ทดสอบ Honda Accord e:HEV

เจนเนอเรชั่นล่าสุดของ ฮอนด้า แอคคอร์ด มิดไซส์คาร์ยอดนิยม ค่ายฮอนด้า เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค แทนที่เจนฯก่อนหน้าที่ทำตลาดในประเทศไทยนับตั้งแต่ต้นปี 2019 เป็นต้นมา ก่อนจะได้รับการปรับโฉมในปี 2021 ซึ่งประเทศไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญสำหรับ ฮอนด้า แอคคอร์ด ที่ส่งไปทำตลาดยังแผ่นดินแม่ด้วยเช่นกัน 

เวอร์ชั่นล่าสุดของ ฮอนด้า แอคคอร์ด พัฒนาให้มีความเตี้ยและกว้างยิ่งขึ้น มาพร้อมตัวถังที่มีความยาวเพิ่มขึ้น 68 มิลลิเมตร ออกแบบภายใต้แนวคิด Creative Black Tie ส่งผลให้รูปร่างหน้าตาออกไปทางตะวันตก ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการทำงานของทีมดีไซเนอร์ที่ต้องการให้มีความเป็นสากลและเป็นทางการยิ่งขึ้น ทว่ายังแฟงไว้ซึ่งความสนุกสนานผ่านลูกเล่นต่างๆ

ในเรื่องของรูปร่างหน้าตาอันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบ ลิ้นใครก็ลิ้นมัน โดยส่วนตัวค่อนข้างชื่นชอบกับรูปโฉมล่าสุดของ ฮอนด้า แอคคอร์ด ด้วยรูปร่างที่ปราดเปรียวจากเส้นสาย ไล่เรียงจากจากฝากระโปรงหน้าที่ลาดเอียงและยาวขึ้น สอดรับกับเส้นข้างตัวรถที่เพิ่มมิติและความบึกบึนให้กับตัวรถ รวมถึงด้านท้ายรถที่ลาด ผสานความสปอร์ตและพรีเมียมได้อย่างลงตัว

และเป็นครั้งแรกของ ฮอนด้า แอคคอร์ด ที่มาภายใต้รหัส RS ยกระดับความสปอร์ตสร้างความแตกต่างจาก 2 รุ่นรองด้วย หลังคาซันรูปปรับด้วยไฟฟ้า รวมถึงเสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ และสปอยเลอร์หลังสีดำทรงสปอร์ต มาพร้อมแอร์เคอร์เทนสีเงินบริเวณชายกันชนด้านหน้า และล้ออัลลอยทรงสปอร์ต 5 ก้านคู่สีดำแมตต์ ขนาด 18 นิ้ว รัดด้วย MICHELIN e·PRIMACY ยางสำหรับรถไฮบริดและบีวีอี ตอกย้ำความเป็นตัวตนด้วยแบดจ์ RS ที่กระจังหน้าและท้ายรถ

ขยับมาดูภายในห้องโดยสารดูพรีเมียมและทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยแผงแดชบอร์ดด้านหน้าที่ลดจำนวนปุ่มควบคุมต่างๆลงอย่างเห็นได้ชัด และโยกไปรวมไว้ที่ Experience Selection Dial ที่ติดตั้งไว้บริเวณกลางคอนโซล สามารถหมุนเพื่อเลือกและบันทึกฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ โดยแสดงผลผ่านหน้าจอกลางขนาด 12.3 นิ้ว ซึ่งใช้งานได้สะดวกดี เติมเต็มความพรีเมียมด้วยแอมเบียนต์ไลต์ที่ปรับได้ภายใต้ 2 โหมดการใช้งาน

มาตรวัดและหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว หลังพวงมาลัย ตอกย้ำความล้ำสมัยให้กับ ฮอนด้า แอคคอร์ด เจนฯล่าสุด รวมถึง Head-up Display ขนาด 11.5 นิ้ว ที่เติมเต็มความครบครันให้กับการใช้งาน Google Assistant เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่ ฮอนด้า ใส่เข้ามาใน แอคคอร์ด สามารถสั่งการด้วยเสียงใช้งานได้อย่างสะดวก เป็นฟีเจอร์ที่เข้ามายกระดับการใช้งานได้เป็นอย่างดี

เติมความสปอร์ตและพรีเมียมให้กับห้องโดยสารด้วยโทนสีดำ มาพร้อมเบาะหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์ สร้างความแตกต่างด้วยการเดินด้ายสีแดงทั้งเบาะนั่ง คอนโซลหน้า และคอนโซลกลาง รวมถึงแผงประตู และพวงมาลัย  เพิ่มมิติและความโดดเด่นด้วยชุดแต่งภายในสีเมทัลลิกลาย 3 มิติ รวมถึงวัสดุสีดำเงาเปียโนแบล็ก ดูรวมๆแล้วทันสมัยแปลกตายิ่งขึ้น

ด้านขุมพลัง ฮอนด้า ตอบสนองการใช้งานด้วยเครื่องยนต์ฟูลไฮบริด e:HEV ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร พละกำลัง 147 แรงม้า แรงบิด 182 นิวตันเมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว พละกำลัง 184 แรงม้า แรงบิด 335 นิวตันเมตร และเมื่อเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าผสานการทำงานร่วมกันจะรีดพละกำลังสูงสุดที่ 207 แรงม้า โดยสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ ได้แก่ Individual, Sport, Normal และ Econ

The History of Honda Accord: รถซีดานที่ครองใจคนทั่วโลกมานานกว่า 4 ทศวรรษ 

มาพร้อมปุ่ม EV Switch ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นใหม่ที่ใส่เข้ามาใน ฮอนด้า แอคคอร์ด เพื่อเลือกขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยโหมดดังกล่าวจะสามารถใช้งานได้ในย่านความเร็วระหว่าง 0-50 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทว่าด้วยขนาดของแบตเตอรี่ที่เล็ก ส่งผลให้วิ่งได้ระยะทางสั้นๆราวๆไม่เกิน 3 กิโลเมตรเพียงเท่านั้น เหมาะที่จะใช้เพื่อวิ่งเข้าหมู่บ้านหรือเข้าบ้านเพื่อลดมลพิษในเรื่องของควันและเสียงมากกว่า

อีกหนึ่งออปชั่นที่ยกระดับความพรีเมียมและทันสมัยนอกเหนือจากบรรดาฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ รวมถึงจอแสดงผลต่างๆ ก็น่าจะเป็นระบบเครื่องเสียง BOSE ที่จัดเต็มด้วยลำโพง 12 ตำแหน่ง นับเป็นอีกหนึ่งการขับตัวที่น่าสนใจและทำได้ดี และที่สำคัญใส่มาให้ในทุกรุ่นย่อย รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยประจำค่ายอย่าง Honda Sensing ที่เติมเต็มความปลอดภัยให้กับการขับขี่ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นเช่นกัน

โดยภาพรวมหลังการทดสอบ ฮอนด้า แอคคอร์ด สัมผัสได้ถึงฟีลลิ่งที่ทีมออกแบบต้องการสื่อโดยเฉพาะในเรื่องของความพรีเมียมและเป็นสากล ทว่ายังคงไว้ซึ่งความสปอร์ตและความสนุกสนานในการขับขี่ ไล่เรียงจากพละกำลังเครื่องยนต์ที่ตอบสนองการใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม บวกกับความคมของพวงมาลัย และความหนึบแน่นของระบบช่วงล่าง ที่เพิ่มความมั่นใจให้กับการขับขี่ได้เป็นอย่างดี

การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารเป็นอีกหนึ่งความโดดเด่น โดยกระจกบานหน้าและประตูคู่หน้าเป็นกระจกอะคูสติก มีแผ่นฟิล์มซ้อนอยู่ตรงกลางระหว่างกระจก มีจุดประสงค์เพื่อกันเสียงลม รวมถึงเซ็ตติ้งของระบบรองรับการสั่นสะเทือน บวกกับเทคโนโลยีเสริมที่ช่วยซับและเก็บเสียงจากภายนอกได้เป็นอย่างดี

หากพูดถึงสมรรถนะการใช้งานของ ฮอนด้า แอคคอร์ด นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ทั้งในเรื่องของรูปร่างหน้าตารวมถึงฟังก์ชั่นการใช้งานและขุมพลัง e:HEV ที่มีอัตราบริโภคเชื้อเพลิงเฉลี่ยราวๆ 17-18 กิโลเมตร/ลิตร จากการใช้งานจริง ถือว่ามีความน่าสนใจในตลาดดี-เซ็กเมนต์ หรือ มิดไซส์คาร์

จะติดก็เพียงแค่ราคาขายที่ค่อนข้างสูง ซึ่งก็เป็นเนเจอร์ของ ฮอนด้า ทว่าในยุคที่ตัวเลือกนับนิ้วไม่ถ้วนในปัจจุบัน อาจสร้างความลังเลในการตัดสินใจจับจองเป็นเจ้าของ แต่ถ้าเป็นแฟนฮอนด้าอยู่แล้ว ไม่น่าจะเป็นการตัดสินใจที่ยากจนเกินไปสำหรับ ฮอนด้า แอคคอร์ด เจนฯ 11

ทดสอบ Honda Accord e:HEV