All-New MG4 EV เปิดตัวในสหราชอาณาจักร เริ่มต้น 1.1 ล้านบาท
All-New MG4 EV รถยนต์แฮตช์แบ็กพลังไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกของเอ็มจี เปิดตัว อย่างเป็นทางการในสหราชอาณาจักร มีระยะการขับระหว่าง 350-450 กิโลเมตรต่อการชาร์จ (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) และ ราคา 25,995-31,495 ปอนด์ (ราว 1.1-1.34 ล้านบาท)
เอ็มจี จะมีตัวเลือก 3 รุ่นย่อย สำหรับ MG 4 EV ที่เปิดตัวขายในสหราชอาณาจักร SE, SE Long Range และ Trophy Long Range โดยตัวเริ่มต้นจะใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 51 กิโลวัตต์ชั่วโมง และ 2 รุ่นบนจะมีขนาดเพิ่มเป็น 64 กิโลวัตต์ชั่วโมง
ตัวรถยังมาพร้อมกับคุณสมบัติมาตรฐาน ได้แก่ หน้าจอทัชสกรีนแบบสีขนาด 10.25 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนทั้ง Apple CarPIay และ Android Auto รวมทั้งแอปพลิเคชั่น iSMART และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ MG Pilot
ในส่วนของระบบความปลอดภัย All-New MG4 EV ติดตั้งกล้องรอบคัน 360 องศา, ระบบนำทางด้วยดาวเทียม, เบาะนั่งด้านหน้าและพวงมาลัยสามารถปรับอุณหภูมิ และกุญแจไร้สายสำหรับสมาร์ตโฟน
การออกแบบภายนอกที่โดดเด่น
MG4 EV มีให้เลือกถึง 6 สี ที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็น สีขาว Arctic White, สีฟ้า Holborn Blus, สีดำ Black Pearl, สีเทา Camden Grey, สีแดง Dynamic Red รวมถึงสีใหม่ล่าสุดอย่างสีส้ม Volcano Orange
ด้านคุณสมบัติภายนอกอันเป็นเอกลักษณ์อื่นๆ ได้แก่ ระบบ Active Grille* (มีเฉพาะเกรด SE Long Range และ Trophy Long Range เท่านั้น) ที่ควบคุมการไหลเวียนของอากาศจากช่องดักลมด้านหน้าเพื่อช่วยให้ใช้งานแบตเตอรี่ได้อย่างเหมาะสม ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว และหลังคาสีดำทูโทนและสปอยเลอร์หลังคู่แบบ Twin Aero** (มีเฉพาะเกรด Trophy Long Range เท่านั้น)
ห้องโดยสารอัฉริยะ
ด้วยแบตเตอรี่ที่มีขนาดบางและระยะฐานล้อที่ยาว ทำให้ MG4 EV มีพื้นที่บนศีรษะเยอะมากทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด และพื้นที่วางขาที่กว้างขวาง ด้านหน้าคอนโซลพบกับหน้าจอแสดงผลแบบสีขนาด 10.25 นิ้ว มาพร้อม Apple CarPlay และ Android Auto เป็นมาตรฐาน ให้คุณเชื่อมต่อได้อย่างสมบูรณ์เพียงปลายนิ้วสัมผัส
ด้านหลังของ Rotary Gear Selector มีแท่นชาร์จไร้สาย* (เฉพาะเกรด Trophy Long Range เท่านั้น) อยู่บนคอนโซลกลางแบบลอย ช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในให้ดูทันสมัยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง MG Pilot Advanced Driver Assistance Systems
ความปลอดภัยของคุณและผู้ใช้ถนน คือ สิ่งที่ MG ให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง จึงนำเสนอชุดระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงที่เรียกว่า MG Pilot เพื่อช่วยให้มั่นใจถึงประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัย ผ่อนคลาย และสะดวกสบาย ซึ่งประกอบไปด้วย
- ระบบเบรกอัตโนมัติพร้อมระบบป้องกันคนบนนถนนและคนปั่นจักรยาน
- ระบบช่วยให้อยู่ในเลนพร้อมระบบเตือนการออกนอกเลน
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ
- ระบบช่วยจำกัดความเร็วอัจฉริยะพร้อมระบบจดจำป้ายจราจร
- ระบบไฟสูงอัตโนมัติ
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่
- ระบบตรวจจับจุดบอด*
- ระบบช่วยเปลี่ยนเลน*
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง*
- ระบบแจ้งเตือนก่อนเปิดประตู*
(*มีเฉพาะเกรด Trophy Long Range เท่านั้น)
สำหรับ MG4 EV จะมีเกรดให้เลือกสรรถึง 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น SE, SE Long Range และ Trophy Long Range โดยทั้งสามรุ่นสามารถทำความเร็วได้สูงสุด 100 ไมล์/ชม. หรือประมาณ 160 กม./ชม.
สเปกในรุ่นมาตรฐาน SE
- มีความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 51 กิโลวัตต์ชั่วโมง
- ตัวรถสามารทำกำลังออกมาได้สูงสุด 170 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร
- ทำความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.
- ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ใน 7.5 วินาที
- มีระยะเวลาชาร์จไฟกำลัง 7 กิโลวัตต์ ใน 7.5 ชม. (10-100%)
- มีระยะเวลาชาร์จไฟกำลัง 50 กิโลวัตต์ ใน 52 นาที (10-80%)
- มีระยะเวลาชาร์จไฟกำลัง 150 กิโลวัตต์ ใน 39 นาที (10-80%)
- ระยะทางตามมาตรฐาน WLTP อยู่ที่ 218 ไมล์ หรือราว 350 กิโลเมตร
- ระยะทางใช้ในเมืองอยู่ที่ 305 ไมล์ หรือราว 490 กิโลเมตร
- น้ำหนักรถรวม 2,103 กก.
- ราคา 25,995 ปอนด์ ประมาณ 1,104,000 บาท
สเปกในรุ่น SE Long Range
- มีความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 64 กิโลวัตต์ชั่วโมง
- ตัวรถสามารทำกำลังออกมาได้สูงสุด 203 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร
- ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ใน 7.7 วินาที
- ทำความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.
- มีระยะเวลาชาร์จไฟกำลัง 7 กิโลวัตต์ ใน 9 ชม. (10-100%)
- มีระยะเวลาชาร์จไฟกำลัง 50 กิโลวัตต์ ใน 60 นาที (10-80%)
- มีระยะเวลาชาร์จไฟกำลัง 150 กิโลวัตต์ ใน 35 นาที (10-80%)
- ระยะทางตามมาตรฐาน WLTP อยู่ที่ 281 ไมล์ หรือราว 450 กิโลเมตร
- ระยะทางใช้ในเมืองอยู่ที่ 360 ไมล์ หรือราว 579 กิโลเมตร
- น้ำหนักรถรวม 2,133 กก.
- ราคา 28,495 ปอนด์ ประมาณ 1,209,600 บาท
สเปกในรุ่น Trophy Long Range
- มีความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 64 กิโลวัตต์ชั่วโมง
- ตัวรถสามารทำกำลังออกมาได้สูงสุด 203 แรงม้า
- แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร
- ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ใน 7.7 วินาที
- ทำความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.
- มีระยะเวลาชาร์จไฟกำลัง 7 กิโลวัตต์ ใน 9 ชม. (10-100%)
- มีระยะเวลาชาร์จไฟกำลัง 50 กิโลวัตต์ ใน 60 นาที (10-80%)
- มีระยะเวลาชาร์จไฟกำลัง 150 กิโลวัตต์ ใน 35 นาที (10-80%)
- ระยะทางตามมาตรฐาน WLTP อยู่ที่ 270 ไมล์ หรือราว 434.5 กิโลเมตร
- ระยะทางใช้ในเมืองอยู่ที่ 358 ไมล์ หรือราว 576 กิโลเมตร
- น้ำหนักรถรวม 2,133 กก.
- ราคา 31,495 ปอนด์ ประมาณ 1,337,000 บาท
มิติตัวถัง All-New MG4 EV
- ยาว: 4,287 มม.
- กว้าง (รวมกระจกข้าง): 2,060 มม.
- กว้าง: 1,836 มม.
- สูง: 1,504 มม.
- ฐานล้อยาว: 2,705 มม.
- ฐานล้อหน้ากว้าง: 1,550 มม.
- ฐานล้อหลังกว้าง: 1,551 มม.
สำหรับ All-New MG4 Ev พร้อมเปิดให้ชาวอังกฤษ และประเทศในสหราชอาณาจักรเริ่มจับจองอย่างเป็นทางการแล้ว ส่วนประเทศไทย มีลุ้นว่าจะได้เห็นแฮตช์แบ็กพลังไฟฟ้ารุ่นนี้เข้ามาเปิดตัวเช่นกัน โดยรายละเอียดทางทีม Grand Prix Online จะนำมารายงานต่อไป