เจาะสเป็ก: All-New Mazda3 ‘ขอสร้างต้นแบบใหม่ของคอมแพ็กต์ซีดาน’
มาลองสำรวจกันว่า All-New Mazda3 คอมแพ็กต์ซีดานยอดนิยม ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย เมื่อวันพุธที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา พัฒนาก้าวล้ำไปขนาดไหนสำหรับการเป็นโมเดลแรกของรถยนต์มาสด้า ในเจเนอเรชั่นที่ 7 เพื่อก้าวสู่ความเป็น Mazda Premium
นับตั้งแต่ Mazda3 เจเนอเรชั่นแรกเปิดตัวขายอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2003 คอมแพ็กต์ซีดานรุ่นนี้นับเป็นโมเดลเชิงกลยุทธ์ระดับโลกที่ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ และธุรกิจของมาสด้า เติบโตเพิ่มขึ้นมียอดขายรวมทั่วโลกมากกว่า 6 ล้านคัน และส่งมอบความสุขในการขับขี่ของมาสด้า ให้กับลูกค้าทั่วโลก และสร้างความตระหนักถึงแบรนด์มาสด้า ในระดับสากล ในฐานะที่เป็นโมเดลหลักของกลุ่มผลิตภัณฑ์มาสด้า สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าล่าสุดในด้านวิศวกรรมยานยนต์ และการผลิตของมาสด้า ที่มีการดำเนินงานของโรงงานผลิตทั่วโลก
Design-การออกแบบ
All-New Mazda3 เป็นรูปแบบการผลิตครั้งแรกที่นำการออกแบบ Kodo รุ่นใหม่นี้มาใช้ผสานกับ “การเคลื่อนไหวที่เป็นหนึ่งเดียว” (One Motion) อย่างง่ายที่สุดในรูปแบบโดยรวม ทิศทางของแสง และเงาสะท้อนได้เคลื่อนที่ และสะท้อนไปบนตัวรถทำให้เกิดการแสดงออกที่มีความสำคัญ และน่าทึ่งกว่าการออกแบบของรถในรุ่นก่อนหน้า เป้าหมายอีกประการหนึ่งในการออกแบบ All-New Mazda3 คือการออกแบบรถยนต์แบบฟาสต์แบ็ก (Fastback) ให้มีอารมณ์สปอร์ตมากกว่าเดิมในขณะที่แบบซีดาน (Sedan) มีเป้าหมายที่จะนำเสนอสัดส่วนที่หรูหรามากขึ้น แม้จะใช้ชื่อรุ่น MAZDA3 ชื่อเดียวกัน แต่รูปแบบทั้งสองนั้นแสดงถึงบุคลิกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง[expander_maker id=”4″ more=”อ่านเพิ่มเติม” less=”Read less”]
ในการออกแบบรถฟาสต์แบ็ก และซีดานของ All-New Mazda3 ทีมพัฒนาได้มองถึงคุณค่า และบุคลิกลักษณะของแต่ละแบบอย่างถี่ถ้วน รถฟาสต์แบ็กนำเสนอรูปลักษณ์ที่ทรงพลัง และมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างไม่ละสายตา ซึ่งกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกของประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น ในทางตรงกันข้ามความสวยงาม สะอาดตา และทันสมัยของซีดานแสดงถึงความเป็นผู้ใหญ่ และความประณีต ผลที่ได้คือตัวถัง 2 แบบมีบุคลิกที่แตกต่างกัน
แนวคิดการออกแบบรถฟาสต์แบ็ก: หนักแน่นและเร้าใจ
แนวคิดการออกแบบสำหรับฟาสต์แบ็กมุ่งเน้นไปที่การสร้างรถที่ดูแข็งแกร่ง และมีเสน่ห์ดึงดูดซึ่งสื่อถึงการแสดงออกที่สดใหม่ของสไตล์ฟาสต์แบ็ก ด้านข้างของตัวถังใช้การสะท้อนแสงที่สร้างการแสดงออกถึงความมีชีวิตชีวาโดยไม่ต้องใช้แนวเส้นคาแรคเตอร์ตามตัวรถ เสาซีที่ดูทรงพลังช่วยสร้างการออกแบบด้านหลังอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งห้องโดยสารและตัวถังดูเป็นรถที่แข็งแกร่ง สิ่งนี้ส่งผลให้เกิดความมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างไม่ละสายตา สีเมทัลลิกเข้มของซิกเนเจอร์วิง (Signature wings) เน้นความเด่นของรถสปอร์ตสไตล์ฟาสท์แบคและแตกต่างจากรุ่นซีดาน
แนวคิดการออกแบบซีดาน: โฉบเฉี่ยว หรูหรา สง่างาม
ดีไซน์ที่สอดคล้องกับสไตล์ซีดานแบบดั้งเดิมโดยมีฝากระโปรงหน้า ห้องโดยสาร และกระโปรงท้ายเป็นองค์ประกอบสามอย่างที่ชัดเจน All-New Mazda3 ยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับองค์ประกอบเหล่านั้นและบรรลุความงามระดับใหม่ที่เหมาะกับแบรนด์มาสด้า แนวคิดการออกแบบสำหรับซีดาน “โฉบเฉี่ยว หรูหรา สง่างาม” ไหลลื่นจากด้านหน้าไปด้านหลังด้วยการเคลื่อนไหวที่เป็นหนึ่งเดียว ตัวถังนั้นนำเสนอสัดส่วนที่ทรงพลังด้วยรูปทรงที่นุ่มนวลและสง่างาม การใส่ใจในรายละเอียดในการเคลื่อนไหวของพื้นผิวที่ราบเรียบทำให้อากาศไหลลื่น องค์ประกอบทั้งหมดที่ด้านหน้า และด้านหลังใช้การวางแนวเค้าโครงแนวนอนที่เน้นลักษณะของท่าทางที่กว้าง และต่ำ ซิกเนเจอร์วิง (Signature wings) ชุบโครเมียมแสดงถึงคุณภาพที่เหมาะสมกับความหรูหราของการออกแบบซีดานใหม่นี้ ผลลัพธ์ที่ได้คือความสง่างาม
ความมุ่งมั่นเพื่องานที่ประณีตสร้างความงามให้แก่ All-New Mazda3
บุคลิกที่โดดเด่นของ All-New Mazda3 คือการปรับเปลี่ยนรูปแบบของพื้นผิวด้านข้างตัวถังที่โดดเด่นให้ดูเรียบง่าย เน้นแสงสะท้อนที่ออกจากพื้นผิว ด้วยการเพิ่มชั้นของความลึกให้กับธีมการออกแบบ การปรับเปลี่ยนรูปแบบของพื้นผิวจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร้รอยต่อ ขึ้นอยู่กับมุมมองหรือวิธีที่แสงกระทบบนพื้นผิว เพื่อให้ตระหนักถึงระดับของความแม่นยำ มาสด้าผนวกการวิเคราะห์ทางคอมพิวเตอร์ล่าสุดเข้ากับความรู้ที่สะสมมานานหลายปี พร้อมกับทีมงานของนักสร้างแบบจำลองที่มีความชำนาญ เพื่อขึ้นรูปทรงให้ได้พิถีพิถันตามที่ต้งอการ นักออกแบบต้องเข้ามาที่โรงงานหลายครั้ง เนื่องจากทำงานร่วมกับสมาชิกของฝ่ายผลิต เพื่อลดทอนความแตกต่างระหว่างตัวถังในอุดมคติ และสิ่งที่กำลังจะผลิตขึ้นจริง
ลักษณะเฉพาะที่โดดเด่นอีกประการหนึ่งคือ การออกแบบกระจังด้านหน้าให้อยู่ในระดับที่ต่ำลงซึ่งจะเพิ่มการไหลลื่นและความสวยงามให้กับสัดส่วนของรถมากขึ้น วิศวกรของมาสด้าได้คิดค้นวิธีที่ชาญฉลาดในการรวมฟังก์ชันต่างๆ ของชิ้นส่วนด้านหน้าเข้าด้วยกันและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พื้นที่สูงสุด ความก้าวหน้าเหล่านี้ช่วยให้ทีมพัฒนาสามารถออกแบบกระจังด้านหน้าให้อยู่ในระดับที่ต่ำลงมาก นอกจากนี้ขอบซุ้มล้อยังถูกพับเก็บจนสุด การสร้างรูปแบบใหม่นี้ช่วยให้ยางเต็มซุ้มล้อด้านนอก ลดช่องว่างระหว่างยางและซุ้มล้อเพื่อเน้นรูปลักษณ์ที่ทันสมัยของรถ
นักออกแบบ วิศวกร และฝ่ายผลิตของมาสด้าได้ร่วมมือกันทุกระดับ ในขณะที่พวกเค้าให้ความสำคัญกับความพยายามในการออกแบบ Kodo สำหรับ All-New Mazda3 พวกเขาประสบความสำเร็จในการแสดงออกถึงพลังที่มีรสนิยมอย่างสูงในการออกแบบ จากความพยายามในการร่วมมือที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
การออกแบบโคมไฟใหม่ที่เป็นสัญลักษณ์ของอนาคตของการออกแบบมาสด้า
All-New Mazda3 มาพร้อมการออกแบบโคมไฟใหม่ที่เสริมพัฒนาการของการออกแบบ Kodo เพื่อให้สอดคล้องกับธีม “เรียบง่ายแต่งดงาม” (Less is More) ในการออกแบบรูปทรงของโคมไฟใหม่ องค์ประกอบที่ไม่จำเป็นทั้งหมดถูกตัดออกเพื่อให้เหลือเพียงสาระสำคัญของโคมไฟเท่านั้น การลดองค์ประกอบของโคมไฟให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น เช่น แหล่งกำเนิดแสง เลนส์ และฐาน สร้างความรู้สึกสดชื่นในความงามที่สะอาดตา นักออกแบบมุ่งเน้นไปที่รูปทรงกลมสำหรับโคมไฟเพราะเน้นที่รูปลักษณ์และแกนหน้า-หลังของ All-New Mazda3 และให้ความรู้สึกสดชื่น การออกแบบที่ได้นั้นสะท้อนให้เห็นถึงการแสดงออกแบบพลศาสตร์ที่ทำให้แบรนด์มาสด้าแตกต่างยิ่งขึ้นไปอีก
ไฟหน้าของ ALL-NEW MAZDA3 ใช้รูปแบบแสงรูปวงแหวนที่เรียบง่ายตรงกลางเน้นโดยการส่องสว่างที่ส่วนด้านข้างเพื่อสร้างการแสดงออกที่ชัดเจนของเส้นและความลึก ไฟท้ายแบบผสมนั้นมีไฟสี่ดวงพร้อมการไล่ระดับแสงซึ่งสร้างลักษณะของการพุ่งไปทางด้านหน้า นอกจากนี้ การออกแบบสามมิติของเลนส์ด้านนอกของฟาสท์แบคทำให้ดูหนักแน่นในขณะที่ไฟสำหรับซีดานนั้นอยู่ใกล้กันมากขึ้นเพื่อถ่ายทอดความสง่างามและรูปลักษณ์ที่มั่นคง
สีของตัวถัง
นอกเหนือจากสีที่เป็นเอกลักษณ์ของมาสด้า 2 สีคือสีแดง Soul Red Crystal และเทา Machine Gray มีการเพิ่มสีเทา Polymetal Gray ที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ที่มีเฉพาะในรถฟาสต์แบ็ก สีภายนอกของรถ All-New Mazda3 ประกอบด้วยสีน้ำตาล Titanium Flash, สีขาว Snowflake White Pearl, สีเงิน Sonic Silver และสีดำ Jet Black ทำให้มีทั้งหมด 7 สี สำหรับรุ่นฟาสต์แบ็ก และ 6 สี สำหรับรุ่นซีดาน
Polymetal Gray นำเสนอการแสดงออกรูปแบบใหม่ที่มีคุณภาพระดับสูง
จากการพัฒนาขึ้นใหม่ให้เป็นสีพิเศษสำหรับ All-New Mazda3 ฟาสต์แบ็ก วิธีการที่เป็นนวัตกรรมในการผสมและกระจายเกล็ดอลูมิเนียมที่มีความสว่าง และเม็ดสีทึบหลอมรวมความรู้สึกแข็งของโลหะที่มีความเรียบมันวาวของพลาสติกเพื่อสร้างคุณภาพในรูปแบบใหม่ คุณภาพของโลหะถูกเน้นในที่แสงกระทบตัวถังและนี่เป็นการเน้นรูปแบบที่สวยงามของตัวถังและด้านข้างโดยเฉพาะ เมื่ออยู่ในที่ร่มสีจะมีลักษณะเหมือนของแข็งมันเงาแบบโพลีคาร์บอเนต การแสดงออกที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับแสงของสภาพแวดล้อม สีใหม่นี้เน้นรูปร่างที่น่าสนใจของฟาสท์แบค
ความสะดวกสบายภายในภายใต้หลักการอุดมคติ “เรียบง่ายแต่งดงาม”
เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของการเชื่อมต่อระหว่างรถยนต์กับคนขับ ทุกด้านของที่นั่งคนขับได้รับการจัดวางองค์ประกอบในแนวนอนแบบสมมาตรอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อให้คนขับได้อยู่ตรงกลาง ในเวลาเดียวกันทุกองค์ประกอบได้รับการออกแบบให้หันเข้าหาคนขับโดยตรงและช่วยเน้นแกนกลางที่เป็นศูนย์กลางของคนขับ ที่วิ่งจากด้านหน้าไปด้านหลัง นอกจากนี้การตกแต่งภายในยังรวมเอาอุดมคติ “เรียบง่ายแต่งดงาม” ที่เป็นกุญแจสำคัญในการออกแบบ Kodo ของ All-New Mazda3 ที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่ การรักษาองค์ประกอบทั้งหมดนอกเหนือจากที่นั่งคนขับให้เรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะช่วยขยายความโดดเด่นของบริเวณที่นั่งคนขับ สิ่งนี้สร้างสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบาย ซึ่งรถยนต์และผู้ขับมีส่วนร่วมตามธรรมชาติที่ทำให้ผู้ขับสามารถมุ่งเน้นไปที่การขับรถได้เป็นอย่างดี
พื้นที่คนขับที่ออกแบบเรียบง่ายกว่า และสวยงามมากขึ้น
ในการประยุกต์ใช้อุดมคติ “เรียบง่ายแต่งดงาม” ที่เหมือนกันกับการออกแบบภายนอกนั้น การตกแต่งภายในของ All-New Mazda3 มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งมอบการออกแบบที่เรียบง่ายและสวยงามยิ่งขึ้น พื้นที่คนขับมีการจัดวางแบบสมมาตรและการวางในแนวนอนเพื่อกำจัดองค์ประกอบที่ไม่จำเป็นออกไป การแสวงหาสาระสำคัญของพื้นที่ในอุดมคตินี้ทำให้เกิดความสะดวกสบายและคุณภาพที่ไม่เคยพบมาก่อน
พวงมาลัย หน้าปัดแบบ 3 มาตรวัด และช่องปรับลมระบายอากาศ สร้างความสมมาตรที่สมบูรณ์แบบในพื้นที่คนขับ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นที่การประยุกต์ใช้แนวคิด “จุดนำสายตา” ซึ่งใช้กับ Mazda3 รุ่นก่อนหน้า ก้านพวงมาลัยที่ตำแหน่งหกนาฬิกานั้นแคบลงและตั้งตรง ในขณะที่หน้าปัดด้านขวาและด้านซ้ายของมาตรวัดนั้นทำมุมหันเข้าด้านในเพื่อให้หน้าจอตรงกับหน้าของคนขับ หน้าปัดตรงกลางนั้นทำมุมไปทางผู้ขับขี่และขอบที่เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสนั้นจะทำมุมไปทางจุดนำสายตา
แทนที่จะปรับการออกแบบของสิ่งที่มีขนาดใหญ่ เช่น การตกแต่งแผงประตู ส่วนประกอบแต่ละชิ้นในพื้นที่ผู้ขับได้รับการปรับปรุงเพื่อเพิ่มความรู้สึกผ่านประสาทสัมผัส แกนแรกคือตรงแกนกลางของผู้ขับขี่จากด้านหน้าไปด้านหลังผ่านโซนพื้นที่ผู้ขับขี่ แกนที่สองถูกนิยามโดยรูปแบบการจัดวางในแนวนอนจากด้านซ้ายไปด้านขวาจากแผงหน้าปัดไปจนถึงขอบประตูทั้งสองด้าน
การใช้หลักการ “เรียบง่ายแต่งดงาม” เพื่อให้ใช้งานง่ายขึ้น
หลังจากตั้งแกนหน้า-หลังและแกนซ้าย-ขวาให้แน่นอนแล้ว ภายในพื้นที่ผู้ขับขี่ ทีมพัฒนาได้สร้างเสริมองค์ประกอบอื่นๆ ทั้งหมดเพื่อทำให้เกิดรูปแบบที่เรียบง่าย และยังลดทอนองค์ประกอบอื่นๆ เพื่อให้ดูเรียบง่ายตามปรัชญา “เรียบง่ายแต่งดงาม” ตัวอย่างเช่นแผงควบคุมสภาพอากาศและช่องปรับอากาศด้านผู้โดยสารจะรวมอยู่ในแกนซ้ายขวาตามแกนซ้าย-ขวาของแผงหน้าปัด ผลลัพธ์นี้เป็นการออกแบบที่สะอาดตาและเรียบหรู การออกแบบใหม่นี้ยังวางตำแหน่งปุ่มควบคุมให้สูงขึ้นซึ่งจะทำให้ผู้ขับขี่ใช้งานได้ง่ายขึ้น สิ่งนี้เป็นการออกแบบที่ซับซ้อนแต่ก่อให้เกิดทั้งความงามและความสะดวกในการใช้งานของ All-New Mazda3
ลวดลายใหม่ที่ให้ความรู้สึกถึงหนังแท้
ชิ้นส่วนภายในใช้ลวดลายที่มาสด้าพัฒนาขึ้นเองเพื่อให้รับรู้ถึงความรู้สึก และความอบอุ่นที่คล้ายกับหนังแท้ ลวดลายที่ใช้ก่อนหน้านี้มีรูปแบบสม่ำเสมอแต่บางครั้งลวดลายนี้ให้ความรู้สึกที่ไม่เป็นธรรมชาติ เพื่อแก้ไขปัญหานี้และสร้างลวดลายที่แตกต่างกันซึ่งพบได้ในหนังแท้จากธรรมชาติ มาสด้าจึงสร้างลายที่มีความลึกและมีรูปแบบที่แตกต่างกันของ “ลวดลาย” ที่คล้ายกับหนังแท้ โดยช่างฝีมือของญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยทักษะและความเชี่ยวชาญ มาสด้าได้พัฒนารูปแบบลวดลายใหม่ที่ทำให้การตกแต่งภายในดูมีชีวิตชีวา
แผงคันเกียร์ 2 ชั้นใหม่ทำให้เกิดแสงสะท้อนสวยงาม
ผิวคล้ายแลคเกอร์สีดำมันวาวของแผงคันเกียร์ใน All-New Mazda3 มีความโปร่งใส ดูมีมิติ เน้นลวดลายที่สะท้อนจากแผงคันเกียร์ด้านล่างเมื่อถูกไฟส่อง รูปแบบใหม่นี้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่เรียกว่า “การขึ้นรูปสองชั้น” แสงที่ส่องผ่านจะถูกลดทอนโดยแผงสีใสที่อยู่ด้านบน ด้านล่างวางแผงโลหะสีดำที่มีลวดลายพื้นผิวแกะสลักเลเซอร์ซึ่งจะสะท้อนลวดลายแกะสลักออกมาเมื่อมีแสงตกกระทบ ชั้นเหล่านี้ผสานรวมกับรายละเอียดเล็กๆ ของแผงโลหะสีดำสลักเลเซอร์และดูโปร่งใสมีมิติ แผงคันเกียร์ที่มีแสงตกกระทบสร้างการเปลี่ยนแปลงของดีไซน์หลากหลายอารมณ์คล้ายกับรูปร่างของพิ้นผิวตัวถัง สิ่งนี้จะช่วยยกระดับให้แผงคันเกียร์ของ All-New Mazda3 มีลักษณะสปอร์ตตามธรรมชาติ คุณภาพสูง และให้ความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของ
สีภายใน
การตกแต่งภายในสำหรับทั้งฟาสต์แบ็ก และซีดานมีให้เลือกเป็นหนังสีดำ การเพิ่มส่วนกระโปรงท้ายลงในรถแบบฟาสต์แบ็ก และเรียกว่ารถซีดาน อาจดูเหมาะสมหากให้ความสำคัญกับแค่รูปแบบเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมด อย่างไรก็ตามวิธีการง่ายๆ แบบนี้ไม่ใช่วิธีที่มาสด้าต้องการพัฒนา All-New Mazda3 แต่มาสด้า ถือว่าสิ่งสำคัญมากกว่าที่จะสร้างการออกแบบสำหรับรุ่นฟาสต์แบ็ก และซีดาน จะต้องสอดคล้องกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม
สำหรับฟาสต์แบ็ก ทีมออกแบบพยายามสร้างมนต์เสน่ห์ที่น่าดึงดูดใจและยาวนานซึ่งกระตุ้นให้เกิดประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น ในทางตรงกันข้ามการออกแบบซีดานจะเน้นความสง่างามและความประณีตสำหรับเจ้าของรถผู้ที่ชื่นชอบความรู้สึกภูมิฐานและคุณภาพที่พิถีพิถัน จุดมุ่งหมายของการเสนอบุคลิกที่แตกต่างกันทั้งสองนี้ คือการทำให้ลูกค้าสามารถสะท้อนภาพลักษณ์ตัวตนในอุดมคติของพวกเขา และกระตุ้นให้พวกเขามีความสุขกับการขับขี่ All-New Mazda3 ในชีวิตประจำวัน
พื้นที่ภายใน
การออกแบบที่ยึดหลักมนุษย์เป็นศูนย์กลางช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และผ่อนคลาย โดยบริเวณที่นั่งคนขับและห้องโดยสารได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ตามหลักปรัชญาที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลางของมาสด้า มีเป้าหมายหนึ่งคือเพื่อให้ผู้ขับขี่ทุกคนได้รับความมั่นใจในการใช้งานซึ่งช่วยให้มีสมาธิในการขับขี่ อีกประการหนึ่งคือการใช้เวลาในการเดินทางอย่างสะดวกสบายและสนุกกับการขับขี่ มาสด้าใช้ความรู้และเทคโนโลยีล่าสุดที่มีในการออกแบบตำแหน่งการขับขี่ ทัศนะวิสัย การเชื่อมต่อระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักร (HMI) และคุณภาพเสียง สิ่งเหล่านี้ได้รับการปรับปรุงเพื่อยกระดับคุณภาพและความพึงพอใจ โดยมอบความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติและใช้งานง่ายในการขับ All-New Mazda3 มอบความพึงพอใจกับประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นธรรมชาติสะดวกสบายและผ่อนคลายให้กับคนในรถทุกคนตั้งแต่การขับขี่ครั้งแรก และยังคงเป็นเช่นนั้นสม่ำเสมอในการขับขี่ทุกๆ ครั้ง
ตารางเปรียบเทียบข้อมูลจำเพาะที่สำคัญ
แบบ 5 ประตู | แบบ 4 ประตู | ||||
All-New MAZDA3 | MAZDA3 รุ่นก่อน | All-New MAZDA3 | MAZDA3 รุ่นก่อน | ||
ความยาวรวม | มม. | 4,460 | 4,470 | 4,660 | 4,580 |
ความกว้างรวม | มม. | 1,795 | 1,795 | 1,795 | 1,795 |
ความสูงรวม | มม. | 1,435 | 1,465 รวมเสาอากาศครีบฉลาม |
1,440 | 1,450 รวมเสาอากาศครีบฉลาม |
ระยะฐานล้อ | มม. | 2,725 | 2,700 | 2,725 | 2,700 |
ความกว้างช่วงล้อ (หน้า/หลัง) | มม. | 1,570/1,580 | 1,555/1,560 | 1,570/1,580 | 1,555/1,560 |
ระยะต่ำสุดจากพื้น (พร้อมคนขับ 75 กก.) |
มม. | 135 | 155 | 135 | 155 |
ตำแหน่งการขับขี่ที่ออกแบบมาเพื่อความรู้สึกในการขับขี่ที่เป็นธรรมชาติ
มาสด้า พิจารณาตำแหน่งการขับขี่ที่ถูกต้องเป็นพื้นฐานเพื่อความง่ายดายในการควบคุมรถ ด้วยเหตุนี้ วิศวกรได้พัฒนาโดยมุ่งเน้นไปที่การออกแบบเบาะนั่งเพื่อรองรับกระดูกเชิงกรานอย่างมั่นคง เช่นเดียวกับตำแหน่งแป้นเหยียบ การปรับเบาะนั่ง และการบังคับพวงมาลัย ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่สามารถรักษาท่านั่งที่เป็นธรรมชาติได้ การพัฒนา All-New Mazda3 ตามปรัชญานี้ได้สร้างสภาพแวดล้อมให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างที่ต้องการ ในขณะที่มีสมาธิกับการขับขี่และช่วยลดความเมื่อยล้าหากต้องขับขี่เป็นระยะเวลานาน
การปรับรูปแบบคอนโซลกลาง
ที่วางแก้วน้ำของ All-New Mazda3 อยู่ในตำแหน่งด้านหน้าของคันเกียร์ ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander และคันเกียร์ก็ถูกเลื่อนไปข้างหน้าเช่นกัน ทำให้สามารถใช้งานแขนด้วยท่าทางที่เป็นธรรมชาติมากขึ้นและช่วยให้ผู้ขับขี่ที่มีรูปร่างเล็กสามารถใช้งานแผงควบคุมการสั่งการได้ง่ายเมื่อเลื่อนที่นั่งไปด้านหน้า ตำแหน่งใหม่ของที่วางแก้วอยู่ในทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ สิ่งนี้ทำให้สามารถเอื้อมหยิบเครื่องดื่มได้อย่างสะดวกสบายขณะสายตามองไปบนถนน ทำให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ขับขี่โดยขจัดสาเหตุของสิ่งรบกวนขณะขับรถ ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบพนักวางแขนที่ถูกขยายจนเกือบสองเท่าของความยาวใน Mazda3 รุ่นก่อนหน้า สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความเสถียรเมื่อใช้งานแผงควบคุมการสั่งการโดยผู้ขับขี่ที่มีรูปร่างใหญ่สามารถวางแขนบนพนักวางแขนได้อย่างสะดวกสบาย ความสูงที่เสมอกันของพนักวางแขนตรงกลางกับพนักวางแขนตรงข้างประตูนั้นช่วยให้รู้สึกสบายยิ่งขึ้น
ส่วนเชื่อมต่อระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักรของมาสด้าทำให้ใช้งานง่ายขึ้น
เมื่อผู้ขับขี่ต้องค้นหาเพื่อทำความเข้าใจความหมายของการแสดงข้อมูล หรือวิธีการควบคุมการใช้งานนั้นจะดึงความสนใจออกจากถนน ก่อให้เกิดรูปแบบของความไม่ตั้งใจที่มาสด้าเรียกว่า “การรบกวนความเข้าใจ” เพื่อลดความถี่ของการรบกวนความเข้าใจดังกล่าว All-New Mazda3 ใช้การเชื่อมต่อระหว่างมนุษย์กับอุปกรณ์ในรถมาสด้าแบบใหม่ล่าสุด ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าใจข้อมูลและควบคุมรถได้ง่ายขึ้น ข้อมูลทั้งหมดถูกแสดงผ่านแผงมาตรวัด หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถ หน้าจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว และเสียงเตือนที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อจุดประสงค์นี้โดยเฉพาะ
แผงมาตรวัด TFT LCD ขนาด 7 นิ้ว
จอแสดงผลแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้วอยู่ตรงกลางของแผงมาตรวัดใน All-New Mazda3 แสดงข้อมูลที่หลากหลายในรูปแบบที่ชัดเจนและเรียบง่ายเพื่อความสะดวกในการจดจำทันที ซึ่งถูกวางในแนวตั้งเดียวกับจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า ดังนั้นผู้ขับขี่เพียงแค่เพิ่ม-ลดระดับสายตาในแนวตั้ง เมื่อใช้งานร่วมกับแผงมาตรวัดที่สมมาตรในแนวนอนสิ่งนี้จะสร้างความประทับใจในการเชื่อมต่อระหว่างรถยนต์กับผู้ขับขี่ เพิ่มความมั่นใจในการขับ รู้สึกผ่อนคลาย และมีสมาธิในขณะขับรถ
ข้อมูลมีความสำคัญต่อความปลอดภัยในการขับขี่ที่มีการเปลี่ยนแปลงทุกช่วงเวลา ถูกจัดให้แสดงข้อมูลบริเวณตรงกลางด้านบนของหน้าจอเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถรับรู้ข้อมูลได้ทันที
คำเตือน และตัวบ่งชี้ที่เป็นตัวอักษรจะถูกแสดงที่ส่วนกลางของหน้าจอเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ตระหนักถึงสิ่งผิดปกติได้อย่างรวดเร็วและดำเนินการตามความเหมาะสม การเปลี่ยนเป็นหน้าจอ TFT LCD ทำให้ไม่จำเป็นต้องแสดงทั้งกิโลเมตรต่อชั่วโมงและไมล์ต่อชั่วโมงพร้อมกัน ซึ่งทำให้การแสดงผลดูสบายตายิ่งขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือรูปลักษณ์ที่สวยงามยิ่งขึ้นพร้อมความสะดวกในการอ่านที่รวดเร็วขึ้น
การแสดงข้อมูลในแบบที่เรียบง่าย และหน้าจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว
หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถ มาตรวัด และหน้าจอ Center Display ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดเพื่อนำเสนอข้อมูลในแบบที่เรียบง่าย ในขณะที่แบบอักษรที่ใช้เป็นแบบเดียวกันเพื่อให้เกิดความสอดคล้อง การปรับปรุงอีกอย่างหนึ่งคือ หน้าจอสี Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ช่วยให้การสั่งการทำได้ง่ายขึ้น โดยใช้ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ พร้อมทั้งยังมีกราฟฟิกแสดงภาพการใช้งานในแต่ละเมนู
คำเตือนที่มีรูปลักษณ์แบบเดียวกัน
ฟังก์ชันคำเตือนทั้งหมดมีรูปสัญลักษณ์ที่เป็นหนึ่งเดียว ออกแบบมาเพื่อถ่ายทอดข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง และง่ายดาย All-New Mazda3 มีการแจ้งเตือนด้วยเสียงและการเตือนผ่านจอแสดงผลที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เสียงถูกใช้เพื่อเป็นการแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่รับรู้ถึงระดับความเร่งด่วนของสถานการณ์ ในขณะที่การเตือนผ่านจอแสดงผลอธิบายถึงสถานการณ์และวิธีการแก้ไขปัญหา สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เกิดความปลอดภัยในระหว่างการขับขี่มากยิ่งขึ้น
การแจ้งเตือนด้วยเสียงได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับลักษณะของมนุษย์ เนื้อหาการแจ้งเตือนได้ถูกกำหนดอย่างระมัดระวังเพื่อให้ทราบถึงระดับความเร่งด่วนของสถานการณ์ได้ทันที นอกจากนี้การแจ้งเตือนด้วยเสียงอาจดังมาจากลำโพงด้านหน้าหรือด้านหลัง เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าใจลักษณะของเสียงแจ้งเตือนเฉพาะได้อย่างง่ายดาย
มาตรวัดใช้ภาษาที่เรียบง่ายเพื่อให้เข้าใจง่าย มีจุดประสงค์ในการแนะนำผู้ขับขี่ในสิ่งที่ควรทำเพื่อการขับขี่อย่างปลอดภัย ในขณะเดียวกันหน้าจอ Center Display แสดงคำอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับระดับของปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อรถยนต์และวิธีการตอบสนองเพื่อนำรถกลับสู่การทำงานตามปกติ คำที่เรียบง่ายในชีวิตประจำวันถูกใช้เป็นคำอธิบายและข้อความที่แสดงมีความชัดเจนเพื่อให้ผู้ขับขี่เข้าใจง่าย มาตรการเหล่านี้ช่วยสนับสนุนผู้ขับขี่ได้มากขึ้น ช่วยให้เกิดความปลอดภัย และไร้ความกังวลในกรณีที่เกิดปัญหา
สวิตช์ที่ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานที่สุด
การวิจัยในหลักปรัชญามนุษย์เป็นศูนย์กลางของมาสด้า ถูกนำไปใช้แม้กระทั่งการศึกษาว่าผู้คนตอบสนองต่อความรู้สึกของการใช้งานสวิตช์ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ขับขี่จะประทับใจในประสิทธิภาพและพึงพอใจเช่นเดียวกับที่พวกเขาทำเมื่อรถตอบสนองต่อความตั้งใจของพวกเขาในขณะขับขี่ ผลการวิจัยของมาสด้าอีกประการหนึ่งแสดงให้เห็นว่า เมื่อผู้คนมีความพึงพอใจในคุณภาพที่ดี สิ่งที่แสดงออกแบบมาจะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน คือสามารถกระตุ้นความปรารถนาที่จะสัมผัสและใช้ผลิตภัณฑ์นั้นอีก
จากผลการวิจัยครั้งนี้ มาสด้าต้องการให้ความรู้สึกของการใช้งานสวิตช์ช่วยให้ลูกค้าสัมผัสได้ว่ารถคันนี้สามารถให้ความเพลิดเพลินในการขับขี่ เพื่อให้ความรู้สึกในการขับขี่เหมือนกับการใช้งานพวงมาลัยหรือควบคุมแป้นเหยียบ ระดับของการกดสวิตช์จะถูกปรับเพิ่มขึ้นครั้งละ 0.01 มม. แล้วตรวจสอบว่าความรู้สึกในการใช้งานสวิตช์เปลี่ยนไปอย่างไร แน่นอนว่าความพยายามขยายไปถึงการสร้างสวิตช์อย่างประณีต เพื่อมอบความรู้สึกเดียวกันโดยไม่คำนึงว่าสวิตช์นั้นจะถูกกด-ดึง-สลับ-หมุน
สวิตช์บนพวงมาลัย
ประเภทของสวิตช์บนพวงมาลัยใน All-New Mazda3 มีทั้งแบบสลับและแบบกด ด้วยความมุ่งมั่นที่จะให้ผู้ขับสามารถใช้งานโดยไม่ต้องละสายตาจากถนน มีการปรับระดับความสูงของสวิตช์เพื่อให้สามารถระบุได้ทันทีเมื่อสัมผัส All-New Mazda3 เชื่อมโยงทิศทางการทำงานของสวิตช์และฟังก์ชั่นเพื่อให้การใช้งานง่ายขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานสวิชต์ได้ทันที ซึ่งช่วยป้องกันความผิดพลาดจากการขับขี่ที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ หากต้องการละสายตาไปจากถนน
ทัศนวิสัย และมุมมองช่วยให้ผู้ขับขี่มีสมาธิในการขับขี่
การปรับปรุงทัศนวิสัยสำหรับ All-New Mazda3 นั้นมุ่งเน้นไปที่มุมมองที่ต่อเนื่องของวัตถุด้วยตาด้านซ้ายหรือด้านขวา เป้าหมายคือเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถรักษาท่าทางการขับขี่ที่เหมาะสมในขณะที่เคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อดูสิ่งที่พวกเขาต้องการ สิ่งนี้นำไปสู่การออกแบบรูปร่างของเสาเอ นอกจากนี้แนวเส้นที่พาดออกมาจากกรอบมาตรวัดไปสู่แผงประตูช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงระยะทางและความเร็วที่ชัดเจนซึ่งสัมพันธ์กับภายนอก การปรับปรุงการทำงานของที่ปัดน้ำฝนยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ในสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย
การลดจุดบอดจากทางซ้าย และขวาผ่านกระจกหน้ารถ
หากเสาเอมีขนาดใหญ่ จุดบอดที่เกิดขึ้นจะมีผลมากขึ้นกับวัตถุในระยะที่ห่างออกไป และในบางสถานการณ์อาจมองไม่เห็นคนเดินถนน ความหนาและรูปร่างของเสาเอสำหรับ All-New Mazda3 ได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสมเพื่อลดจุดบอด จากการวิจัยเกี่ยวกับคุณลักษณะของมนุษย์ รูปร่างของเสาเอแบบใหม่นี้ทำให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นวัตถุด้วยตาซ้ายหรือขวา และรักษามุมมองต่อเนื่องของวัตถุนั้นแม้ว่าการมองเห็นจะถูกกีดขวางชั่วขณะ ทุกรายละเอียดของรูปทรงเสาเอาได้รับการออกแบบอย่างถ้วนถี่ หลังจากทำการวิจัยระดับของการเคลื่อนไหวของคอและตาที่จะไม่ทำให้ผู้ขับขี่เหนื่อยล้า เป็นผลให้การออกแบบใหม่สามารถลดจุดบอดช่วงด้านหน้าของรถอย่างเห็นได้ชัด ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นคนเดินถนนหรือสิ่งกีดขวางทางด้านซ้ายหรือขวาอย่างต่อเนื่องขณะที่ยังคงท่าทางการขับขี่ที่เป็นธรรมชาติ
เพิ่มการรับรู้ระยะทางและความเร็ว
All-New Mazda3 นำการออกแบบบริเวณที่นั่งของคนขับ โดยคำนึงถึงจิตใต้สำนึกของผู้คนที่มีความสามารถในการกะระยะทางและความเร็วเมื่อเคลื่อนที่ผ่านพื้นที่ที่กำหนด ตัวอย่างเช่น แนวเส้นส่วนบนของขอบประตูและเส้นของแนวคอนโซลที่เสมือนเชื่อมต่อกับแนวเส้นแบ่งเลนถนนที่สามารถมองเห็นผ่านกระจกหน้า นอกจากนี้ แนวเส้นของกรอบมาตรวัดยังขยายไปถึงจุดที่แนวเส้นแบ่งเลนถนนบรรจบกัน การออกแบบโดยรวมช่วยให้ผู้ขับขี่กะระยะทางและคำนวณความเร็วสัมพัทธ์ได้ดียิ่งขึ้นและทำให้ All-New Mazda3 ขับขี่ง่ายขึ้น
การอัพเดทของ Mazda Connect-ระบบเชื่อมต่อรถยนต์ใช้งานง่ายกว่าเดิม
การใช้งานสมาร์ทโฟน อินเทอร์เน็ต และการเชื่อมต่อ ทำให้คนที่อยู่ในรถยนต์มีข้อมูลมากขึ้น Mazda Connect มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย และเติมพลังชีวิตด้วยประสบการณ์ใหม่ๆ การขับขี่หรือขับรถที่เชื่อมต่ออยู่นั้นเป็นไปได้ โดย Mazda Connect ใน All-New Mazda3 ทั้งหมดได้รับการออกแบบใหม่ตั้งแต่ต้นจนสามารถใช้งานได้ง่ายกว่าที่เคย ปรับปรุงประสิทธิภาพพื้นฐานการเชื่อมต่อระหว่างรถยนต์กับคนขับให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น
สมรรถนะของระบบถูกปรับปรุง
สมรรถนะทุกด้านของระบบได้รับการปรับปรุงอย่างมาก ระบบทำงานได้เร็วขึ้นด้วยพลังการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นและการปรับแต่งซอฟต์แวร์ให้ตอบสนองต่อคำสั่งของผู้ใช้ Mazda Connect ที่ได้รับการปรับปรังการเชื่อมต่อ พร้อมเชื่อมต่อได้ทันทีขณะที่ขึ้นรถ นอกจากนี้ยังใช้การส่งสัญญาณแบบดิจิทัลทั้งหมดเพื่อปรับปรุงระบบเสียง และคุณภาพของภาพเมื่อใช้กล้องด้านหลังและกล้องอื่นๆ
การเชื่อมต่อระหว่างรถยนต์กับคนขับอันล้ำหน้า
การจัดลำดับความสำคัญด้านความปลอดภัยขณะเดินทาง เป็นวิธีการพื้นฐานของมาสด้าในการพัฒนาการเชื่อมต่อระหว่างรถยนต์กับคนขับ คือ ลดการรบกวนและรักษาระดับความปลอดภัยแม้ว่าจำนวนข้อมูลในรถยนต์จะเพิ่มขึ้น สำหรับ All-New Mazda3 การเชื่อมต่อระหว่างรถยนต์กับคนขับผ่านระบบ Mazda Connect ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานระบบได้อย่างเป็นธรรมชาติสะดวกสบายและไม่กังวล
การใช้งานพื้นฐานโดยการเลื่อน (Scrolling) และการกดเพื่อเลือกนั้นสอดคล้องกันในเมนูต่างๆ – การหมุนปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander เพื่อเลื่อนดูเมนที่แสดงในแนวตั้งและกดเพื่อเลือก นอกจากนี้ การใช้หน้าจอแบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ทำให้สามารถแยกการใช้งานหน้าจอได้ สิ่งนี้ช่วยให้สามารถดูตัวอย่างข้อความหรือกราฟฟิกเสริมทางด้านขวาของการเลือกเมนูเพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้นของแต่ละตัวเลือก
ระบบเสียงชัดเจนสม่ำเสมอ
เป้าหมายการออกแบบสำหรับระบบเสียงของ All-New Mazda3 คือการส่งมอบเสียงคุณภาพสูงระดับเดียวกันไม่ว่าจะเปิดระดับเสียงเบาหรือดัง การวางตำแหน่งของลำโพงได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้เสียงที่ชัดเจนจากระดับเสียงที่ต่ำสุดที่มนุษย์สามารถได้ยินไปจนถึงระดับเสียงที่ดังสุด
การจัดวางตำแหน่งลำโพงขึ้นอยู่กับลักษณะของมนุษย์ และห้องโดยสาร จากการศึกษาวิจัยเรื่องเสียงภายห้องโดยสารของรถยนต์ แสดงให้เห็นว่าเสียงเบสนั้นถูกขยายและดังก้องในบางพื้นที่ในขณะที่มันกระจายไปและจางหายไปในที่อื่นๆ สิ่งนี้นำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยการวางลำโพงเบสในตำแหน่งที่ทำให้เสียงเบสถูกขยายได้ดีที่สุด การวิจัยยังแสดงให้เห็นว่าคุณภาพเสียงของเสียงกลางถึงเสียงสูงสามารถผิดเพี้ยนได้เมื่อเสียงจากลำโพงผสมกับเสียงสะท้อนในบางตำแหน่ง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ทีมพัฒนาจึงวางตำแหน่งและองศาของลำโพงซึ่งเสียงมีโอกาสน้อยที่จะได้รับผลกระทบจากเสียงสะท้อน การจัดวางตำแหน่งใหม่นี้ช่วยเพิ่มคุณภาพของเสียงที่ได้ยินภายในห้องโดยสาร
นอกจากนี้จากการศึกษาวิจัยพบว่ามนุษย์มีความสามารถในการรับรู้ทิศทางของแหล่งกำเนิดเสียงความถี่สูงได้ดีกว่า นี่คือเหตุผลที่ลำโพงเสียงสูงถูกติดตั้งที่ด้านซ้ายและขวาของห้องโดยสารบริเวณส่วนบนของขอบประตู การวางแหล่งกำเนิดเสียงที่ระดับความสูงใกล้กับหูของผู้โดยสารตระหนักถึงความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยให้ผู้ฟังสัมผัสได้ถึงความลึกและความชัดเจนของเสียงนั้น
ระบบเครื่องเสียงมาตรฐาน 8 ลำโพงและระบบเสียง BOSE รอบทิศทาง 12 ลำโพง
ระบบเครื่องเสียง 8 ลำโพงใช้การจัดวางแบบ 3 ทิศทาง (3-way layout) โดยมีวูฟเฟอร์ 3L วางอยู่ที่ด้านข้างของคอนโซลด้านหน้า ลำโพงเสียงสูง 2.5 ซม. ที่มุมสาเอ และลำโพงเสียงกลาง 8 ซม. ในส่วนบนของประตูหน้าและหลัง ระบบเสียง Bose 12 ลำโพง เพิ่มลำโพงกลาง 8 ซม.กลางคอนโซลหน้าด้านบน ลำโพงคู่หลังและซับวูฟเฟอร์ นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งเสียงได้เองเพื่อมอบเสียงเบสที่ทรงพลังและคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น
ความมั่นใจ ความสะดวกสบาย และความสุขในทุกสถานการณ์การขับขี่
พื้นที่บริเวณคนขับช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถรักษาท่าทางที่เป็นธรรมชาติ และสภาพแวดล้อมในห้องโดยสารที่มอบความสะดวกสบาย และคุณภาพ All-New Mazda3 ได้ถูกพัฒนาให้มีทั้ง 2 คุณค่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของมาสด้า กุญแจสำคัญในการตระหนักถึงความก้าวหน้าเหล่านี้คือ การรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสของมนุษย์และการตอบสนองต่อสิ่งอื่น และเพื่อพัฒนา All-New Mazda3 จากการศึกษาวิจัยอย่างเข้มข้นในมนุษย์ ความปรารถนาที่จะให้ลูกค้าแต่ละรายที่ได้ขับขี่ All-New Mazda3 เป็นครั้งแรก รู้สึกได้ถึงความสมบูรณ์แบบและความรู้สึกของการผ่อนคลายซึ่งเป็นเครื่องยืนยันการยกระดับมาตรฐานโดยใช้มนุษย์เป็นศูนย์กลางสำหรับการพัฒนา All-New Mazda3 จะช่วยให้ผู้ขับขี่แต่ละคนมีความมั่นใจในการขับขี่แม้จะเป็นมือใหม่ในการขับขี่ก็จะเพลิดเพลินไปกับการเดินทางโดยปราศจากความกังวลหรือความเครียดที่มากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการขับบนถนนในระยะสั้นหรือระยะยาวก็ตาม
สมรรถนะของการขับขี่
ความพึงพอใจในการขับขี่ของมาสด้าเจเนอเรชั่นใหม่ ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาด้วยการออกแบบตามหลักปรัชญามนุษย์เป็นศูนย์กลาง ประสบการณ์การขับขี่ Jinba-ittai ของมาสด้าต้องการให้รถทำงานได้อย่างสอดคล้องกับความตั้งใจของผู้ขับขี่โดยการเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจให้มากขึ้น ในการทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้มาสด้ายังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างรถยนต์ตามปรัชญาการออกแบบที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ความพยายามเหล่านี้รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยี Skyactiv เริ่มต้นด้วย All-New Mazda3 ได้มีการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาระดับการออกแบบที่เน้นมนุษย์เป็นหลัก เป้าหมายต่อเนื่องคือการตระหนักถึงสุดยอดของ Jinba-ittai โดยทำให้ผู้ขับขี่เพลิดเพลินไปกับความสุขในการขับขี่ด้วยการขับขี่ที่เป็นธรรมชาติราวกับเคลื่อนไหวร่างกายเองโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก
เทคโนโลยีใหม่เหล่านี้ถูกพัฒนาจากการศึกษาวิจัยในมนุษย์อย่างเข้มข้น ซึ่งนอกเหนือไปจากการมองลักษณะและการเคลื่อนไหวของร่างกายโดยตรวจสอบการตอบสนองทางอารมณ์ มาสด้าจึงมุ่งเน้นความพยายามในการเพิ่มความสามารถทางกายภาพโดยธรรมชาติและในขณะเดียวกันก็ค้นหาวิธีการที่จะทำให้ประสบการณ์การขับขี่ตรงกับการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสของมนุษย์ ด้วยการประสานการพัฒนาเทคโนโลยีทั้งหมดนี้ในฐานะที่เป็นองค์รวม มาสด้าให้ความสำคัญกับสมรรถนะเช่น พื้นฐานการเคลื่อนที่ของรถ – การเร่ง การเลี้ยวและการเบรค – ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติกับผู้ขับขี่
เครื่องยนต์ในรถมาสด้า3 เจเนอเรชั้นใหม่
เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 รุ่นใหม่ล่าสุดของมาสด้า ได้รับการพัฒนาให้ใช้วาล์วควบคุมน้ำหล่อเย็นที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และระบบการจ่ายน้ำมันแบบใหม่เพื่อประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่สูงขึ้น ทำให้มีอัตราการเร่ง ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ตารางข้อมูลเครื่องยนต์
ALL-NEW MAZDA3 | ||
เครื่องยนต์ | SKYACTIV-G 2.0
รุ่นใหม่ |
|
ปริมาตรกระบอกสูบ | (ซีซี) | 1,998 |
อัตราส่วนกำลังอัด | 13.0:1 | |
แรงม้าสูงสุด (EEC-NET) | PS (กิโลวัตต์)/รอบต่อนาที | 165 (121)/6,000 |
แรงบิดสูงสุด (EEC-NET) | นิวตัน-เมตร/รอบต่อนาที | 213/4,000 |
ประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง | E10 E20 and E85
(ออกเทน 95) |
|
ค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ | กรัม/กิโลเมตร | 149 |
อัตราการประหยัดน้ำมัน | กิโลเมตร/ลิตร | 15.9 |
สกายแอคทีฟแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นใหม่ (Skyactiv-Vehicle Architecture)
ทั้งการเดิน และวิ่งเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว แต่การกระทำเหล่านี้ไม่ทำให้ผู้คนรู้สึกเวียนศีรษะ เนื่องจากมนุษย์มีความสามารถในการควบคุมขา กระดูกเชิงกราน และกระดูกสันหลังในลักษณะที่ทำให้ร่างกายของพวกเขาเคลื่อนไหวได้อย่างสมดุลและเคลื่อนไหวศีรษะเพียงเล็กน้อย มาสด้าต้องการให้ผู้คนสามารถใช้วิถีตามธรรมชาตินี้ในรถได้เช่นกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ มาสด้าได้พัฒนาเบาะนั่งที่รองรับกระดูกเชิงกรานให้อยู่ในแนวตั้งตรงอย่างมั่นคง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถรักษาแนวกระดูกสันหลังเป็นรูปตัว S ตามธรรมชาติ รวมทั้งโครงสร้างตัวถังและช่วงล่างที่เปรียบเสมือนขาของผู้ขับ ในการส่งผ่านแรงกระทำจากถนนได้อย่างราบรื่นสู่กระดูกเชิงกราน ทุกแง่มุมของการออกแบบที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลางนี้ถูกดำเนินการเพื่อทำงานร่วมกันในภาพรวม เป้าหมายคือเพื่อให้มนุษย์อยู่ในตำแหน่งท่านั่งที่เป็นธรรมชาติและรู้สึกสบายขณะขับขี่ สกายแอคทีฟแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นใหม่ (Skyactiv-Vehicle Architecture)ตระหนักถึงความลงตัวของการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสของมนุษย์ในแง่ของความสะดวกสบายในการขับขี่ และการรักษาสมดุลโดยปราศจากความกังวลต่างๆ
เทคโนโลยีใหม่ของ SKYACTIV-Vehicle Dynamics
ระบบการควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ที่ถูกพัฒนาขึ้นถูกติดตั้งเฉพาะใน All-New Mazda3 ใช้เบรกเพื่อเพิ่มการควบคุมการหันเหของตัวรถ (Yaw Moment) เป็นการเพิ่มเสถียรภาพในการควบคุมรถ เมื่อผู้ขับขี่ขับรถออกจากโค้งโดยคืนพวงมาลัยกลับไปที่ตำแหน่งกึ่งกลาง GVC Plus เพิ่มแรงเบรกเพียงเล็กน้อยไปที่ล้อด้านนอก ทำให้เกิดเสถียรภาพซึ่งจะช่วยให้รถกลับมาวิ่งตรงเหมือนเดิมได้ง่ายขึ้น
ระบบสามารถรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของการหันเห (Yaw) การโคลงของตัวรถ (Roll) และการกระดกหน้า-หลัง (Pitch) แม้อยู่ภายใต้แรงเข้าสู่ศูนย์กลางที่มาก เป็นการเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวของรถจากการหมุนพวงมาลัยอย่างกระทันหัน และการออกจากโค้งที่แม่นยำ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวของรถในการหลบหลีกการชนปะทะแบบฉุกเฉิน GVC Plus และให้ความรู้สึกมั่นใจในการควบคุมรถเมื่อเปลี่ยนเลนบนทางหลวงและเมื่อขับบนหิมะหรือพื้นผิวถนนลื่นอื่นๆ
เงียบสงบ สะดวกสบาย ได้ยินเฉพาะเสียงที่สำคัญในขณะขับขี่
มาสด้า คำนึงถึงสมรรถนะในการลดเสียงรบกวน การสั่นสะเทือน และความกระด้าง (Noise, Vibration and Harshness, NVH) เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ขับขี่ปลอดภัยและสะดวกสบาย จึงมีการใช้มาตรการที่หลากหลายรวมถึงการศึกษาวิจัยในมนุษย์และการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างทุกชิ้นส่วน ในการพัฒนา All-New Mazda3 ความคิดนี้ถูกนำไปใช้ในทุกด้านของการออกแบบ ตัวอย่างเช่น ผู้โดยสารได้สัมผัสถึงความเงียบที่แยกออกจากโลกภายนอกเมื่อเข้าไปในห้องโดยสารและปิดประตู จากนั้นเมื่อขับรถจะได้ยินเฉพาะเสียงที่ต้องการได้ยินเท่านั้น ผลลัพธ์ที่ได้คือความเงียบในห้องโดยสารที่มากขึ้น
การศึกษาวิจัยในมนุษย์เพื่อแสวงหา “ความเงียบสงบระดับสูง”
มาสด้าได้นำผลการศึกษาวิจัยในมนุษย์มาใช้อย่างละเอียดถี่ถ้วนในการเน้นไปที่คุณลักษณะของเสียงสามอย่าง ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้โดยสาร สิ่งเหล่านี้คือ ความดังของเสียง การเปลี่ยนแปลงของระดับเสียงและคุณภาพเสียง และทิศทางที่เกิดเสียง
เป้าหมายของ All-New Mazda3 นั้นเหนือกว่ารุ่นก่อนหน้า เพื่อให้ห้องโดยสารเงียบขึ้นโดยควบคุมเสียงที่ได้ยินและกำจัดเสียงที่ไม่พึงประสงค์ ลดเสียงรบกวน และลดระดับเสียงขณะที่ความผันผวนและทิศทางเสียงถูกควบคุม จุดมุ่งหมายคือ การให้ “ความเงียบในระดับสูง” ที่เป็นที่พอใจของผู้โดยสารทุกคน
ความปลอดภัย
จุดประสงค์พื้นฐานของความปลอดภัยเชิงป้องกันของมาสด้า (Mazda Proactive Safety) คือการสร้างความมั่นใจในการขับขี่และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานให้กับผู้โดยสารทุกคน ตามปรัชญานี้ทีมพัฒนาได้ทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นพื้นฐานเช่น ตำแหน่งการขับขี่ รูปแบบแป้นคันเร่งและทัศนวิสัยที่ดี เทคโนโลยี i-Activsense ขั้นสูง รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงปกป้องที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้โดยสารในกรณีที่เกิดการชนเกิดขึ้น
มาสด้า พยายามอย่างต่อเนื่องที่จะพัฒนาระดับความปลอดภัยของรถยนต์ให้ดียิ่งขึ้น จุดมุ่งหมายคือ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับทุกคน ตั้งแต่คนขับรถมือใหม่ไปจนถึงผู้สูงอายุ และรวมถึงผู้โดยสารในที่นั่งด้านหลัง มาสด้ามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยอย่างต่อเนื่องเพราะระบบจะงานทีละขั้นเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุจากรถยนต์
ความปลอดภัยเชิงป้องกัน: i-Activsense
All-New Mazda3 แสดงถึงพัฒนาการในการบรรลุตำแหน่งการขับขี่ที่เหมาะสมและทัศนวิสัยที่ดี นอกจากนี้ยังแนะนำเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูงที่พัฒนาขึ้นใหม่คือ ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า (CTS) นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มสมรรถนะของเทคโนโลยีที่รองรับการป้องกันอุบัติเหตุรวมถึงการตรวจจับคนเดินเท้าและจักรยานยามวิกาลรวมถึงขยายขอบเขตการตรวจจับ พัฒนาการของเทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงป้องกันใน ALL-NEW MAZDA3 เริ่มเข้าใกล้เป้าหมายในอนาคตของมาสด้าไปอีกขั้น
มาสด้า ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี i-Activsense สำหรับ All-New Mazda3 ได้รับการคิดค้น และพัฒนาขีดความสามารถอย่างจริงจัง โดยเน้นการป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุประกอบด้วย
- ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS (Cruising & Traffic Support) ที่สามารถควบคุมความเร็วของรถ ช่วยลดความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance หรือ Advanced SBS (Advanced Smart Brake Support) ที่สามารถตรวจจับรถคันหน้า จักรยาน รวมถึงคนเดินถนน
- ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC (Smart Brake Support-Reverse Crossing)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R (Smart Brake Support-Reverse) ที่สามารถตรวจจับวัตถุในวงกว้างและสูงขึ้น ด้วยจำนวนเซ็นเซอร์ที่มากขึ้น
- ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps) ที่ได้รับการพัฒนาให้ลำแสงละเอียดยิ่งขึ้น
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring)
- ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane Keep Assist System)
- ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System)
- ระบบเตือนเมื่อเกิดความอ่อนล้าขณะขับขี่ DAA (Driver Attention Alert)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC (Mazda Radar Cruise Control)
- และปกป้องทันทีจากอุบัติเหตุด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ รวม 7 ตำแหน่ง
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: มาสด้า เซลล์ ประเทศไทย
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th[/expander_maker]