Mazda Sales (Thailand) เปิดตัวรถรุ่นยอดนิยมที่สุดอย่าง All-New mazda 3 ที่มาในครั้งมาพร้อมกับระบบและการออกแบบที่มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับแนวคิด “A New Era Begins” ทำให้มีการออกแบบให้ดูดีขึ้นเพิ่มสปอร์ตรอบคัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Less is More” เน้นความเรียบง่ายดูดีมีระดับพร้อมรับกับทุกสายตา สำหรับบทความนี้จะมาสรุปประเด็นสำคัญในรถยนต์ All-New Mazda 3 มาให้เข้าใจกันแบบละเอียด

แนวคิดในการสร้างสำหรับ All-New Mazda 3

สำหรับแนวคิดในการออกแบบดีไซน์ All-New Mazda 3 ได้ยึดหลักปรัชญามนุษย์เป็นศูนย์กลาง โดยได้นำเอาท่วงท่าเดินที่เป็นธรรมชาติของมนุษย์มาเป็นต้นแบบในการพัฒนา เกิดเป็นรถยนต์ที่สามารถขับขี่ได้อย่างอิสระและแม่นยำ ดูดีในทุกสถานการณ์ ทำให้รถที่ออกมาช่วงหลัง ๆ นี้จะมีรูปแบบที่ทันสมัย ดูโฉบเฉี่ยว ทั้งภายในและภายนอกไม่ว่าจะไปไหนก็จะดูดีเป็นอย่างมากราวกับได้ขับรถสปอร์ตราคาหลายล้าน ทำให้ All-New Mazda 3 เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งของมาสด้าประเทศไทย ที่ทำให้ตลาด C-Segment ยกระดับขึ้นมาอีกขั้น โดยให้ความสำคัญกับมนุษย์เป็นอันแรก ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้คนบนท้องถนน

Design ทั้งหมดใน All-New Mazda 3

สำหรับการดีไซน์ทั้งหมดในรถ All-New Mazda 3 นั่นใช้หลักการ KODO design ที่ถูกพัฒนาขึ้นไปอีกขึ้นโดยยึดหลักการ “Less is More” ที่เน้นเอาความเรียบง่าย เรียบหรูดูดีมีระดับ โดดเด่นสะดุดตา ทั้งภายในและภายนอก ด้วยเส้นสายและแสงเงาจากธรรมชาติที่ตกกระทบลงบนตัวรถ ทำให้ไม่ว่าจะอยู่ในมุมมองไหนหรือสภาพอากาศเป็นอย่างไร All-New Mazda 3 จะยกระดับให้แก่ผู้ขับขี่ได้ดีที่สุด โดยในปีนี้ได้รับการดีไซน์ใหม่มีทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่รุ่น Sedan 4 ประตู และรุ่น Fastback 5 ประตู

โดยทั้งสองรุ่นจะให้อารมการขับขี่ที่แตกต่างกันแล้วแต่ความเหมาะสมของผู้ขับขี่เองว่าต้องการบุคลิกแบบไหนที่เหมาะสมกับตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น

• Sedan 4 ประตู เน้นความเรียบหรู ดูแพง เหมาะสำหรับบุคคลที่ต้องการภาพลักษณ์ในการทำงาน เสริมสร้างความเชื่อมั่น

ให้แก่ผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี

• Fastback 5 ประตู เน้นความเท่ ความสปอร์ต เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสไตล์แบบไม่ซ้ำใคร ทำให้ดูราวกับรถสปอร์ตแพง

ไม่ว่าจะขับขี่ไปไหนก็สามารถดึงดูดสายตาได้เป็นอย่างดี

การตกแต่งภายนอก

สำหรับการตกแต่งภายนอกนั้นทำออกมาได้น่าประทับใจด้วยไฟหน้าระบบ Projector LED สามารถปรับไฟหน้าสูง-ต่ำ อัตโนมัติ (Auto Leveling System) พร้อมระบบเปิด-ปิด อัตโนมัติและไฟท้ายเป็นแบบ LED ขนาดใหญ่เพิ่มความสว่างทำให้ดูมองเห็นได้ชัดทั้งกลางวันและกลางคืน กระจกมองข้างแบบไฟฟ้าสามารถปรับมุมมองได้โดยไม่ต้องออกจากตัวรถ และยังสามารถพับเข้าแบบอัตโนมัติพร้อมไฟเลี้ยวข้างเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเฉี่ยวชนในซอยหรือในพื้นที่แคบในขณะจอดรถ และที่ปัดน้ำฝนกระจกแบบอัตโนมัติ ทำงานแบบอัตโนมัติในช่วงเวลาที่มีฝนตก กระจังหน้าแบบรังผึ้งช่วยเพิ่มการระบายอากาศจากหม้อน้ำ ทำให้สามารถระบายอากาศได้ดีขึ้น และยังทำให้ดีไซน์ของรถนั่นดูดีมากยิ่งขึ้น

การตกแต่งภายใน

ในส่วนของการตกแต่งภายในได้มีการออกแบบให้ทุกรายละเอียดเป็นไปอย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้น โดยใช้มนุษย์เป็นศูนย์กลางของการจัดวางตำแหน่งภายในตัวรถทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเบาะดีไซน์ใหม่ที่รองรับกับสรีระร่างกายของมนุษย์ ทำให้ในกระดูกเชิงกรานตรงในแนวตั้งส่งผลให้กระดูกสันหลังคงรูปไว้เป็นรูปตัว S เหมือนขณะเดินอยู่ เพื่อให้สรีระของผู้ขับขี่และผู้โดยสารเป็นไปอย่างมีธรรมชาติ ช่วยลดความเมื่อยล้าจากการเดินทางได้ สำหรับผู้ขับขี่จะมีตัวเสริมขึ้นมาอีกนั่นก็คือระบบปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมกับตัวบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ได้ถึง 2 ตำแหน่ง

ต่อมามาดูเรื่องของการออกแบบคอนโซลกันบ้าง สำหรับในรุ่นนี้มีการออกแบบได้อย่างดูดีและทันสมัยขึ้นจากรุ่นก่อน ๆ เริ่มด้วยแผงหน้าปัดเรือนไมล์แบบดิจิตอล TFT LCD หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่อัจฉริยะแสดงสีบนกระจกหน้าช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถมองถนนได้ตลอดเวลา และเพิ่มความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อด้วย Mazda Connect ที่มาพร้อมกับ Apple Car Play ที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารเชื่อมต่อกับตัวรถได้ง่าย ๆ เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส และหน้าจอแสดงความบันเทิง Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center  Commander โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนนแถมมาด้วยกับลำโพงจากทางค่าย Bose รอบทิศทาง 12 ตำแหน่ง

ระบบความปลอดภัยสูงสุด

สำหรับระบบความปลอดภัยและระบบช่วยผู้ขับขี่มีมาพร้อมให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น CTS, Advanced SBS,  SBS-RC, SBS-R, ALH, ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ และที่สำคัญที่สุดสำหรับถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งรอบคันทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ว่ารถ Mazda 3 จะสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล

เครื่องยนต์สำหรับ All-New Mazda 3

มาดูในส่วนด้านพละกำลังกันบ้าง สำหรับมาสด้า 3 ได้มีการพัฒนาเครื่องยนต์ Skyactiv มาโดยตลอดซึ่งในปีนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.0 DOHC 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว พร้อมระบบแปรผันวาล์วคู่อัจฉริยะ Dual S-VT และระบบไอเสียอัจฉริยะ 4-2-1 และระบบ i-STOP ให้กำลังสูงสุดที่ 165 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 213 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ระบบเกียร์ Skyactiv-Drive อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมด้วยเกียร์แมนนวลโหมด Activematic

สำหรับราคาเปิดตัวในไทยมีให้มาให้เลือกทั้งหมดด้วยกัน 3 ราคาเหมือนกันทั้งรุ่น SEDAN (4 ประตู) และ FASTBACK 5 ประตู ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

• All-New Mazda 3 เครื่องยนต์ 2.0 รุ่น C ราคา 969,000.
• All-New Mazda 3 เครื่องยนต์ 2.0 รุ่น S ราคา 1,069,000.
• All-New Mazda 3 เครื่องยนต์ 2.0 รุ่น SP ราคา 1,198,

ทั้งนี้หากผู้ที่กำลังมองหาและสนใจใน All New mazda 3 ก็สามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน้าเว็บไซต์ หรือหากต้องการสัมผัสกับตัวจริงสามารถเข้าสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและขอทดลองขับได้ที่ โชว์รูมมาสด้าได้ทั่วประเทศ แต่ในส่วนของราคาและโปรโมชั่นทั้งหมดขึ้นอยู่กับแต่ละโชว์รูมใกล้บ้านท่าน สำหรับใครที่ต้องการ หรือมีความสนใจในรถรุ่นนี้ บทความนี้ก็สามารถเป็นตัวช่วยในการให้ข้อมูลได้ทางหนึ่ง

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th