All New Honda HR-V ขับจริง พร้อมไขปัญหาคาใจ ทำไมทำแบบนี้
All New Honda HR-V รถอเนกประสงค์ B SUV น้องใหม่จากค่ายฮอนด้าคันนี้ ดูจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษทั้งในด้านดี และด้านไม่ดี แต่ทั้งหมดมันก็ทำให้ All New Honda HR-V คันนี้เป็นที่รู้จักและพูดถึงกันอย่างแพร่หลายกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ ที่หลายคนจับตามองว่า All New Honda HR-V คันนี้จะขับดี และประหยัดน้ำมันขนาดไหน รวมไปถึงเรื่องการออกแบบทั้งม่านปิดหลังคา Panoramic Roof ด้านหลังว่าทำไมถึงออกแบบมาอย่างนี้ รวมไปถึงคำถามที่คาใจเรื่องหน้าจอวิทยุ กล้องรอบคัน เซ็นเซอร์ถอยหลัง ที่ไม่ได้มีมาให้ใน All New Honda HR-V คันนี้ ครั้งเราจะไปถามฮอนด้าแบบตรงๆ กับคำถามที่คาใจทั้งหมด บทความนี้มีคำตอบครับ
เรามีโอกาศได้ทดลองขับ All New Honda HR-V บนถนนเมืองไทยบนเส้นทางแบบง่ายๆกรุงเทพ – หัวหิน เพื่อดูสมรรถนะการขับขี่ของเครื่องยนต์ e:HEV ของฮอนด้าว่าขับดีและประหยัดขนาดไหน ช่วงล่างเป็นอย่างไร ลืมบอกไปรุ่นที่เราได้มาทดสอบเป็นรุ่นท็อปสุด RS นะครับ เรามาดูกันเลย
การออกแบบภายนอก
ดีไซน์ภายนอก โดดเด่นในสไตล์สปอร์ตคูเป้ ได้รับการออกแบบอย่างเรียบง่าย แต่ประณีตในทุกรายละเอียด ดึงดูดทุกสายตาด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ที่เชื่อมต่อกับไฟหน้า มอบความรู้สึกแข็งแกร่งและมีพลัง พร้อมด้วยการปรับตำแหน่งของเสา A ที่ช่วยให้กระโปรงหน้าดูลาดยาวยิ่งขึ้น ตอบรับกับการใช้เส้นสายในแนวนอนที่ยาวต่อเนื่องจากไฟหน้าไปจนถึงไฟท้าย มอบความรู้สึกสปอร์ตโฉบเฉี่ยวล้ำสมัย อีกทั้งด้านหลังมาพร้อมดีไซน์ท้ายลาดสไตล์ Fastback ที่ผสานการออกแบบเข้ากับหลักอากาศพลศาสตร์ไว้อย่างลงตัว ช่วยให้ตัวรถสวยงามและเฉียบคม สมบูรณ์แบบในทุกมิติ หลังคารุ่น RS ที่เราทดลองขับเป็น Panoramic Roof ซึ่งมันไม่ใช่ Sunroof นะครับ ดังนั้นมันไปสามารถเปิดได้ เรื่องความแข็งแรงของหลังคาไม่ต้องกังวล เพราะได้มีการขยายคานให้ใหญ่ขึ้นเพื่อความแข็งแรงเรียบร้อย
การออกแบบภายใน
ภายในห้องโดยสารออกแบบโดยมุ่งเน้นผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง มอบพื้นที่ที่กว้างขวาง สะดวกสบายในทุกที่นั่ง และคงไว้ซึ่งอรรถประโยชน์ โดยบริเวณคอนโซลหน้ามีการใช้เส้นสายแนวนอน พร้อมผิวสัมผัสที่เรียบ ผนวกกับการออกแบบที่ให้แสงภายนอกให้เข้าสู่ห้องโดยสาร ส่งผลให้ห้องโดยสารโปร่งโล่งอีกทั้งมีการจัดวางเลย์เอาต์และฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ถูกจัดวางในตำแหน่งที่เหมาะสม ใช้งานได้ง่ายโดยไม่ต้องละสายตาจากการขับขี่ มอบทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม สะดวกสบายในทุกการเดินทางทุกที่นั่ง ด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติ (Automatic Air Conditioning) ที่มาพร้อมระบบ Air Diffusion System โดยช่องปรับอากาศได้รับการปรับดีไซน์ใหม่ มอบทิศทางลมที่หมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ กระจายลมได้อย่างเหมาะสม ทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร มีช่องปรับอากาศตอนหลัง (เฉพาะรุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV RS) ทำไมถึงไม่ใส่มาให้รุ่นล่างสุดด้วยเลย งง มากครับ
อีกจุดอีกม่านหลังคา Panoramic Roof ด้านหน้าผมว่าบางจัดยังกะมุ้งเลยครับซึ่งผมว่ามันจะกันแสงแดดไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก ส่วนด้านหลังใช้งานไม่ได้ลำบากอะไร แต่มันลำบากที่ต้องหาที่เก็บนี่ละจะเก็บไว้ตรงเบาะหลังที่เรานั่งก็เกะกะ ไว้ด้านหลังก็กินเนื้อที่เก็บของ เอาออกไว้บ้านก็กลัวหาย อันนี้ผมว่าไม่โอเค เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส Advanced Touch 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay/Android Auto และBluetooth ใช้งานง่ายแต่ดีไซน์ไม่โดนเท่าไหร่
สมรรถนะการขับขี่
เรามาลองขับกันดีกว่าว่า All New Honda HR-V คันนี้ขับเป็นอย่างไรบ้าง เริ่มออกสตาร์ทจากในเมืองต้องบอกว่า ขุมพลังฟูลไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ให้กำลังสูงสุด 131 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที ออกตัวได้ดีมากกระฉับกระเฉงดีครับ ทั้งที่อยู่ในโหมด Econ แถมยังมีความคล่องตัวสูงเมื่อวิ่งในตัวเมือง ขับง่ายทัศนวิสัยดี พวงมาลัยของรุ่น RS เป็นพวงมาลัยไฟฟ้าพร้อมอัตราทดแบบแปรผัน (VGR) ซึ่งมันทำให้เราขับขี่ในตัวเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นได้อย่างสบาย หลุดออกมานอกเมืองลองอัตราเร่งกันอีกครั้งในโหมด Sport กดคันเร่งลงไปเครื่องยนต์ทำงานกระฉับกระเฉงขึ้นอย่างสัมผัสได้ ออกตัวดีช่วงไหลจากกลางไปปลายดูจะหนืดๆลงไป แต่ก็ไม่ได้อืดจนน่าเกลียดถือว่าเป็นรถที่ขับสนุกเลยทีเดียว การเร่งแซงทำได้ดีไม่มีลุ้น กดคันเร่งหนักขึ้นเสียงเครื่องดังเข้ามาในห้องโดยสารอย่างชัดเจนความเร็วค่อยๆขึ้นไปแตะที่ประมาณ 169 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ก็ยังไปได้อีกนะครับพอดีเส้นนี้กล้องของพี่ตำรวจเยอะเลยยกดีกว่า อัตราเร่ง 0-100 ในโหมดSport ทำได้ประมาณ 10 วินาที ถือว่าไม่แย่นะครับ อัตราบริโภคน้ำมันฮอนด้าเครมไว้ 25.6 กิโลเมตรต่อลิตร แต่เนื่องด้วยตอนผมขับทดสอบมีทั้งในเมืองรถติด นอกเมืองก็ใช้ความเร็วในการเดินทางค่อนข้างสูงประมาณ 120 -160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีการเร่งแซงบ่อยครั้งตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองของผมที่ทำได้คือ 17.4 กิโลเมตรต่อลิตร ก็ถือว่ายังประหยัดอยู่นะครับ
ระบบช่วงล่างด้านแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นทอร์ชั่นบีมแบบ H-shape แถมยังมีการปรับเซ็ทใหม่เพื่อรุ่นท็อปสุดอย่าง RS เท่านั้น(ทาวงฮอนด้าเค้าบอกมา)ซึ่งผมก็ไม่ทราบว่ารุ่น E กับ EL มันเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆรุ่น RS ต้องบอกเลยว่าปรับเซ็ทออกมาได้ยอดเยี่ยมมากดีกว่ารุ่นก่อนหน้า และดีกว่าคู่แข่ง ออกแนวนุ่ม หนึบ คือ ไม่ได้กระด้างเหมือน Haval Jolion และ ก็ไม่นิ่มเหมือน Toyota Cross ผมว่าฮอนด้าปรับเซ็ทมาได้ดีมาก การวิ่งทางตรงยาวๆด้วยความเร็วตัวรถยังคงนิ่งไม่มีโคลง พวงมาลัยแบบแปรผันก็ปรับให้ตึงมือ และแม่นยำขึ้น ผสานกับเครื่องยนต์ที่ดี ทำให้ All New Honda HR-V รุ่น RS คันนี้ขับสนุกมากขึ้น การเข้าโค้งด้วยความเร็วตัวรถยังคงนิ่งควบคุมง่าย ต้องยอมรับระบบช่วงล่างดีจริง ดีกว่ารุ่นก่อนหน้าซะอีก
All New Honda HR-Vทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda Sensing
- ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
- ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
Honda HR-V ใหม่ มีระบบความปลอดภัยอื่นๆ อีกมากมาย
- ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control: HDC)
- ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake)
- ระบบ Auto Brake Hold
- ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)
- ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
- ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง
- ถุงลม 6 ตำแหน่ง
- ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS)
- ช่วยป้องกันล้อล็อกเมื่อเบรกกะทันหัน และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) บนพื้นถนนที่ลื่น
- ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (Vehicle Stability Assist – VSA)
- ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA)
- สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal – ESS)
ส่วนเรื่องปัญหาคาใจผมได้สอบถามกับทางฮอนด้าไปแล้วได้คำตอบแบบนี้ครับ
คำถาม : เรื่องม่านหลังคาด้านหลังทำไมถึงออกแบบอย่างนี้
ฮอนด้า : เนื่องจากตัวรถออกแบบให้มีด้านท้ายลาดลงสไตล์รถ Fastback จึงทำให้ไม่สามารถติดตั้งรางม่านด้านหลังได้เพราะเนื้อที่ไม่เพียงพอ จึงออกแบบมาเป็นแผ่นปิดที่ใช้สลักถอดเข้าออกแทน
คำถาม : ม่านหลังที่เป็นสลักถอดเข้าออกแบบนี้ ใช้งานนานๆไปจะทำให้เกิดเสียงดังภายในห้องโดยสารหรือไม่
ฮอนด้า : เราได้ทดสอบมาเป็นเวลา 1-2 ปีแล้วก่อนจำหน่ายจริง ไม่เกิดเสียง และไม่หักง่ายแน่นอน
คำถาม : ถ้านำรถไปติดฟิล์มกรองแสงตรงบริเวณ Panoramic Roof แล้วเวลาลอกออกเปลี่ยนฟิล์มจะทำให้สารกัน UV หลุดออกไปด้วยหรือไม่
ฮอนด้า : สาร Low E กันแดดกันUV ของเราทางฮอนด้ามีการผสมสารนี้ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต Panoramic Roof อยู่แล้วไม่ได้มาเคลือบที่หลัง ดังนั้นไม่ว่าจะทำความสะอาด หรือติดฟิล์มเข้า-ออก ขนาดไหนก็ไม่ทำให้สาร Low E ของเราหลุดออกไปได้ แต่ก็ไม่มีความจำเป็นต้องติดตั้งฟิล์มกรองแสงเพราะ Panoramic Roof ที่มีสาร Low E ของเราสามารถกันได้ทั้งแสงUV และแสงInfrared ได้ไม่ต่ำกว่า 75% รวมไปถึงสามารถกันได้ทั้ง UV A และUV B อีกด้วย การติดฟิล์มก็แค่ช่วยในค่ากันแสง UV มากขึ้นอีกนิดก็เท่านั้น
คำถาม : ทำไมฮอนด้าถึงไม่ใส่กล้องรอบคัน และเซ็นเซอร์ถอยหลังมาให้
ฮอนด้า : มันมีการใช้งานที่แตกต่างกันนะครับ เราให้ Lanewatch มาแล้วซึ่งมันสามารถมองเห็น และแจ้งเตือนได้ในขณะที่มีรถอยู่ตรงจุดอับสายตา ส่วน multi-view camera หรือกล้องรอบคันนั้นแค่ช่วยในการถอยเข้าช่องจอดเท่านั้น ซึ่งเราก็ไม่กล้องมองหลังมาให้ แต่ถ้าลูกค้าเรียกร้องเราก็จะกลับไปศึกษา และปรับปรุงในรถรุ่นอื่นๆต่อไปครับ
คำถาม : กล้อง Lanewatch และกล้องมองหลัง ภาพไม่ชัดเลย
ฮอนด้า : เราจะนำไปปรับปรุงในดีขึ้นครับ
คำถาม : ทำไมฮอนด้าถึงเลือกใช้หน้าจอสัมผัส Advanced Touch 8 นิ้ว แบบนี้เพราะมันดีไซน์เชย และไม่สวยเลย
ฮอนด้า : สเป็คของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน และไม่ใช่เพียงแต่ประเทศไทยที่ใช้หน้าจอแบบนี้ ประเทศอื่นบางประเทศก็ใช้เหมือนกัน รวมไปถึงในประเทศญี่ปุ่นก็มีรุ่นที่หน้าจอแบบนี้เช่นกัน
Honda HR-V e:HEV มีให้เลือก 3 รุ่น มีราคาดังนี้
- Honda HR-V รุ่น e:HEV RS ราคาประมาณ 1,200,000 บาท
- Honda HR-V รุ่น e:HEV EL ราคาประมาณ 1,100,000 บาท
- Honda HR-V รุ่น e:HEV E ราคาประมาณ 990,000 บาท
สรุป. All New Honda HR-Vเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกการดีไซน์อันนี้แล้วแต่คนชอบผมว่าก็สวยดีครับ ภายในนั่งสบายครับ หลังคา Panoramic Roof ทำให้รถดูกว้างขึ้นเมื่อเปิดม่านออก แต่ถ้าแดดแรงก็ตัวใครตัวมัน ด้านหน้าไม่เท่าไหร่เพราะเป็นแบบสไลต์ แต่ด้านหลังงานเขาถอดออกมาไม่รู้เก็บไหนเลย หน้าจอสัมผัสใช้งานได้ดีแต่โครตเชย กล้องรอบคัน เซ็นเซอร์ถอยหลัง รถราคาระดับนี้สมควรมีให้แต่ก็ไม่มี หวังว่าไม่เนอร์เชนจ์คงมีมาให้ ระบบ Honda Sensing ดีงามจัดมาให้ใช้งานแบบเต็มๆ กล้อง Lanewacth และกล้องถอยหลังไม่ชัดสู้คู่แข่งไม่ได้ เรื่องสมรรถนะต้องบอกว่าออกตัวดี ช่วงกลางไปปลายความเร็วขึ้นแบบเรื่อยๆไม่จื๊ดจ๊าด แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งาน ขับสนุกเพราะระบบช่วงล่างที่ปรับเซ็ทมาได้อย่างยอดเยี่ยมเค้าโค้งมั้นใจ นิ่งไม่มีโคลง ดูดซับแรงได้ดี ในรุ่น RS รุ่นอื่นไม่รู้ ประหยัดน้ำมันได้ดีขนาดซัดมาเต็มๆยังอยู่ที่ 17.4 กม./ลิตร ปรบมือให้ กับราคา 990,000 – 1,2000,000 บาท มันก็คุ้มค่าเงินอยู่ แม้ราคาจะสูงไปนิดสำหรับรุ่น RS ผมว่าลงมาเล่นรุ่น EL คุ้มที่สุดหมดปัญหาเรื่องม่านหลังคาด้วย ยังไงก็ไปชมคันจริงและลองขับก่อนตัดสินใจนะครับ
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th