มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 116 กิโลวัตต์ชั่วโมง ส่งกำลังสู่มอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัวที่แยกการทำงานอิสระสู่ทั้ง 4 ล้อ โดยมีกำลังสูงสุด 432 กิโลวัตต์/580 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 1,164 นิวตันเมตร ระยะการขับสูงสุด 473 กม./ชาร์จ ตามมาตรฐานทดสอบ WLTP
แนวทางการดีไซน์ G-Class เวอร์ชั่นไฟฟ้า ทีมออกแบบของ Mercedes เลือกใช้พื้นฐานตัวถังแบบ Ladder-frame เหมือนกับรุ่นแรกที่เปิดตัวเมื่อปี 1979 โดยติดตั้งระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบคานแข็ง (Rigid Axle) พร้อมระบบเกียร์ Low Range เพื่อการขับขี่แบบออฟ-โรด
New Mercedes-Benz G-Class รุ่นใหม่ยังคงเอกลักษณ์พร้อมเพิ่มความทันสมัย
ถึงจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า แต่เมอร์เซเดส ยังคงสร้าง All-new G-Class Electric ให้พร้อมลุยในทุกสถานการณ์ด้วยการติดตั้งแผงป้องกันด้านใต้ตัวถังที่ผลิตจากคาร์บอน และวัสดุคุณภาพสูงเพื่อปกป้องแบตเตอรี่จากการถูกกระแทก รวมทั้งน้ำ และฝุ่นละออง ในตำแหน่งที่เหมาะสมเพื่อสร้างความสมดุลย์มากที่สุดให้กับรถยนต์อเนกประสงค์คันนี้
นอกเหนือจากนี้ All-new Electric G-Class ติดตั้งระบบควบคุมการขับขี่ที่ล้ำสมัยเพื่อการขับแบบออฟ-โรด โดยเฉพาะทั้ง G-TURN, G-STEERING และระบบควบคุมอัจฉริยะบนทางลาดชัน รวมทั้งการใช้แรงบิดเพื่อสร้างระบบเสมือน Virtual Differential Locks
การปรับฝากระโปรงหน้าให้ยกสูงขึ้น, เสา A-Pillar ที่ถูกปรับขนาดลดลง, การติดตั้ง Spoiler Lip บนหลังคา และอุปกรณ์ Air Curtains บริเวณซุ้มล้อหลัง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบแอโรไดนามิกส์ รวมทั้งลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารซึ่งจะสัมผัสประสบการณ์ขับขี่จากระบบจำลองเสียง G-Roar ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ
ภายในห้องโดยสารของ G-Class ได้รับการดีไซน์ใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Off Road Cockpit ติดตั้งระบบควบคุมความบันเทิง MBUX ควบคุมผ่านหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว พร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ และระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัย
ในช่วง เปิดตัว เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะใช้รหัส G 580 ต่อท้าย All-new Electric G-Class โดยจะผลิตรุ่นพิเศษ The EDITION ONE ที่จะมีออปชั่นพิเศษเพิ่มเติมจากรุ่นปกติออกมาให้จับจองก่อน แต่ยังไม่มีการระบุช่วงเวลาส่งมอบ และราคาอย่างเป็นทางการในตอนนี้
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: Mercedes-Benz Media
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th
Mercedes-Benz G-Class Stronger Than Diamonds Edition ให้ความรู้สึกหรูตั้งแต่ภายนอกด้วยสีที่ถูกเรียกว่า Rosewood Grey Mango ที่ถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษโดยเฉพาะจากโปรแกรม Manufaktur Personalization และเสริมความหรูด้วยการใช้เพชร 25 กระรัตที่หัวก้านล็อกประตูสเตนเลสสตีลทั้ง 4 บานของรถ ซึ่งเพชรทั้งหมดที่ใช้ในรถได้รับการรับรอง Responsible Jewellery Council เพื่อแสดงถึงการมีที่มาจากแหล่งที่รับผิดชอบทั้งทางจริยธรรม สังคม และสิ่งแวดล้อม ห้องโดยสารของรถนอกจากมีหัวก้านล็อกประตูเป็นเพชรแล้วยังใช้หนัง Nappa สีดำเย็บด้ายสีตัดกับหนัง พร้อมมีพรมปูพื้น Deep-pile ที่ให้ความนุ่มเหมือนพรมในบ้าน รวมทั้งมีชื่อรุ่นพิเศษทั้งที่ครอบประตูเรืองแสงและมือจับที่แผงแดชบอร์ดด้านหน้าผู้โดยสาร นอกจากนี้กุญแจรถยังมีป้ายเงินพร้อมชื่อรุ่นพิเศษรอบรูปเพชรที่อยู่ตรงกลาง และปิดท้ายด้วยการมีผ้าคลุมสำหรับรถรุ่นพิเศษโดยเฉพาะ
รถออฟโรดรุ่นหรูเป็นพิเศษใช้พื้นฐานจาก G500 จึงทำให้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ 421 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 610 นิวตัน-เมตร ใช้ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 9 สปีดนำกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อทั้ง 4 ของรถ สำหรับราคาของรถอยู่ที่ 175,000 ยูโรในเยอรมนี ในด้านการออกแบบรถยังคงรายละเอียดต่างๆ ที่เป็นความคลาสสิกเอาไว้อย่างมือจับเปิดประตูรถ การแต่งภายนอกที่มีความแกร่งเพื่อปกป้องรถ ล้ออะไหล่ที่ติดอยู่บนประตูหลัง และไฟเลี้ยวที่ยื่นออกมานอกรถ แต่มีความเปลี่ยนแปลงรายละเอียดต่างๆ ภายนอกรถไปจากรุ่นก่อนหน้าอย่างกระจังหน้าใหม่พร้อม 4 แถบแนวนอน กันชนหน้าและกันชนหลังที่ได้รับการออกแบบใหม่ โดยกันชนหน้าให้ความรู้สึกหรูมากขึ้น