ลองขับ ALL NEW MAZDA 3 ขับสนุก เข้าโค้งมันส์ ดีไซน์โดน เทคโนโลยีเพียบ
หลังจากการเปิดตัว ALL NEW MAZDA 3 ที่สามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าชาวไทยได้มากทีเดียว เรียกได้ว่าออกมาปุ๊บทำเอาคู่แข่งต้องจับจองเป็นพิเศษกันเลยทีเดียว เพราะรูปลักษณ์ที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ทำให้ ALL NEW MAZDA 3 เป็นรถยนต์ที่โดดเด่นมากในตลาดเซ็กเม้นท์ของเก๋งขนาดกลาง และครั้งนี้ทีมงาน Grandprix Online ได้มีโอกาสเข้าร่วมการทดสอบรถยนต์ ALL NEW MAZDA 3 กันที่จังหวัดภูเก็ต บนเส้นทางภูเก็ต-พังงา ซึ่งนับได้ว่าเป็นการขับแบบจริงจังครั้งแรกของพวกเรา
เรามาดูรูปลักษณ์ภายนอกกันก่อนเลยครับว่าเจ้า ALL NEW MAZDA 3 มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง แน่นอนมาสด้ายังคงยึดแนวทางการออกแบบ KODO DESIGN คือการแสดงออกถึงรูปแบบใหม่ของความสง่างาม มาผสานกับการเคลื่อนไหวด้วยเส้นสายเพียงเส้นเดียว เพื่อให้เกิดความเรียบง่ายที่สุดในองค์ประกอบทิศทางของแสงและเงา ALL NEW MAZDA 3 ยังคงมาด้วยรูปลักษณ์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวกับแพลตฟอร์ม SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE มีการนำเอาท่วงท่าการเดินตามธรรมชาติของมนุษย์มาเป็นต้นแบบในการพัฒนา และนอกจากนี้ยัง ติดตั้งไฟหน้า Projector Lens แบบ LED พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ LED และไฟท้าย LED ระบบไฟหน้าเปิด-ปิดและปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ, กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าและพับอัตโนมัติ พร้อมด้วยระบบปรับมุมต่ำอัตโนมัติเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor ปลายท่อโครเมียมคู่แบบสปอร์ต สปอยเลอร์หลัง (ตัวถัง Hatchback) ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว และ 18 นิ้ว ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/45 R18
Dimension มิติตัวถัง
All New Mazda 3 (Sedan)
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,662 x 1,797 x 1,445 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,725 มิลลิเมตร
All New Mazda 3 (Hatchback)
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,459 x 1,797 x 1,440 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,725 มิลลิเมตร
Mazda 3 รุ่นปัจจุบัน (Sedan)
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,589 x 1,797 x 1,440 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,700 มิลลิเมตร
Mazda 3 รุ่นปัจจุบัน (Hatchback)
- ยาว x กว้าง x สูง : 4,470 x 1,797 x 1,440 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,700 มิลลิเมตร
เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม พบว่า รุ่น Hatchback สั้นลง 10 มิลลิเมตร รุ่น Sedan ยาวขึ้น 73 มิลลิเมตร เตี้ยลง 5 มิลลิเมตร ความกว้างเท่าเดิม ส่วนระยะฐานล้อยาวขึ้น 25 มิลลิเมตร
ภายในห้องโดยสารของ ALL NEW MAZDA 3 ดูหรูหราแบบผิดหูผิดตาด้วยวัสดุเกรดพรีเมียมคุณภาพสูง เบาะดีไซน์ใหม่ที่โอบกระชับสรีระได้ดีนั่งสบายลดความเมื่อยล้าจากการขับขี่ได้เยอะทีเดียวครับ ฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทางด้วยนะจ๊ะมีระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ได้ 2 ตำแหน่ง แต่น่าเสียดายฝั่งคนนั่งไม่ไฟฟ้าครับ ส่วนแผงหน้าปัดและมาตรวัดเป็นแบบดิจิตอล TFT LCD มีหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี ระบบการเชื่อมต่อ Mazda Connect ที่มาพร้อม Apple CarPlay แสดงข้อมูลผ่านหน้าจอ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว และระบบเสียงรอบทิศทางจาก Bose พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่งในรุ่นท็อป แอร์อัตโนมัติสามารถแยกอุณภูมิซ้าย-ขาว ได้ แต่ช่องแอร์หน้าฝั่งผู้โดยสารอยู่ต่ำไปนิด อีกอย่างช่องเสียบUSBน้อยไปนิด และจะดีมากถ้าใส่ wireless charger มาให้แบบคู่แข่ง
เอาละเรามาเริ่มขับทดสอบกันเลยดีกว่าความคล่องตัวของ ALL NEW MAZDA 3 ทำได้ดีครับขับง่ายดีลัดเลาะตามช่องว่างสบายหายห่วง เครื่องยนต์เดิม !! ซึ่งมีเครื่องขนาดเดียวเท่านั้นทั้ง 2 ตัวถัง คือ เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 2.0 ลิตร 1,998 ซีซี. DOHC แบบ 4 สูบ Dual S-VT Electronic Direct Injection กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ SKYACTIV รองรับน้ำมันสูงสุด E85 มาสด้าใช้เครื่องยนต์เดิมจริงครับแต่มีการปรับจูน ปรับขนาดของลูกสูบใหม่ และใช้วาล์วควบคุมน้ำหล่อเย็นทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น
อัตราเร่งดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า ออกตัวยังคงมีอาการหน่วงเล็กๆอยู่ ช่วงกลางและปลายก็ยังลื่นไหลและต่อเนื่องขับสนุกดีครับ การเร่งแซงไม่มีปัญหาสบายหายห่วง แต่ถ้าต้องการเร่งแซงแบบกระชั้นชิด หรือแซงทางขึ้นเนินต้องคลิ๊กดาวน์ช่วย หรือไม่ก็ใช้Paddle Shift ช่วยก็เท่านั้น ผมว่าเครื่องยนต์มีกำลังเหลือเฟือ แรงทีเดียว แต่เวลากดคันเร่งฟิลลิ่งมันมาแบบไหลไปเรื่อยๆไม่จี๊ดจาดเท่าไหร่ ถ้าอยากได้เครื่องยนต์ขับสนุกจี๊ดจ๊าดผมว่าต้องไปจัดฮอนด้าซีวิคครับ แต่ถ้าอยากได้ฟิลลิ่งแบบกดคันเร่งลงไปความเร็วเพิ่มขึ้นแบบเนียนๆไหลลื่นอย่างต่อเนื่องต้อง ALL NEW MAZDA 3 ตอบโจทย์แน่นอน ที่ผมเสียดายดันเป็นเครื่องบล็อกเดิมนี่ถ้ามาเป็นเครื่อง SKYACYIV-X นะคู่แข่งมีหนาวแน่นอน
อีกอย่างที่บอกว่า ALL NEW MAZDA 3 ขับสนุกและดูจะเหนือกว่าคู่แข่งนั้นก็ขึ้นระบบช่วงล่างครับที่มีการปรับเปลี่ยน ช่วงล่างด้านหน้า McPherson Strut และช่วงล่างด้านหลังที่เปลี่ยนจากแบบ Multi-link เป็น Torsion Beam ซึ่งหลายคนมองว่ามันเป็นการกลับไปใช้เทคโนโลยีโบราณหรือเปล่า แต่จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องของการลดน้ำหนัก เพราะเมื่อเปลี่ยนมาใช้ช่วงล่างแบบ Torsion Beam มันสามารถลดน้ำหนักของตัวรถได้มากถึง 10 กิโลกรัม แถมเจ้าช่วงล่างแบบ Torsion Beam เจนเนอเรชั่นใหม่ชุดนี้ให้การตอบสนองในการขับขี่ได้ดีกว่ามีความเสรียรภาพของการทรงตัวที่ดีขึ้น ที่สำคัญบำรุงรักษาง่ายและถูกกว่า Multi-link วิ่งด้วยความเร็วทางตรงยาวๆรถนิ่งมากดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี อาจจะแข็งไปสำหรับใครบางคน แต่ถ้าเป็นผม ผมว่ามันโอเครเลยทีเดียว วิ่งเข้าโค้งด้วยความเร็วยังคงให้ความมั่นใจนิ่ง หนึบ แน่น และควบคุมง่าย ตัวรถไม่มีอาการโคลงให้ได้สัมผัส เพราะมี G-Vectoring Control Plus (gvc plus) ช่วยอีกแรง ยอมรับครับTorsion Beam เจนเนอเรชั่นใหม่ของพี่เค้าเจ๋งจริง พวงมาลัยก็ควบคุมง่ายได้ดังใจน้ำหนักกำลังดี
เทคโนโลยีความปลอดภัยอย่างที่บอกจัดหนักจัดเต็ม All New Mazda3 มาพร้อมกับระบบเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย i-ACTIVSENSE ที่เน้นการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุประกอบด้วย
- ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support) ที่สามารถควบคุมความเร็วของรถ ช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance หรือ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support) ที่สามารถตรวจจับรถคันหน้า จักรยาน รวมถึงคนเดินถนน
- ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Reverse Crossing)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake Support-Reverse) ที่สามารถตรวจจับวัตถุในวงกว้างและสูงขึ้น ด้วยจำนวนเซ็นเซอร์ที่มากขึ้น
- ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps) ที่ได้รับการพัฒนาให้ลำแสงละเอียดยิ่งขึ้น
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
- ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane Keep Assist System)
- ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
- ระบบเตือนเมื่อเกิดความอ่อนล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ รวม 7 ตำแหน่ง
มาดูตารางเทียบระหว่าง ALL NEW MAZDA 3 กับคู่แข่งคนสำคัญอย่าง ALL NEW TOYOTA ALTIS กันดีกว่าว่ามันมีอะไรต่างกันบ้างสำหรับออฟชั่นที่ให้มาALL NEW MAZDA 3 วางราคาจำหน่าย ทั้งรุ่นฟาสท์แบค 5 ประตู หรือ แฮทช์แบ็ก และซีดาน 4 ประตู จำหน่ายในราคาเดียวกัน เรามาดูกันว่ามันแพงกว่ารุ่นเก่าเท่าไหร่ และเมื่อเทียบกับ ALL NEW TOYOTA ALTIS มันถูกและแพงกว่ากันเท่าไหร่
สรุปครับ ALL NEW MAZDA 3 คันนี้การออกแบบดีไซน์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แตกต่างไม่เหมือนใคร ดูหรูหรา สวยงาม โดนใจ ทั้งภายนอกและภายใน เครื่องยนต์แม้จะเป็นบล็อกเดิมแต่ก็มีการปรับเปลี่ยนให้วิ่งดีขึ้น ประหยัดน้ำมันมากขึ้น ระบบช่วงล่าง แน่น หนึบ ขับสนุก เข้าโค้งมันส์ บางคนอาจจะบอกว่ากระด้างไปแต่ผมว่ามันกำลังดี ไม่นุ่มนิ่มเหมือนคู่แข่ง กับราคาเริ่มต้นที่ 969,000 – 1,198,000 บาท มันน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวครับคุ้มค่าเงินที่เสียไปแน่นอน
เรื่อง : ณัฐพล เดชสิงห์
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th