All-New MAZDA CX-5 รีวิวทดสอบ รายงานผลก่อนขายจริงในไทยพฤศจิกายนนี้

หากพูดถึงรถที่นับได้ว่าสามารถกลับมาสร้างปรากฏการณ์และสีสันให้ตลาดรถเซ็กเมนต์ SUV ภายใต้ชื่อ Mazda ได้อีกครั้ง หลังจากที่เงียบหายไปนานกว่าสิบปี ตั้งแต่ยุค Mazda Tribute นั้น คงมีน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของ Mazda CX-5 รถ SUV ที่กลับมาพร้อมด้วยความโฉบเฉี่ยว ทันสมัย จากการออกแบบภายใต้คอนเซปต์ KODO Design และเทคโนโลยีในการพัฒนา SKYACTIV TECHNOLOGY ที่ผสมผสานออกมาได้อย่างลงตัว จนสามารถสร้างกระแสความนิยมได้อย่างโดดเด่น และก้าวขึ้นสู่กลุ่มผู้นำของตลาดรถยนต์เซ็กเมนต์นี้ในบ้านเราได้อย่างรวดเร็ว

Mazda CX-5 เจเนอเรชันแรกเปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2555 จากวันนั้นถึงวันนี้ก็เป็นระยะเวลาถึง 5 ปีแล้ว ที่ CX-5 โฉมแรกได้ออกมาโลดแล่นในโลกรถยนต์ แม้จะผ่านการไมเนอร์เชนจ์มาเพียงแค่ 1 ครั้งสำหรับในเมืองไทย แต่ก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการเติมสีสัน ความโฉบเฉี่ยว และสมรรถนะใหม่ๆ เข้ามา เพื่อที่จะได้แข่งขันกับเหล่าคู่แข่งในตลาดได้อย่างเข้มข้น ที่มีตั้งแต่เจ้าบัลลังก์ที่เหนียวแน่นอย่าง CR-V ยึดครองอยู่ และไหนจะผู้แข่งขันหน้าใหม่ที่ตามมาอีกมากมาย ทั้ง MG GS ไปจนถึง Subaru Forester ก็ยังเข้ามาทำตลาดกันอย่างคึกคัก ล้วนเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้เลือกรถคู่กายได้ถูกใจยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้เอง ภายหลังจาก All-New Mazda CX-5 เผยโฉมต่อสายตาสาธารณชนทั่วโลกไปไม่นาน มาสด้าในบ้านเราก็ไม่รอช้ากับภารกิจเตรียมตัวต้อนรับ All-New Mazda CX-5 กับการเปิดตัวครั้งแรกในเมืองไทย ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ แต่ก่อนจะถึงงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ มาสด้าก็พาคณะสื่อมวลชนบินข้ามประเทศไปยังประเทศมาเลเซีย ฐานการผลิตสำคัญของ All-New Mazda CX-5 เพื่อให้ได้สัมผัสสมรรถนะและความโฉบเฉี่ยวกันก่อนงานเปิดตัวที่จะถึง

ดีไซน์ใหม่ โฉบเฉี่ยว ตั้งแต่ภายนอกจดภายใน

All-New Mazda CX-5 ในรุ่นนี้นับเป็นเจเนอเรชันที่ 2 ของตระกูล CX-5 มาพร้อมความเปลี่ยนแปลงใหม่ ที่ผสมผสานความโฉบเฉี่ยวเข้ากับเทคโลยีใหม่ๆ ลงไปในรายละเอียดเพิ่มมากขึ้นจากรุ่นเดิม โดยเฉพาะรูปทรงภายนอกที่ยังคงสานต่อแนวคิดการออกแบบ KODO Design ให้ยกระดับขึ้นตามสโลแกนใหม่ Refined Toughness หรือความแข็งแกร่งอันประณีต ที่ก่อกำเนิดรูปลักษณ์ใหม่ที่โฉบเฉี่ยว ดูสปอร์ตเร้าใจยิ่งขึ้น พร้อมกับการตอบสนองไลฟ์สไตล์ของรถครอบครัวได้อย่างลงตัว ซึ่งดีไซน์ใหม่นี้จะเห็นได้อย่างชัดเจน จากการปรับให้จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลง ตลอดจนการปรับระยะห่างของล้อคู่หน้าและระยะห่างของล้อคู่หลังให้กว้างขึ้นถึง 10 มิลลิเมตร ทำให้สัดส่วนรูปทรงของ All-New Mazda CX-5 ดูมีมุมมองที่ทรงพลังมากยิ่งขึ้น อีกทั้งตัวเสา A ได้มีการปรับตำแหน่งให้ลาดเอียงไปทางด้านหลังเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 35 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ไปจนถึงเส้นแนวหลังคาที่มีความสูงโดยรวมลดต่ำลง ยิ่งช่วยเสริมมุมมองโดยรวมของตัวรถ All-New MazdaCX-5 ให้มีความสปอร์ต และความโฉบเฉี่ยวเพิ่มมากขึ้น มุมมองด้านหน้าดูเปลี่ยนไปจากการลาดเอียงที่เพิ่มมากขึ้นของเส้นแนวฝากระโปรง รับกันได้ดีกับชุดไฟหน้าใหม่แบบ LED ที่ให้ความสว่างในการใช้งานที่ดีไปพร้อมๆ กับความเก๋ไก๋ของแนวเส้นไฟเดย์ไลต์ชุดใหม่เข้ากันอย่างลงตัวกับตัวโคมไฟหน้าที่มีลักษณะแบบยาว ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น กระจังหน้าแบบใหม่แบบรังผึ้ง สามารถเพิ่มความดุให้กับมุมมองด้านหน้าได้ดีมากกว่าแบบเส้นแนวนอนแบบเดิมๆ ในส่วนของด้านท้ายนั้น จากระยะฐานล้อที่กว้างเพิ่มมากขึ้นนั้น ยังส่งผลให้ดีไซน์ตัวรถมีความกว้าง อวบ เพิ่มมากขึ้นไปในตัว จนทำให้มุมมองด้านท้ายดูมีเส้นสายที่บึกบึน ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับดีไซน์ที่สวยงามของชุดไฟท้ายเข้าด้วยแล้ว ยิ่งสามารถสะท้อนอารมณ์สปอร์ตให้กับเจ้า CX-5 ใหม่ ได้อย่างโดดเด่น พร้อมสีธีมเฉดใหม่ Soul Red Crystal ที่ดูแวววาวเพิ่มมากขึ้นจากสีแดงรุ่นเดิม อีกทั้งทางมาสด้ายังให้คอมเมนต์เอาไว้อีกว่า สีใหม่นี้จะยิ่งช่วยเพิ่มแรงดึงดูดใจได้ดีมากยิ่งขึ้น

ความรู้สึกแปลกใหม่ของ CX-5 ใหม่ นั้น พบได้ทั้งภายนอกและภายในรถ จากการออกแบบใหม่หมด ปรับดีไซน์ภายนอกให้มีความโฉบเฉี่ยวขึ้นดังที่ได้กล่าวมาในตอนต้นแล้ว ภายในก็ยังเป็นอีกจุดหนึ่งที่สามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจได้ไม่แพ้รูปโฉมด้านนอก ด้วยความสวยงาม สปอร์ต ผสมผสานความหรูหราเข้าไว้พร้อมๆ กัน ตั้งแต่ชุดแผงคอนโซลใหม่ ที่ปรับดีไซน์ให้ดูหรูหราและทันสมัยยิ่งขึ้น จากการใช้หนังเนื้อดีมาหุ้มตัวคอนโซลเอาไว้ รับกับเส้นด้ายสีเข้มที่เดินเย็บลงไปบนตัวหนังอย่างประณีต ตัดกับการตกแต่งเส้นสายด้วยอะลูมิเนียมกึ่งเงาได้อย่างเข้ากัน พร้อมการปรับย้ายชุดจอแสดงผลขึ้นมาไว้ที่ด้านบนของคอนโซล ให้มุมมองที่สะดวกชัดเจนในการใช้งานมากยิ่งขึ้น มาตรวัดใหม่แบบ 3 ช่อง ให้การใช้งานที่สะดวก มองง่าย และชัดเจนดี เข้าคู่กับพวงมาลัยทรงสปอร์ตแบบ 3 ก้าน ที่รวบรวมปุ่มควบคุมระบบมัลติฟังก์ชันเอาไว้ครบครันที่ตัวก้านของพวงมาลัย คอนโซลกลางยกตัวสูงขึ้นนิด ให้ความสะดวกในการใช้งานขึ้น มาพร้อมไฮไลต์เด่น ชุดช่องลมแอร์ของผู้โดยสารแถวหลังที่ซ่อนตัวอยู่หลังตัวคอนโซลกลาง เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานในบ้านเราได้ดีขึ้นกว่ารุ่นที่แล้ว แม้จะไม่สามารถปรับสปีดแรงลมได้ก็ตามที เบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มเติมความสะดวกให้กับผู้ใช้ได้มากขึ้น พร้อมกับความใส่ใจในผู้โดยสารตอนหลังที่เพิ่มเติมขึ้นมากับฟังก์ชันพนักพิงเบาะนั่งหลังที่สามารถปรับเอนได้ ช่วยเพิ่มความสบายในการเดินทางได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ CX-5 ใหม่ ยังมาพร้อมด้วยลูกเล่นที่เติมความสบายในการใช้งานในชีวิตประจำวันด้วยชุดฝาท้ายที่สามารถควบคุมการเปิด-ปิด ได้ด้วยระบบไฟฟ้า สามารถควบคุมการเปิด-ปิด ได้จากภายในรถหรือที่บริเวณฝาท้าย สะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคุณผู้หญิงตัวเล็กๆ สำหรับออปชันนี้

i-ACTIVSENSE เสริมทัพเรื่องความปลอดภัย

นอกจากเรื่องของความโฉบเฉี่ยวและความทันสมัยที่มีมาให้ใน CX-5 ใหม่แล้ว ในเรื่องของความปลอดภัยก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญที่ได้รับการจัดเต็มมาด้วยเช่นกัน i-ACTIVSENSE ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันของมาสด้า (Mazda Proactive Safety) ที่ได้รับการบรรจุเข้ามาใน CX-5 ใหม่ ตั้งแต่ระบบติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Mazda Radar Cruise Control- MRCC) ซึ่งจะปรับเปลี่ยนความเร็วเพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันข้างหน้าได้โดยอัตโนมัติ ช่วยลดภาระบางส่วนของผู้ขับขี่ในขณะเดินทางไกล เติมความปลอดภัย ความสบาย และความผ่อนคลายในการขับขี่เป็นเวลานาน จากการทำงานของชุดกล้องตรวจจับและระบบเรดาร์ทางด้านหน้าของตัวรถ ระบบเตือนการเปลี่ยนเลนโดยไม่ได้ตั้งใจ ไปจนถึงระบบป้องกันการลื่นไถล TCS ที่ยังคงได้รับการติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐาน

แม้หัวใจเดิม แต่เพิ่มเติมความสนุกเข้าไป

ในเรื่องของเครื่องยนต์ที่จะถูกบรรจุอยู่ใน CX-5 ใหม่ นั้น ในครั้งนี้เราได้ทดสอบกันถึง 2 รุ่น โดยแบ่งเป็นหนึ่งเครื่องยนต์เบนซินและหนึ่งเครื่องยนต์ดีเซล โดยทั้งสองรุ่นนั้นจะยังคงเป็นเครื่องยนต์บล็อกเดิมที่เคยบรรจุอยู่ใน CX-5 เจนฯที่แล้ว แต่ได้รับการปรับปรุงในรายละเอียดใหม่หลายอย่าง อย่างเช่น ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินนั้น ได้รับการปรับการตอบสนองของทั้งเครื่องยนต์และระบบเกียร์ให้มีการตอบสนองที่รวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถสร้างอัตราเร่งได้ดีจากเดิมขึ้นอีกเล็กน้อย ช่วยให้การขับขี่รู้สึกได้ถึงความกระฉับกระเฉง และมีอรรถรสเพิ่มมากขึ้น

ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลนั้น สิ่งแรกที่รู้สึกได้จากการทดสอบนั่นก็คือ เรื่องเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ที่ดูจะเงียบขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งส่วนสำคัญนั้นก็มาจากการพัฒนารายละเอียดภายในของตัวเครื่องเพิ่มเติมใหม่ อย่างการพัฒนาสลักลูกสูบใหม่ที่ช่วยดูดซับแรงสั่นสะเทือนและลดเสียงในการทำงานของเครื่องยนต์ SKYACTIV-D 2.2 ลิตร ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกับการพัฒนาโครงสร้างตัวถังใหม่ SKYACTIV-BODY พัฒนาความแข็งแรงของตัวถังให้สามารถทนต่อแรงบิดที่เพิ่มขึ้น 15.5% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า และการใช้เหล็กกล้าทนแรงดึงสูง ทำให้สามารถลดเสียงรบกวนลงได้ถึง 1.3 เดซิเบล เมื่อเดินทางบนเส้นทางที่มีพื้นผิวถนนขรุขระ นอกเหนือจากความเงียบที่ทำได้ดีมากขึ้นแล้ว ในเรื่องของการตอบสนอง CX-5 ใหม่ ยังให้อัตราเร่งที่น่าพอใจ ชุดเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด ที่ติดตัวมายังคงให้การทำงานที่รวดเร็วทันใจเฉกเช่นเดิม

นอกจากนี้ All-New Mazda CX-5 ยังได้รับการติดตั้งระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ (G-VECTORING CONTROL- GVC) เทคโนโลยีใหม่ระบบแรกในอนุกรม SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ของมาสด้ามาให้พร้อมแล้วในเจเนอเรชันนี้ โดยระบบจะคอยควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์ให้ตอบสนองอย่างลงตัวต่อการทำงานของพวงมาลัย ช่วยให้การขับขี่ผ่านเส้นทางที่คดเคี้ยวเป็นไปได้อย่างนุ่มนวลมากยิ่งขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ที่ได้รับทั้งต่อผู้ขับที่จะช่วยให้บังคับควบคุมรถได้ง่ายขึ้น พร้อมๆ กับเหล่าผู้โดยสาร ที่จะช่วยให้ตลอดการเดินทางผ่านเส้นทางที่คดเคี้ยวนั้นเป็นเรื่องที่สบายและผ่อนคลาย

ถ้าเปรียบเทียบระหว่าง CX-5 ในเจนฯแรกกับเจนฯที่สองนั้น จะเห็นได้ชัดถึงความโฉบเฉี่ยว ความทันสมัย ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยที่ได้รับการเติมเต็มเข้ามา ชนิดที่เรียกได้ว่าสามารถที่จะสร้างสีสันให้กับตลาดรถ SUV ในบ้านเราได้อย่างแน่นอน แต่นั่นก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภคที่กำลังตัดสินใจจะเลือกพาหนะคู่กายคันใหม่ ภายใต้ยุคของการแข่งขันที่ดุเดือดของตลาดรถยนต์แบบ SUV ในบ้านเรา แต่อีกส่วนประกอบสำคัญที่จะช่วยย้ำการตัดสินใจได้ไม่แพ้เรื่องของตัวรถและสมรรถนะนั้น เห็นทีจะหนีไม่พ้นเรื่องของราคาค่าตัวไปจนถึงโปรโมชันที่กำลังจะตามมาในเร็วๆ วันนี้ ว่าทางมาสด้าบ้านเรานั้นจะสามารถสร้างปรากฏการณ์กระแสตอบรับให้กับ All-New Mazda CX-5 กับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้