All-New Honda CR-V เปิดตัว อย่างเป็นทางการแล้ว

Honda เปิดตัว All-New CR-V เจเนอเรชั่นที่ 6 ของคอมแพ็กต์เอสยูวียอดนิยมอย่างเป็นทางการในประเทศสหรัฐฯ

ฮอนด้า ประเทศสหรัฐฯ เปิดข้อมูลอย่างเป็นทางการของ All-New CR-V 2023 ปรับดีไซน์ให้มีความเรียบหรูแต่ดุดันมากขึ้น ติดตั้งระบบขับเคลื่อนไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 4 ให้อารมณ์การขับขี่แบบสปอร์ตพร้อมความประหยัดน้ำมัน พร้อมตัวเลือกรุ่นเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ที่จะพร้อมส่งมอบก่อนในช่วงซัมเมอร์นี้ ขณะที่รุ่นไฮบริดหรือ e:HEV ในบ้านเรา จะส่งมอบในช่วงปลายปี 2022

The 2023 Honda CR-V is Unveiled

All-New Honda CR-V เปิดตัว

All-New CR-V 2023 มีการปรับสัดส่วนให้ตัวถังมีขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มทิศทางการออกแบบใหม่ของ Honda ด้วยการใส่เส้นแนวนอนด้านล่างตัดผ่านกระจังหน้าที่ทำให้มีมิติความยาว และให้ความรู้สึกทรงพลัง โดยฐานล้อจะมีขนาด 2,700 มม., ความยาว 4,693 มม. ความสูง (หน้า/หลัง) 1,681/1,691 มม. และความกว้าง 1,864 มม.

ออล-นิว ฮอนด้า ซีอาร์-วี เวอร์ชั่นสหรัฐฯ จะแบ่งเป็น 4 รุ่นย่อย โดย 2 รุ่นเริ่มต้น EX และ EX-L ใช้ขุมกำลังเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร มีกำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิด 243 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับเกียร์ CVT ระบบช่วงล่าง (หน้า/หลัง) MacPherson Strut/Multi-Link ให้ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

All-New Honda CR-V เปิดตัว

ในขณะที่รุ่นไฮบริด Sport และ Sport Touring ติดตั้งระบบไฮบริดเจเนอเรชั่น 4 ที่ทำให้ CR-V 6th GEN เป็นรุ่นที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว สามารถสร้างกำลังรวมสูงสุด 204 แรงม้า และแรงบิด 335 นิวตันเมตร ติดตั้งระบบเกียร์ Two-motor Hybrid System with Two-stage Lockup พร้อมให้ล้ออัลลอยสีดำ 19 นิ้วในรุ่น Sport Touring

ภายในห้องโดยสารของ All-New CR-V ที่ถูกเปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้จะเห็นว่าดีไซน์มีความสปอร์ตทันสมัยใกล้เคียงกับ Civic เจเนอเรชั่นล่าสุด จอระบบ Infotainment แบบลอยตัวและแถบยาวลายรังผึ้งที่แผงแดชบอร์ดที่มีช่องระบบปรับอากาศรวมทั้งก้านปรับ และปุ่มไฟฉุกเฉินรวมอยู่ด้วย โดยมีสวิตช์ และปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศอยู่ด้านล่าง เบาะด้านหน้าเป็นหนังสีดำพร้อมรูระบายอากาศในส่วนกลางตัดการเดินด้ายสีส้ม เช่นเดียวกับที่วางแขนระหว่างเบาะหน้า และบริเวณประตู หนังหุ้มคันเกียร์ และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันที่เดินด้ายสีส้ม

All-New Honda CR-V เปิดตัว

ความแตกต่างของ 4 รุ่นย่อยจะเป็นออปชั่นอุปกรณ์ โดย 2 รุ่นรองของทั้ง 2 ขุมกำลัง หน้าจอควบคุมระบบความบันเทิงจะเป็นแบบทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนทั้ง 2 ระบบปฏิบัติการ Apple CarPlay และ Android Auto

แต่ไม่สามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายเหมือนรุ่น EX-L และ Sport Touring ที่จะได้จอทัชสกรีนที่มีความคมชัดระดับ HD ขนาด 9 นิ้ว รวมทั้งอุปกรณ์ Wireless Charging

ในส่วนของระบบความปลอดภัย All-New CR-V ทุกรุ่นย่อยจะมาพร้อมเทคโนโลยี Honda Sensing เป็นมาตรฐาน พร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่จะทำงานร่วมกับกล้องตรวจจับมุมกว้างแบบใหม่ และระบบเรดาห์ตรวจจับ, ติดตั้งถุงลมนิรภัย 10 ตำแหน่ง โดยระบบถุงลมนิรภัยคู่หน้าที่ได้รับการพัฒนาใหม่เช่นเดียวกับถุงลมนิรภัยป้องกันแรงกระแทกจากด้านข้าง และถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่า