ทาคาโอะ คาโตะ นำทัพ ผู้บริหารมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เผยทิศทางตลาด ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน เน้นส่งออกมากกว่าจำหน่ายในไทย 80:20
ทาคาโอะ คาโตะ นำทัพ ผู้บริหารมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เผยทิศทางการทำตลาด All-new Mitsubishi Triton เน้นตลาดส่งออกต่างประเทศ มากกว่าจำหน่ายในไทย ในอัตราส่วน 80:20
ย้อนไปกว่า 4 ทศวรรษ หลังจากที่ทางมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้เปิดตัวรถกระบะเป็นครั้งแรกในปี 2521 จวบจนวันนี้ ปี 2566 มิตซูบิชิฯ ได้ผลิตรถกระบะออกมาแล้วทั้งหมด 5 เจนเนอเรชั่น
และล่าสุดกับเจนเนอเรชั่นที่ 6 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส) เปิดตัว “ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน” หรือ แอล 200 (L200) รถกระบะขนาด 1 ตัน ที่ได้รับการสร้างสรรค์ใหม่หมด ปฏิวัติทุกอณู เป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี ในประเทศไทยเป็นที่แรกในโลก
โดยหลังจากที่ มร. ทาคาโอะ คาโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น และมร. เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด พร้อมกับผู้บริหารในส่วนต่างๆ ได้ร่วมเปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่ “ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน” ในงานเวิลด์พรีเมียร์ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มร. ทาคาโอะ คาโตะ จึงได้นำทัพ ผู้บริหารมิตซูบิชิ มอเตอร์ส มาร่วมพูดคุย พร้อมเผยทิศทางการทำตลาดของรถกระบะ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน
ทางด้าน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ได้คาดการณ์ยอดขายออล-นิว ไทรทัน ในปี 2024 ไว้ว่าจะสามารถทำได้ 200,000 คัน ในมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจะส่งผลให้ ไทรทัน กลายเป็นรถรุ่นสำคัญ และเป็นกำลังหลักในการดำเนินธุรกิจของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในฐานะรถกระบะชั้นนำระดับโลก
“ตอนนี้เราวางแผนกำลังการผลิตให้ทัน และให้ครบ 200,000 คัน ทั้งในแง่การผลิตเพื่อส่งออก และจัดจำหน่ายไปให้มากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ซึ่งการที่เรามั่นใจเช่นนี้ สืบเนื่องจากเสียงตอบรับที่ดีจากทุกท่าน ผนวกกับความตั้งใจของเราที่ต้องการตอบสนองทุกความต้องการ ทำให้เราทุ่มเททำงานหนักเพื่อพัฒนา ออล-นิว ไทรทัน จนเสร็จสมบูรณ์
และวันนี้ เราได้ตั้งใจมาที่นี่ เพื่อเผยโฉมรถคันนี้เป็นครั้งแรกในโลก เนื่องจากมากกว่า 1 ใน 3 ของยอดขายทั่วโลกมาจากภูมิภาคอาเซียน รวมถึงในประเทศไทยแห่งนี้ ซึ่งทำให้อาเซียนเป็นหนึ่งในภูมิภาคสำคัญในการดำเนินธุรกิจ และเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนให้เกิดการเติบโต
ซึ่งนอกเหนือจากออล-นิว ไทรทัน เรายังมีแผนที่จะเปิดตัวรถคอมแพ็กต์เอสยูวีรุ่นใหม่ รวมถึงเอ็กซ์แพนเดอร์ ไฮบริด ในช่วงต้นปีหน้า โดยรถรุ่นใหม่ทั้งหมดนี้ จะเผยให้เห็นถึงความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส พร้อมเดินหน้าสร้างความเติบโตทางธุรกิจของเราในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง
และด้วยการเป็นรถกระบะเจนเนอเรชั่นที่ 6 ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งคันครั้งแรกในรอบ 9 ปี มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้ทำการพัฒนาเฟรมหรือโครงรถแบบขั้นบันไดใหม่ ตัวถัง แชสซีส์ เครื่องยนต์ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำให้ ออล-นิว ไทรทัน ได้รับการถ่ายทอดให้สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ด้วยการมีศักยภาพในการตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าของเรา รวมถึงแสดงถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนารถกระบะสู่ยุคใหม่” มร. ทาคาโอะ คาโตะ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับในตลาดประเทศไทยเอง มร. เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ยังได้ตอกย้ำถึงเป้าหมาย รวมถึงทิศทางทางการตลาดไว้ว่า
“สำหรับรถกระบะ ออล-นิว ไทรทัน ได้รับการออกแบบและพัฒนา จากการศึกษาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าชาวไทย ทั้งในรูปแบบรถส่วนตัว และการใช้งานเชิงพาณิชย์ อีกทั้งยังได้รับการออกแบบและพัฒนา จากการศึกษาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าชาวไทย ทั้งในรูปแบบรถส่วนตัว และการใช้งานเชิงพาณิชย์ โดยได้รับการพลิกโฉมใหม่หมดทั้งคัน จาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส
ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างตัวรถ แบบเมกะเฟรม ช่วงล่างที่ควบคุมได้อย่างเหนือชั้น ห้องโดยสารที่กว้างขวางและสะดวกสบาย รวมถึง เครื่องยนต์ที่ทรงพลัง เพื่อยกระดับชีวิตและธุรกิจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น
โดยโมเดลนี้ เราได้ตั้งเป้าหมายของการขายออลนิว ไทรทัน ใหม่ ของทั้งในประเทศ และทั่วโลกไว้ว่า
จะต้องเริ่มต้นลอตแรก ด้วยการส่งออกอย่างต่ำ 200,000 คัน ไปทั่วโลก และเราจะเน้นการทำตลาดในประเทศไทย ในปีหน้า หรือปี 2024 ให้ถึงเป้าหมาย โดยรวมทุกรุ่นแล้ว ต้องการที่จะได้แชร์ในตลาดมากกว่าเลข 2 หลัก ขึ้นไป”
การลงทุนเปิดสายการผลิตใหม่ในประเทศไทย
“มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ลงทุนเปิดสายการผลิตขึ้นใหม่ ณ โรงงานแหลมฉบัง เพื่อริเริ่มสร้างสรรค์ ออล-นิว ไทรทัน โดยใช้เทคโนโลยีข้ันสูงสุดล้ำสมัย และหุ่นยนต์อัจฉริยะทรงพลังมากกว่า 250 ตัว เพื่อทำหน้าที่ในหลายๆ ส่วน
โดยเฉพาะในส่วนที่เกินกำลังของมนุษย์ ซึ่งเมื่อผสานกับการลงทุนเพื่อเปิดโรงพ่นสีแห่งใหม่ก่อนหน้านี้ ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในระยะยาว ที่จะส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและการส่งออกออล-นิว ไทรทัน ของเรา”
สัดส่วนการทำตลาดในประเทศ และต่างประเทศ
“จากการสำรวจตลาด เราปรับกลยุทธ์ และพร้อมทำตลาดสำหรับโมเดลใหม่นี้ไว้อย่างชัดเจน โดยจะมีการจัดจำหน่ายภายในประเทศไทย อยู่ที่ 20% และเน้นการผลิตเพื่อส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศอีก 80%”
แน่นอนว่าในโลกยานยนต์ปัจจุบัน เทรนด์รถพลังงานไฟฟ้า หรือ EV คือประเด็นที่ถูกจับตามอง และผู้บริโภคให้ความสนใจสูง สำหรับมิตซูบิชิเอง ก็ไม่ได้ละเลยถึงความต้องการของผู้บริโภคที่เป็นกระแสนิยมเพิ่มขึ้นในตลาด
โดยมิตซูบิชิ ได้เตรียมพร้อมในการพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ล่าสุดนี้ให้เป็นตัวยานยนต์ไฟฟ้า และกำลังอยู่ในการทดลองรถต้นแบบ พร้อมทั้งพิจารณาความเป็นไปได้รอบด้าน ถึงการตัดสินใจที่จะเลือกใช้ตัวแบตเตอรี่ EV, PHEV หรือ ยานยนต์ไฟฟ้ารูปแบบใด ที่จะทำให้มีประสิทธิภาพเหมาะสมมากที่สุด
ซึ่งทาง มร. เออิอิชิ โคอิโตะ ทิ้งท้ายไว้ว่ามีความพร้อมอย่างมากที่จะพัฒนา และอยุ่ในกระบวนการพัฒนา ที่จะตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วน และตอบโจทย์ได้สูงสุด
สำหรับผู้ที่สนใจ All-New Mitsubishi Triton ทางมิตซูบิชิ ได้เตรียมแคมเปญพิเศษให้ลูกค้าชาวไทยลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยมีลูกค้ามากกว่า 10,000 ท่าน ที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดีตั้งแต่วันศุกร์ที่ 28 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งลูกค้าทั่วประเทศสามารถไปชมรถคันจริง และสั่งซื้อรถกระบะรุ่นใหม่ ออล-นิว ไทรทัน ได้ทันที ณ โชว์รูมมิตซูบิชิ มอเตอร์ส มากกว่า 200 สาขาทั่วประเทศ
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th