ตัวต่อตัว ALL-NEW HONDA CIVIC 11th GEN vs. HONDA CIVIC 10th GEN
ก่อนจะถึงกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย มาดูกันว่า All-New Honda Civic เจเนอเรชั่น 11 เวอร์ชั่นสหรัฐฯ ที่มาพร้อมขุมกำลังเทอร์โบชาร์จ 1.5 ลิตรที่ได้รับการอัพเกรดใหม่ มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมตรงไหน หากนำมาเปรียบเทียบกับโฉมปัจจุบัน Honda Civic 1.5 VTEC Turbo RS ที่ยังทำตลาดในบ้านเวลานี้ ?—2021 UPDATE!: เราได้เพิ่มข้อมูลล่าสุดหลังการเปิดตัว All-New Honda Civic 2021 อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2021 เป็นที่เรียบร้อย
All-New Civic 11th Gen ในประเทศสหรัฐฯ จะแบ่งเป็น 4 รุ่นย่อยเหมือนประเทศไทย แต่ใช้รหัสเรียกแตกต่างกันไล่เรียงจาก LX, Sport, EX และ Touring โดย 2 รุ่นล่างจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร i-VTEC เหมือนเดิม ทำให้พอจะคาดการณ์ได้ว่าตอนเปิดตัวในบ้านเราขุมกำลัง 1.8 ลิตร i-VTEC จะอยู่ใน 2 รุ่นล่างเช่นกัน
แต่เพื่อเปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆ ทีมงานของเราขอเลือก All-New Civic Touring มาจับคู่ Head-to-Head กับ Civic 1.5 VTEC Turbo RS ที่ถือเป็นตัวท็อปในปัจจุบันของประเทศไทย
ข้อมูลล่าสุด! 2021 UPDATE: All-New Honda Civic ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทย จัดเต็มทุกรุ่นย่อยด้วยเครื่องยนต์ VTEC TURBO 1.5 ลิตร ใหม่ มอบความแรงเร้าใจแต่ยังมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ได้รับการอัพเกรดอีกขั้นกับระบบใหม่ Lead Car Departure Notification System (LCDN) และครั้งแรกกับระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะพร้อม Honda Smart Key Card มอบประสบการณ์ความสะดวกสบายสุดพรีเมียม
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม ฮอนด้า เปิดตัว All-New Civic เร้าใจกับขุมพลัง VTEC TURBO
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเทียบฟอร์ม—3 คอมแพ็กต์ซีดานเมืองไทย 2021
ขนาดตัวถัง
- All-New Civic 11th Gen มีสัดส่วนใกล้เคียงกับรุ่นก่อน ตัวถังมีความยาว 4,674 x กว้าง 1,800 x สูง 1,415 มม. ขยายฐานล้อเพิ่มขึ้นจากเดิม 35.5 มม. เพื่อการขับขี่ที่นุ่มนวลมากขึ้น และให้อารมณ์แบบสปอร์ตในการควบคุมพวงมาลัยที่เป็นเอกลักษณ์ของ Civic มาตลอดหลายทศวรรษ
- มิติตัวถังของ Civic 1.5 VTEC Turbo RS ที่ขายในประเทศไทยจะมีความยาว 4,648 x กว้าง 1,799 x สูง 1,416 มม. เรียกว่าใกล้เคียงกันมาก ยกเว้นน้ำหนักรถเปล่ารุ่นนี้จะเบากว่า 90 กิโลกรัม หากเทียบกับ All-New Civic Touring
ข้อมูลล่าสุด! 2021 UPDATE: All-New Honda Civic 2021 เวอร์ชั่นประเทศไทยจะมีมิติตัวถังแตกต่างจากในประเทศสหรัฐฯ เล็กน้อย โดยความยาวจะเป็น 4,678 x ความกว้าง 1,802 x ความสูง 1,415 มม. หากเทียบกับเจเนอเรชั่น 10 ที่ขายในประเทศไทย Civic รุ่นซีดาน 1.5 VTEC Turbo RS จะสั้นกว่า 30 มม. ความกว้างน้อยกว่า 2 มม. แต่สูงกว่า 1 มม.
การออกแบบห้องโดยสาร
- Honda ระบุว่า Civic 11th Gen เป็นการพลิกโฉมแนวทางดีไซน์ครั้งสำคัญของคอมแพ็กต์ยอดนิยมรุ่นนี้ ด้วยการลดปุ่มควบคุมให้เหลือน้อยที่สุดตามเทรนด์ Minimalism พร้อมนำแนวทาง M/M เข้ามาใช้เพื่อออกแบบตำแหน่งการนั่งของคนขับให้เหมาะสมตามหลักสรีระศาสตร์ และสร้างวิสัยทัศน์ที่ดีที่สุดในการขับขี่ รวมทั้งอัพเกรดความพรีเมียมด้วยชุดเครื่องเสียง Bose พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง
- ในขณะที่ห้องโดยสารของ Civic 1.5 VTEC Turbo RS เหมือนเป็นการพัฒนาต่อยอดสไตล์การดีไซน์จาก 2 เจเนอเรชั่นก่อนหน้า โดยคนขับจะรู้สึกว่ากำลังนั่งอยู่ในค็อกพิตต์ที่หน้าจอ และปุ่มควบคุมจะถูกวางตำแหน่งให้หันเข้าหาตัวเพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน
ข้อมูลล่าสุด! 2021 UPDATE: All-New Honda Civic เวอร์ชั่นประเทศไทย ในรุ่น RS จะติดตั้งมาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา และฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) เทคโนโลยีเชื่อมต่อรถยนต์ที่ทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน
ในขณะที่ All-New Civic รุ่น EL และ EL+ จะเป็นมาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง Siri ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
Worth to Wait—ถ้ารักก็ต้องรอ!
สำหรับคนที่ชื่นชอบรถสไตล์แฮตช์แบ็ก Honda คอนเฟิร์มตัวถังนี้จะได้ไปต่อในตลาดอเมริกา โดยมีกำหนดเผยโฉมในช่วงปลายปี 2021 ส่วนบ้านเราต้องตามลุ้นว่า Honda จะตัดสินใจอย่างไรหลังจากนำ Civic Hatchback กลับมาขายในเจเนอเรชั่นปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้เปรี้ยงปร้างเท่าไรนัก
สมรรถนะเครื่องยนต์
- เครื่องยนต์ใน 2 รุ่นบนที่ขายในสหรัฐฯ จะเป็นขุมกำลังเทอร์โบชาร์จ 1.5 ลิตร (16-Valve DOHC VTEC In-Line 4-Cylinder with Turbocharger) จูนกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 180 แรงม้า (+6 แรงม้าจากรุ่นที่แล้ว) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แน่นอนว่าแรงบิดจะเพิ่มเป็น 240 นิวตันเมตรที่ 1,700-4,500 รอบต่อนาที พร้อมพัฒนาให้ทำงานร่วมกับระบบเกียร์ CVT ให้มีการตอบสนองที่ยอดเยี่ยม และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดีขึ้น
- สำหรับโฉมปัจจุบัน Civic 1.5 VTEC Turbo RS รีดกำลังออกมาได้ 173 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ถือว่าขับสนุก และให้ความเร้าใจแบบสปอร์ตมากพออยู่แล้ว การปรับเพิ่มกำลังขึ้นมาของเจเนอเรชั่นใหม่ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะเป็นธรรมดาที่ของใหม่จะต้องมีสมรรถนะเหนือกว่า รวมทั้งอัตราประหยัดน้ำมันที่พวกเขาบอกว่าดีขึ้นเยอะ
ข้อมูลล่าสุด! 2021 UPDATE: All-New Honda Civic เวอร์ชั่นประเทศไทย ทั้ง 3 รุ่นย่อย EL, EL+ และ RS จะใช้เครื่องยนต์1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO ใหม่ 4 สูบ 16 วาล์ว มาพร้อม Turbo Charger ที่อัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 240 นิวตัน-เมตรที่ 1,700-4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้อัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 17.2 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งยังรองรับพลังงานทางเลือก E85 พร้อมโหมดการขับขี่ที่เลือกได้ตามสไตล์ 3 โหมดคือ ECON Mode: โหมดการขับขี่แบบประหยัด, Normal Mode: โหมดการขับขี่แบบปกติ และ Sport Mode: โหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (เฉพาะรุ่น RS)
ระบบความปลอดภัย
- All-New Civic 11th Gen จะมาพร้อมระบบความปลอดภัย Honda Sensing ที่ล้ำสมัยขึ้นกว่าเจเนอเรชั่นที่แล้ว โดยเพิ่มกล้องจับภาพมุมกว้างด้านหน้าใหม่ ทำงานร่วมกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ (Traffic Jam Assist) และระบบเบรกอัตโนมัติในความเร็วต่ำ (Low Speed Braking Control) เวอร์ชั่นใหม่ การออกแบบถุงลมนิรภัยคู่หน้าใหม่เพื่อลดความรุนแรงของการบาดเจ็บทางสมอง และคอ หากเกิดอุบัติเหตุ โดยเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งถุงลมนิรภัยด้านข้างสำหรับผู้โดยสารด้านหลังอีกด้วย
- Civic 1.5 VTEC Turbo RS ถือว่าให้ระบบ Honda Sensing มาเพียงพอต่อการใช้งานปัจจุบัน ประกอบด้วยระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS), ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (RDM with LDW), ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (ACC with LSF)
ข้อมูลล่าสุด! 2021 UPDATE: All-New Honda Civic เวอร์ชั่นประเทศไทย ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการทำงานหลักๆ ดังนี้
• ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS) ระบบช่วยเตือนผู้ขับขี่ให้ลดความเร็วเมื่อมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน หรือคนเดินถนนที่อยู่ในระยะไม่ปลอดภัย และเมื่อมีความเสี่ยงต่อการชน ระบบจะช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนหรือลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
• ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
• ใหม่ ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยที่ครบครัน* อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor) กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera) ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ Auto Brake Hold ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารด้านหน้า พร้อมเตือนผู้โดยสารด้านหลัง (Front Passenger and Rear Seat Belt Reminder) และไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder) เป็นต้น
ราคาจำหน่าย
หากเทียบกับ Civic 10th Gen ในรุ่นใหม่จะตัดรุ่นล่างสุด E ออกไป ทำให้ EL กลายเป็นรุ่นเริ่มต้นของ Civic 2021 ในราคา 964,900 บาท (+5,900 บาทจาก EL รุ่นที่แล้วเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร) และรุ่นกลางปรับเป็น EL+ ราคาเกินล้านไปเล็กน้อย (1,009,900 บาท) และตัวท็อปจากรุ่นก่อนที่จะแบ่งเป็น 2 รุ่นย่อยขุมกำลัง 1.5 ลิตร แต่การที่พวกเขาตัดตัวเลือกเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรไปทำให้ RS เป็นตัวท็อปหนึ่งเดียวในราคา 1,199,900 บาท
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: Honda Media
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th