New MG3 ใหม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมลุยยุโรป
หลังจากปล่อยทีเซอร์ All-New MG3 รุ่นใหม่ออกมาก่อนหน้านี้ ตอนนี้รถแฮทช์แบ็กบี-เซ็กเมนต์รุ่นใหม่ถูกเปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการแล้วเพื่อเตรียมทำตลาดยุโรป หลังจากที่รุ่นก่อนหน้านี้มีขายเฉพาะในสหราชอาณาจักรเท่านั้น
All-New MG3 ใหม่ที่มาพร้อมกับดีไซน์เฉียบคมและกระจังหน้าขนาดใหญ่ตามสไตล์รถรุ่นใหม่ๆ จาก MG มาในขนาดตัวรถที่มีความยาว 4,113 มม. กว้าง 1,797 มม. สูง 1,502 มม. และมีระยะฐานล้อยาว 2,570 มม. ซึ่งมีความยาวและความกว้างมากกว่ารุ่นก่อนหน้า ในขณะที่สีภายนอกของรถที่ขายในยุโรปมีให้เลือกถึง 7 สีคือสีดำ Pebble Black, สีขาว Dover White, สีเงิน Cosmic Silver, สีเหลือง Pastel Yellow, สีแดง Diamond Red, สีเทา Hampstead Grey และสีฟ้า Como Blue รวมทั้งมีออปชันต่างๆ ให้เลือกสำหรับภายนอกรถอย่างล้ออัลลอยและไฟหน้า LED
รถแฮทช์แบ็กบี-เซ็กเมนต์รุ่นใหม่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดที่ทางผู้ผลิตเรียกว่า Hybrid+ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน Atkinson-cycle 1.5 ลิตร กำลัง 102 แรงม้า แรงบิด 128 นิวตัน-เมตรทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 100 kW หรือ 134 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร โดยมีกำลังขับเคลื่อนรวมจากระบบไฮบริด 192 แรงม้า พร้อมมีแบตเตอรี 1.83 kWh ส่วนการนำกำลังจากระบบไฮบริดสู่ล้อหน้าของรถเป็นหน้าที่ของเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด นอกจากนี้ทาง MG ยังระบุว่ารถรุ่นใหม่ของตนมีความเร็วกว่ารถไฮบริดบี-เซ็กเมนต์ในระดับเดียวกันด้วยการใช้เวลา 8 วืนาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ส่วนความเร็วสูงสุดของรถอยู่ที่ 170 กม./ชม.
ระบบไฮบริดของรถมีการทำงานต่างๆ เพื่อการขับเคลื่อนทั้งเพื่อการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน เครื่องยนต์ทำงานผ่าน Generator เพื่อให้กำลังมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน เครื่องยนต์ทำหน้าที่ขับเคลื่อนรถพร้อมกับชาร์จแบตเตอรี หรือทั้งเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนรถ ส่วนโหมดการขับมีให้เลือกระหว่าง Eco, Standard และ Sport
ทางผู้ผลิตยังอ้างว่ารถของตนให้พลังในการขับพร้อมความสะดวกสบายจากหลักการ Fun-to-drive ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ชิ้นส่วนในแชสซีส์ที่ทนต่อการบิดตัวสูง รวมทั้งยังมีการออกแบบช่วงล่างที่น้ำหนักเบาลงพร้อมกับให้การยึดเกาะถนนดีขึ้นทั้งเพื่อการควบคุมรถที่ปราดเปรียวและความสบายในการขับ ทำให้รถมีความสมดุลย์ในการใช้งานแต่ละวันทั้งด้านความสบายและพลังในการขับ
ห้องโดยสารของรถมาพร้อมกับจอลอยตัวคู่ โดยประกอบด้วยจอแสดงข้อมูลการขับขนาด 7 นิ้ว ขณะที่จอ Infotainment มีขนาด 10.25 นิ้ว ส่วนที่คอนโซลกลางมีแถวปุ่มควบคุมให้ใช้งานเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในขณะขับ นอกจากนี้รถยังมาพร้อมกับระบบนำทาง Apple CarPlay/Android Auto ระบบเสียงลำโพง 6 ตำแหน่ง 4 ช่องต่อยูเอสบี เซ็นเซอร์และกล้องหลังสำหรับช่วยจอดรถ รวมไปถึงมีระบบช่วยขับอย่าง การทำงานช่วยให้รถอยู่ในช่องจราจรพร้อมระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกช่องจราจร ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติอแดปทีฟ ระบบเตือนก่อนการชนด้านหน้า และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ
ส่วนราคาของรถที่ขายในยุโรปและกำหนดการขายทาง MG ยังไม่ได้ระบุออกมา
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th