All-New Toyota Yaris Ativ รุ่น Premium ซื้อตัวรอง…ได้อะไรบ้าง?
“นี่แหละ…รองท๊อปของเรา” หลายคนที่กำลังพิจารณาว่าจะซื้อรถใหม่อย่าง All-New Toyota Yaris Ativ รุ่นไหนดี หลังจากเปิดตัวมาโตโยต้าประกาศจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่น ในราคาสุดคุ้ม ราคาเริ่มต้นที่ 539,000-689,000 บาท ดูเหมือนว่ารุ่น Premium (ตัวรองท๊อป) จะถูกจับจ้องมากที่สุดว่าได้ของแค่นี้ก็คุ้มแล้วมีส่วนต่างจากรุ่นแพงสุดเพียง 30,000 บาท ซึ่งแน่แหละถ้าไม่ติดเรื่องงบประมาณใครก็มองแต่รุ่นท๊อปสุดอย่าง Premium Luxury แต่กลยุทธ์การวางราคาของโตโยต้ารอบนี้ทำเอาคิดหนักเหมือนกันเพราะแต่ละรุ่นราคาห่างกันไม่มาก ไม่แปลกที่รุ่น Premium และ Premium Luxury จะขายดีกว่ารุ่นเริ่มต้นอย่าง Sport และ Smart จนถึงวันนี้โตโยต้าประสบความสำเร็จอย่างงดงามหลังเปิดตัวด้วยยอดจำหน่ายเกินคาด พร้อมเร่งส่งมอบรถให้ลูกค้า แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่ ATIV ได้รับความนิยมนอกจากสินค้าที่ดีแล้ว และมาถูกเวลาในช่วงน้ำมันแพง อีกอย่างที่สำคัญมากที่โตโยต้ามองเห็นโดยการออกแบบเงื่อนไขทางการเงินที่ช่วยให้ผู้บริโภคชาวไทยเป็นเจ้าของรถนั้นก็มีให้เลือกมากมายเหลือเกิน ซึ่งแต่ละโปรแกรมก็ถูกออกแบบมาอย่างดีสำหรับคนในแต่ละอาชีพ
เราได้ทำความรู้จักรถรุ่นนี้ไปกันแล้ว ครั้งนี้มาดูกันว่าในรุ่น 1.2 Premium CVT กับราคา 659,000 บาท คนซื้อได้อะไรบ้าง
2022 TOYOTA YARIS ATIV เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลก
อุปกรณ์ภายนอก
รูปลักษณ์ใหม่ของ All-New Toyota Yaris Ativ ตั้งใจนำเสนอดีไซน์ และอุปกรณ์ตกแต่งที่เหมือนกันในทุกรุ่นย่อย โชว์ความเป็นอีโคคาร์ซีดาน หลังคาหลังลาดลงในสไตล์ Fast Back โดยมีการปรับเพียงเรื่องสี และวัสดุบางอย่างให้แตกต่างกัน เพียงตอบโจทย์รสนิยมของลูกค้า และเพิ่มคุณค่าให้รถทุกรุ่นย่อย อุปกรณ์บางอย่างกลายมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานให้ในทุกรุ่นที่ขาย แต่ส่วนอุปกรณ์ที่ไม่มีในเวอร์ชั่นนี้คือ “ไฟตัดหมอกด้านหน้า” ส่วนสิ่งที่จะแยกว่ารุ่นไหนเป็นรุ่นไหนหลักๆ ดูจะเป็นกระจกมองข้างที่มีด้วยกัน 3 แบบ คือสีเดียวกับตัวรถในรุ่นเริ่มต้น และสีเดียวกับตัวรถพร้อมไฟเลี้ยว และสีดำพร้อมไฟเลี้ยวในรุ่นท๊อปสุด ทั้งหมดนี้ดูเหมือนว่าคนที่ไม่รู้จักรถรุ่นนี้จะแยกไม่ออกว่าคันไหนรุ่นอะไรอย่างแน่นอน เพราะด้านท้ายไม่ใช้สัญลักษณ์หรือโลโก้ชื่อรุ่นย่อย
สำหรับคนที่เลือกรุ่น “Premium” สิ่งที่จะได้รับคือ ไฟหน้าแบบ LED มาพร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DayTime Running Lights กระจังหน้าด้านบนสีดำ ส่วนด้านล่างสีดำเงา วัสดุตกแต่งช่องดักอากาศด้านหน้าสีดำเงา วัสดุตกแต่งกันชนด้านหลังสีดำเงา ส่วนไฟท้ายเป็นแบบ LED Light Guiding พร้อมไฟเลี้ยว LED แบบ Sequential (ทั้งหมดนี้เหมือนรุ่น Premium Luxury) รวมทั้งเสาอากาศแบบครีบฉลาม แต่กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถพร้อมไฟเลี้ยว (รุ่น Premium Luxury จะเป็นสีดำเงาพร้อมไฟเลี้ยว) ที่ปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา และปรับตั้งเวลาได้ มือเปิดประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ (ในทุกรุ่นย่อย) นอกจากนี้ระบบเบรกยังเป็นดิสก์เบรกสี่ล้อ เหมือนกับรุ่นท๊อป แต่สิ่งที่เหมือนกันทุกรุ่นคือล้ออัลลอยปัดเงาสีทูโทนขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 195/60 R16
โตโยต้า เตรียมดัน ALL NEW YARIS ATIV แทนที่ VIOS
อุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร
เรายังอยู่กับ Toyota Yaris Ativ ในรุ่นรอง Premium แต่อย่างที่ทราบกันดีว่าโตโยต้าเปิดตัวรถรุ่นนี้มาทำการสื่อสารจุดเด่นภายในคือเรื่องออปชั่น และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายเยอะมาก พร้อมยกระดับอีโคคาร์ขึ้นไปอีกขึ้นสร้างมาตรฐานใหม่ในปีนี้ All-New Toyota Yaris Ativ นำเสนอด้วยภายในสีแดงใหม่ในภาพยนตร์โฆษณาต่างๆ
แต่นั่นเฉพาะรุ่นท๊อปหรือ Premium Luxury รุ่นเดียว ส่วนที่เลือกอีก 3 รุ่นย่อย ทั้ง Premium ,Smart และ Sport คุณจะได้สีภายในเป็นสีดำทั้งหมด ในด้านวัสดุเบาะนั่งก็ต่างกันกับตัวภายในแดงเบาะหนังแท้ได้มาเป็นเบาะทำจากหนังสังเคราะห์และผ้าพร้อมตกแต่งด้วยด้ายสีเทา เบาะปรับสูงต่ำได้ในทุกรุ่นย่อย
วัสดุตกแต่งพวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมตกแต่งด้วยด้ายดำ และแถบสีเงินเมทัลลิก (เหมือนรุ่น Premium Luxury) แผงคอนโซลหน้าหุ้มหนังสีน้ำตาล เหมือนกับคอนโซลกลางที่มาพร้อมบุนุ่มบริเวณด้านข้างเข่าคนขับและตกแต่งด้วยสีดำเปียโนแบล็ก (รุ่น Premium Luxury จะเป็นสีแดง) มือเปิดประตูด้านในเป็นสีเงินเมทัลลิก วัสดุตกแต่งหัวเกียร์หุ้มหนังพร้อมตกแต่งด้วยสีดำเปียโนแบล็ก และโครเมียม
กระจกหน้าต่างไฟฟ้าพร้อม เปิด-ปิดอัตโนมัติ และระบบป้องกันการหนีบด้านคนขับในทุกรุ่นย่อย กระจกแต่งหน้าด้านคนขับขนาดใหญ่พิเศษ มีกล่องเก็บแว่นบริเวณคอนโซลหน้า พร้อมไฟอ่านแผนที่แบบ LED ติดตั้งไฟส่องสว่างบริเวณห้องเก็บสัมภาระ ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร 64 สี บริเวณคอนโซลกลางเท่านั้น (ในรุ่นท๊อปจะมีเพิ่มในส่วนแผงประตูข้าง และคอนโซลกลางด้านบน) ราวมือจับ 3 ตำแหน่งมีให้ในทุกรุ่นย่อย แต่จุดที่แตกต่างคือกล่องเก็บของคอนโซลกลางแบบมีฝาเปิดหุ้มหนังสีน้ำตาล (รุ่น Premium Luxury สีแดง)
ในส่วนของมาตรวัดเป็นแบบ Digital พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 7 นิ้ว พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียง และโทรศัพท์บนพวงมาลัง ติดตั้งระบบ Push Start ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ Auto Brake Hold กุญแจรีโมท ระบบเครื่องเสียงวิทยุ FM/AM หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว พร้อมช่อง USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth รองรับโทรศัพท์ การเล่นเพลง และ Apple Car Play และ Android Auto (ทั้งหมดนี้เหมือนรุ่น Premium Luxury) จะแตกต่างที่ลำโพง 6 ตำแหน่งที่ได้รุ่นท๊อปสุดจะเป็น Pioneer
นอกจากนี้ยังมี สวิตซ์เลือกโหมดการขับขี่ ECO / Normal / Sport บนพวงมาลัย ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า USB สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง 2 ตำแหน่ง ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติพร้อมระบบกรองฝุ่น PM 2.5 ช่องปรับอากาศตอนหลัง กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow-Me-Home ระบบส่องสว่างภายในห้องโดยสารอัตโนมัติ กระจกมองข้างแบบปรับลดแสงสะท้อน
อุปกรณ์ความปลอดภัย
ทั้งนี้โตโยต้าได้ใส่อุปกรณ์ความปลอดภัยใหม่ๆ เข้ามาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย อาทิ ถุงลมเสริมความปลอดภัย SRS คู่หน้า/ด้านข้าง/และม่านด้านข้าง จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX เข็มขจัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติ เข็มขัดนิรภัยเบาะหลัง 3 จุด ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer ระบบเตือนการโจรกรรม TDS ,ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน ,ไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED ,สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรกกะทันหัน (Emergency Brake Signal) ,ระบบเซ็นทรัลล๊อก ,ระบบละลายฝ้ากระจกหลัง ,ระบบเบรก ABS ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบกระจายแรงเบรก EBD ,ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ,ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ,ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
อุปกรณ์เพิ่มเติมสำหรับรุ่น Premium มีให้เหมือนกับรุ่น Premium Luxury
- กล้องมองรอบคัน PVM (Panoramic View Monitor )
- กล้องบันทึกภาพหน้ารถ
- สัญญาณเตือนกะระยะหน้า-หลัง
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ RCTA
- ระบบความปลอดภัยก่อนการชน PCS
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ AHB
- ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยดึงกลับอัตโนมัติ LDA
- ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว Front Departure Alert
- ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งแบบผิดวิธี Pedal Misoperation Control
เครื่องยนต์เดิม เพิ่มเติมปรับจูนใหม่
ด้านสมรรถนะยังคงเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 3NR-VE 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-iE รองรับแก๊สโซฮอล์ E20ขนาด 1,197 ซีซี. ให้กำลังแรงม้าสูงสุด 94 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-I พร้อม Sequential Shift ในทุกรุ่นย่อย โดยรอบนี้โตโยต้าได้ปรับเครื่องยนต์ใหม่มากถึง 6 รายการ รวมทั้งซอฟแวร์ และปรับอัตรทดเกียร์ใหม่ และชิ้นส่วนบางอย่างอีก 4 รายการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้รถมีความคล่องตัวมากขึ้นตั้งแต่เหยียบคันเร่ง แต่ต้องอยู่ในเกณฑ์ของ Eco Car ทั้งเรื่องความประหยัด และเรื่องมลพิษ
โดยครั้งนี้วิศวกรโตโยต้าได้ร่วมมือกับไดฮัทสุ เพื่อใช้แฟลตฟอร์มใหม่ที่ไม่ใช่ TNGA ซึ่งสิ่งทีได้รับคือโครงสร้างรถน้ำหนักเบาขึ้น แต่แข็งแกร่งขึ้น และทำให้รถมีรัศมีวงเลี้ยวแคบเพียง 4.8 เมตร รวมทั้งช่วงล่างใหม่ทั้งหมด ด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโครง ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีมและคอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง พวงมาลับเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS ในด้านมิติตัวถังรถรุ่นนี้มีฐานล้อยาวขึ้น และยาวมากที่สุดในคลาส
ทำไมมองว่า Premium คุ้มที่สุด ประหยัดไปได้ 3 หมื่น
All-New Toyota Yaris Ativ รุ่น Premium มีรูปร่างหน้าตา รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และความปลอดภัยที่แทบจะเหมือนกับรุ่น Premium Luxury คนซื้อไปได้ของครบเหมือนกัน จะต่างกันมากคือเบาะสีแดง และกระจกมองข้างสีดำ ซึ่งในทุกรุ่นย่อยของ Ativ พื้นที่ใช้สอยและอุปกรณ์ภายในรถถูกออกแบบให้ตอบโจทย์ลูกค้าชาวไทย ห้องโดยสารมีความสะดวกสบาย คลอบคลุมการใช้งานที่หลากหลาย อุปกรณ์บางอย่างไม่เคยมีในรถกลุ่ม Eco Car อาทิ ไฟสร้างบรรยากาศปรับได้ 64 สี หน้าจอมาตรวัดแบบ Full Digital ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อม ABH หรือแม้แต่กระจกแต่งหน้าขนาดใหญ่ และระบบปรับอากาศกรองฝุ่น PM 2.5
ถามว่า All-New Toyota Yaris Ativ รุ่น Premium ทำไมถึงมองว่าคุ้มค่า…เพราะฟังก์ชั่นครบ!!! ราคาจับต้องได้ ที่สำคัญคือเป็นรุ่นที่มีแอร์หลัง รุ่น Sport และ Smart ไม่มีให้!!!
เรื่อง กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th