เจาะสเป็ค All-New Mazda CX-30, เทียบสัดส่วน CX-3 และ CX-5
สำรวจรายละเอียด All-New Mazda CX-30 ครอสส์โอเวอร์เอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Mazda ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย วันที่ 6 มีนาคม 2563 มาดูกันว่าทั้ง 3 รุ่นย่อย 2.0 C, 2.0 S และ 2.0 SP มีออปชั่นที่แตกต่างกันอย่างไร รวมถึงขนาดความแตกต่างจาก Mazda CX-3 และ CX-5 ที่ขายอยู่ก่อนหน้านี้
โฉบเฉี่ยว และทรงพลัง: แนวคิดรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นจากการออกแบบ KODO design
ตั้งแต่มีการเปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2553 การออกแบบภายใต้แนวคิด KODO – Soul of Motion ของมาสด้าเป็นแรงผลักดันในการเพิ่มมูลค่าแบรนด์ในระดับโลก และมาสด้า ได้ทำให้ปรัชญานี้ลึกซึ้งและซับซ้อนยิ่งขึ้นเพื่อยกระดับการออกแบบรถยนต์เป็นไปในระดับศิลปะชั้นสูง เป้าหมายสำหรับวิวัฒนาการของการออกแบบตามแนวคิด KODO นี้คือการแสดงออกถึงรูปแบบใหม่ของความสง่างามที่ได้รับแรงบันดาลใจและฝังอยู่ในสุนทรียศาสตร์แบบญี่ปุ่น เช่นเดียวกับรูปแบบแนวคิดของ Mazda Vision Coupe ที่เผยโฉมในปี 2560 ได้รวมเอาการออกแบบนี้ด้วยสไตล์การตกแต่งที่เรียบง่ายและเฉียบคม รูปทรงของตัวถังอันหรูหราสร้างการเล่นแสงและการสะท้อนแสงที่เปลี่ยนไปตลอดเวลาเพื่อสร้างสไตล์ที่เป็นธรรมชาติให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวา
CX-30 ได้รับการพัฒนาเพื่อสร้างการออกแบบใหม่ทั้งหมดสำหรับยนตรกรรมครอสโอเวอร์เอสยูวี บนฐานของแนวคิดการออกแบบ “โฉบเฉี่ยวและทรงพลัง” สัดส่วนของรถผสมผสานความแข็งแกร่งของเอสยูวีเข้ากับความงามอันพริ้วไหว โดดเด่นท่ามกลางรถคันอื่นในกลุ่ม พื้นผิวของตัวถังรถให้ความรู้สึกที่ประทับใจในทุกช่วงเวลา และห้องโดยสารที่ได้รับการออกแบบอย่างลงตัวนั้นถูกผสมผสานด้วยความรู้สึกสบายและบรรยากาศที่กว้างขวาง ทำให้ผู้โดยสารทุกคนเพลิดเพลินและผ่อนคลาย การออกแบบในทุกด้านช่วยเสริมบุคลิกที่น่าประทับใจของ CX-30 และกระตุ้นความรู้สึกของลูกค้าทุกครั้งที่เหลียวมองหรือสัมผัสรถ
ตารางเปรียบเทียบ Mazda CX-30: CX-3: CX-5
CX-30 | CX-3 (อ้างอิง) | CX-5 (อ้างอิง) | ||
ความยาวรวม | มิลลิเมตร | 4,395 | 4,275 | 4,550 |
ความกว้างรวม | มิลลิเมตร | 1,795 | 1,765 | 1,840 |
ความสูงรวม (ถึงหลังคารถ) | มิลลิเมตร | 1,540 | 1,535 | 1,680 |
ระยะฐานล้อ | มิลลิเมตร | 2,655 | 2,570 | 2,700 |
ระยะจากล้อหน้าถึงกันชนหน้า | มิลลิเมตร | 915 | 910 | 950 |
ระยะจากล้อหลังถึงกันชนหลัง | มิลลิเมตร | 825 | 795 | 900 |
ระยะต่ำสุดจากพื้น | มิลลิเมตร | 175 | 160 | 193 |
ระยะเหนือศีรษะด้านหน้า | มิลลิเมตร | 967 | 976 | 1,007 |
ระยะบริเวณไหล่ด้านหน้า | มิลลิเมตร | 1,412 | 1,360 | 1,451 |
ระยะบริเวณขาด้านหน้า | มิลลิเมตร | 1,058 | 1,058 | 1,041 |
ระยะเหนือศีรษะด้านหลัง | มิลลิเมตร | 973 | 944 | 991 |
ระยะบริเวณไหล่ด้านหลัง | มิลลิเมตร | 1,361 | 1,281 | 1,391 |
ระยะบริเวณขาด้านหลัง | มิลลิเมตร | 921 | 888 | 1,007 |
(คลิก) รายละเอียดข้อมูลรุ่นย่อย All-New Mazda CX-30
การออกแบบภายนอก
ด้วยความ “โฉบเฉี่ยวและทรงพลัง” อันเป็นแนวคิดการออกแบบของ CX-30 ผสมผสานองค์ประกอบที่แตกต่างกันได้อย่างลงตัว: ความงามอย่างพริ้วไหวของรถคูเป้และความแข็งแกร่งของเอสยูวี ตัวถังส่วนล่างตกแต่งด้วยสีดำเพื่อสร้างสัดส่วนคูเป้ที่โฉบเฉี่ยว แต่ในขณะเดียวกัน การตกแต่งก็ยังให้ความรู้สึกมั่นคงและทรงพลังในแบบรถเอสยูวี
การสื่อสารการออกแบบ “หนักแน่นและพริ้วไหว”
รูปแบบของรถถูกกำหนดโดยภาษาการออกแบบใหม่ “หนักแน่นและพริ้วไหว” การออกแบบนี้ได้มาจากพู่กันที่ใช้เขียนตัวอักษรญี่ปุ่นและพัฒนาขึ้นเพื่อผสมผสานปัจจัยสำคัญสามประการของการออกแบบตามแนวคิด KODO ที่พัฒนาขึ้นมา อันได้แก่ Yohaku ความงดงามของพื้นที่ว่าง Sori เส้นโค้งที่สมดุล และ Utsuroi การเล่นแสงและเงา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Sori ที่เห็นได้อย่างชัดเจนจากเส้นโค้งของเส้นสายที่วิ่งจากล้อหน้าไปยังล้อหลังทำให้รู้สึกถึงความเร็วและความมีชีวิตชีวา พื้นผิวของตัวถังสะท้อนเป็นรูปทรงตัวเอสที่เปลี่ยนแปลงไปตามการเคลื่อนที่ของรถซึ่งเป็นไปตาม Utsuroi รูปลักษณ์ของตัวถังเหล่านี้ในที่สุดก็มารวมกันที่ด้านหลังและกระจายไป โดยเส้นที่เป็นเอกลักษณ์จางหายไปเมื่อพื้นผิวเคลื่อนที่ การออกแบบ CX-30 ได้ทั้งความงามของงานศิลปะและความรู้สึกอันทรงพลังของการเคลื่อนไหว
การออกแบบด้านหน้า
การออกแบบด้านหน้าบ่งบอกถึงบุคลิกที่โดดเด่นและสง่างาม ซิกเนเจอร์วิงที่เป็นเอกลักษณ์ของมาสด้านั้นอยู่ในรูปแบบที่คมชัดและลึกกว่าเดิมซึ่งรวมเข้ากับรูปทรงที่มั่นคงของกันชนหน้า เพื่อให้ได้หน้ารถที่มีลักษณะพุ่งไปข้างหน้า ขนาดและรูปแบบของลวดลายสามเหลี่ยมของกระจังหน้าถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อแสดงถึงรูปแบบที่หลากหลายตามมุมมองและแสงที่ตกกระทบ
การออกแบบด้านท้ายรถ
ซุ้มล้อด้านหลังยื่นเด่นออกมาจากห้องโดยสาร รวมกับรูปทรงโค้งของประตูท้ายเพื่อสร้างภาพด้านหลังที่มีเสน่ห์และน่าดึงดูดใจ ด้วยความเหมือนรถสปอร์ตที่ดูกว้างและการเคลื่อนไหว ที่แสดงออกถึงความดึงดูดทางอารมณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ KODO ดีไซน์อย่างชัดเจน
การออกแบบโคมไฟ
โคมไฟหน้าและโคมไฟท้ายได้รับการออกแบบให้มีความโฉบเฉี่ยวมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การออกแบบได้ผสมผสานความงามทางศิลปะเข้ากับรูปลักษณ์เชิงกลที่โดดเด่นและรูปทรงกระบอกอันประณีตของแสงรูปวงแหวนจะเห็นเด่นชัดในตอนกลางคืน
สัญญาณไฟเลี้ยว
หลังจากปรับแสงให้สว่างเต็มที่ในทันที ไฟเลี้ยวแอลอีดีที่พัฒนาขึ้นใหม่ของมาสด้าจะค่อยๆ หรี่ความสว่างลง จังหวะการกระพริบและความนวลที่ถ่ายทอดออกมาเป็นจังหวะนี้จะช่วยส่งเสริมเอกลักษณ์ความมีชีวิตชีวาในแบบฉบับของมาสด้า มาสด้าเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกของโลกที่ตระหนักถึงเอกลักษณ์ของสัญญาณไฟเลี้ยวของรถประเภทนี้โดยใช้การควบคุมการหรี่แสง เพื่อสร้างความรู้สึกพึงพอใจของความเป็นหนึ่งเดียวของระบบโดยรวม สัญญาณไฟเลี้ยวในแผงหน้าปัดและเสียงการทำงานถูกตั้งค่าให้สอดคล้องกับจังหวะของสัญญาณเลี้ยว
การออกแบบล้ออัลลอยด์
CX-30 มีให้เลือกทั้งล้ออลูมิเนียมอัลลอยด์ ขนาด 18 นิ้ว และ 16 นิ้ว ซึ่งทั้งสองขนาดนี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแรง ใกล้กึ่งกลางล้อโดยมีก้านล้อที่ยื่นออกไปสู่ขอบล้ออย่างสง่างาม การออกแบบนี้สร้างภาพลักษณ์โดยรวมของการรองรับตัวรถได้เป็นอย่างดี ลักษณะการออกแบบเฉพาะสำหรับล้อขนาด 18 นิ้ว นั้นดึงดูดความสนใจด้วยก้านล้อที่ทำขึ้นเพื่อแสดงออกถึงการเคลื่อนไหวได้อย่างโดดเด่น และน็อตล้อทรงกระบอก สีล้อ Silver Metallic ถ่ายทอดความรู้สึกที่โดดเด่นถึงคุณภาพสูง ลักษณะการออกแบบก้านล้อสำหรับล้อขนาด 16 นิ้วนี้ ทำให้ล้อดูเหมือนมีขนาดใหญ่ขึ้น และการใช้สีล้อโทนเข้มแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่ตราตรึงเมื่อผนวกเข้ากันกับยาง
สีตัวถังภายนอก
สีของตัวถังมีให้เลือก 7 สี ได้แก่ Soul Red Crystal, Machine Gray และสี Poly Metal Gray ที่พัฒนาขึ้นใหม่สำหรับ Mazda3 พร้อมกับ Snowflake White Pearl, Jet Black, Deep Crystal Blue และ Sonic Silver
ราคาจำหน่าย ALL-NEW MAZDA CX-30
• ALL-NEW MAZDA CX-30 รุ่น 2.0 C ราคา 989,000 บาท
• ALL-NEW MAZDA CX-30 รุ่น 2.0 S ราคา 1,099,000 บาท
• ALL-NEW MAZDA CX-30 รุ่น 2.0 SP ราคา 1,199,000 บาท
การออกแบบภายใน
การออกแบบห้องโดยสารของ CX-30 นั้นมาจากปรัชญาการออกแบบของมาสด้าที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลางและจากสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมโดยใช้ Ma หรือพื้นที่ว่าง การจัดวางพื้นฐานเป็นวงกลมรอบพื้นที่สองส่วนด้วยลักษณะที่แตกต่าง ได้แก่ บริเวณพื้นที่อบอุ่นสบายและกะทัดรัดสำหรับผู้ขับขี่ และบริเวณพื้นที่โล่งโปร่งสบายโดยรอบผู้โดยสารด้านหน้า สอดคล้องกับแนวคิดการออกแบบโดยรวมของ “โฉบเฉี่ยวและทรงพลัง” การตกแต่งภายในของ CX-30 ทำให้ได้ทั้งความสง่างามและความสวยงาม ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับความทรงพลังและอเนกประสงค์ตามแนวคิดการออกแบบของรถเอสยูวี นอกจากนี้ ยังใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่การเลือกสรรวัสดุไปจนถึงความประณีตของการประกอบและการตกแต่ง เพื่อสร้างพื้นที่ภายในที่มีคุณภาพสูงสุดอย่างแท้จริง
การออกแบบบริเวณพื้นที่คนขับ
บริเวณที่นั่งคนขับนั้นมีความสมมาตรและมีศูนย์กลางอยู่ที่คนขับ มาตรวัดทั้งสามบนหน้าปัด และจอแสดงผลส่วนกลางทำมุมเอียงอย่างถูกต้องไปยังตำแหน่งการขับขี่ ทำให้ผู้ขับขี่สัมผัสได้ถึงความเป็นหนึ่งเดียวกับรถและควบคุมรถได้ง่าย
แผงคอนโซลหน้าแผ่กว้างและบริเวณผู้โดยสารด้านหน้า
แผงคอนโซลหน้าแผ่กว้างทอดยาวจากแผงหน้าปัดไปจรดขอบประตูด้านผู้โดยสาร ทำให้เกิดส่วนโค้งอันสวยงามที่ทอดยาวในห้องโดยสาร สิ่งนี้สร้างบรรยากาศที่ปลอดโปร่งซึ่งแตกต่างจากความรู้สึกของบริเวณคนขับ ในขณะเดียวกันก็สร้างความประทับใจของความโปร่งและสะดวกสบายที่ผ่อนคลาย วิธีการออกแบบที่โอบล้อมของที่นั่งด้านหน้าก็ยังเพิ่มความรู้สึกมั่นใจ การเย็บตามขอบของแผงคอนโซลหน้า และตกแต่งด้วยสีเงินโครเมียมก็ยังช่วยเพิ่มลักษณะของความมีคุณภาพของการตกแต่งภายในรถ
คอนโซลกลาง
คอนโซลกลางที่กว้างทำให้สามารถจัดวางตำแหน่งคันเกียร์ ที่วางแก้ว และปุ่มควบคุมอัจริยะ ให้ค่อนไปด้านหน้า ให้ “พื้นที่ควบคุม” ใกล้กับผู้ขับขี่เพื่อการใช้งานที่สะดวก ในขณะที่บริเวณที่พักหัวเข่ามีความโค้งเล็กน้อยและตำแหน่งที่พักแขนวางค่อนไปด้านหลังเพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและแตกต่าง
แผงคันเกียร์
แผงคันเกียร์ใช้เทคโนโลยีการขึ้นรูปสองชั้นของมาสด้าที่ได้พัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกสำหรับ Mazda3 ใหม่ แสงที่กระทบกับแผงสีเทาเข้มของชั้นบน เผยให้เห็นลวดลายโลหะที่ฝังอยู่ในชั้นฐานด้านล่าง และการสะท้อนที่ปรากฏออกมานั้นจะเปลี่ยนไปเมื่อแสงเคลื่อนผ่าน เพื่อเน้นบรรยากาศของ CX-30 ที่ให้รายละเอียดและคุณลักษณะชั้นสูง
สีภายใน
มีการออกแบบโทนสีภายในที่โดดเด่นเพื่อตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตและความพึงพอใจ สีภายในตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลเข้มสอดคล้องกับรสนิยมที่ทันสมัยและภูมิฐาน
ภายในโทนสีน้ำตาลเข้ม
โทนสีน้ำตาลเข้มนั้นได้จากเบาะหนังสีดำที่มีรูเล็กๆ ส่วนสีน้ำตาลด้านในเพื่อเสริมบรรยากาศภายห้องโดยสารให้ดูดียิ่งขึ้น
พื้นที่ภายใน
เพิ่มนวัตกรรมภายในพื้นที่ในห้องโดยสาร ประสบการณ์ความสนุกเพิ่มมากขึ้น ตามปรัชญาการพัฒนาที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง มาสด้ามีเป้าหมายที่จะทำให้ CX-30 มาพร้อมความสามารถรอบด้านที่เพิ่มขึ้นในฐานะครอสโอเวอร์เอสยูวี พื้นที่ภายในห้องโดยสารนี้ทำให้ผู้โดยสารทุกคนรู้สึกสบายและผ่อนคลายแม้ขับขี่เป็นระยะทางไกลๆ ในขณะที่พื้นที่เก็บสัมภาระมีการปรับปรุงให้มีพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้มากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการทุกรูปแบบของการใช้ชีวิต สภาพแวดล้อมของผู้ขับขี่นั้นมีการพัฒนาโดยการใช้ความรู้และเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด ที่ได้มาจากการวิจัยพัฒนาตำแหน่งการขับขี่และการสื่อสารระหว่างคนกับรถ (Human-Machine Interface, HMI) ส่วนต่างๆ ของพื้นที่ภายในได้รับการออกแบบทางวิศวกรรม เพื่อรองรับรูปแบบการใช้ชีวิตที่หลากหลายยิ่งขึ้นและให้ประสบการณ์การใช้งานที่คุ้มค่าแก่ลูกค้า
ขนาดมิติภายนอกและภายใน
ขนาดตัวถังที่ให้ความคล่องตัว การควบคุมรถที่ง่ายและเหมาะสมกับครอสโอเวอร์เอสยูวีใหม่จากมาสด้า เป้าหมายในการออกแบบ CX-30 คือให้ได้ความยาวโดยรวมอยู่ที่ 4,400 มิลลิเมตร หรือน้อยกว่า ผลที่ได้คือขนาดตัวถังที่ให้การควบคุมรถท่ามกลางการจราจรที่แออัดในเมืองเป็นเรื่องง่าย โดยฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขับรถบนถนนที่แคบหรือเมื่อต้องจอดรถขนานกับฟุตบาท
ห้องโดยสารที่ให้ความสะดวกสบายสำหรับผู้ใหญ่สี่คน
ระยะห่างระหว่างเบาะนั่งคู่หน้าที่มากถึง 740 มิลลิเมตร ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับ CX-5 เมื่อผสมผสานกับบริเวณคอนโซลกลางที่กว้างและที่พักแขนบริเวณประตู ทำให้ได้เบาะนั่งที่ให้ความสบายและผ่อนคลาย ระยะที่เพิ่มขึ้นระหว่างตำแหน่งสะโพกของเบาะนั่งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้พื้นที่ผู้โดยสารด้านหลังมีพื้นที่บริเวณขากว้างมากขึ้น ตลอดจนพื้นและจุดสะโพกที่ต่ำทำให้ที่นั่งด้านหลังสะดวกสบายแม้ผู้โดยสารจะตัวสูง การปรับตำแหน่งที่นั่งให้เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้โดยสารในห้องโดยสารทุกคน คำนึงถึงการจัดวางตำแหน่งที่ทำให้ทุกคนเห็นใบหน้าของกันและกันได้ง่าย การออกแบบใหม่ทำให้มีพื้นที่ ที่สะดวกสบายเป็นอย่างมากสำหรับผู้โดยสารแต่ละคน ในขณะเดียวกันก็เป็นการส่งเสริมการสนทนาได้ทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร
การเข้าและออกจากรถ
การออกแบบเพื่อให้มีระยะต่ำสุดจากพื้นมากขึ้นสำหรับรถครอสโอเวอร์เอสยูวี ระยะความสูงจากพื้นและจุดสะโพกของแต่ละที่นั่งได้มีการปรับให้เหมาะสมเช่นกัน ซึ่งทำให้ผู้โดยสารที่มีสรีระที่แตกต่างกันสามารถเข้าและออกจากที่นั่งด้านหน้าและด้านหลังได้โดยง่าย นอกจากนี้แผงประตู เสาบี และรูปทรงของเบาะนั่งได้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเคลื่อนตัวกรณีเข้าและออกจากห้องโดยสาร สิ่งนี้ทำให้ทางเข้าดูกว้างขึ้นทันทีที่เปิดประตูออกและช่วยเพิ่มความง่ายในการเข้าและออกจากรถ
พื้นที่เก็บสัมภาระ
ความจุขนาดใหญ่และพื้นที่เปิดกว้างเพิ่มความง่ายในการใช้งาน ความจุสัมภาระขนาด 317 ลิตร (VDA) ขนาดกว้างพอที่จะรองรับรถเข็นเด็กและกระเป๋าเพิ่มอีกหนึ่งใบ เช่น กระเป๋าเดินทางที่สามารถถือขึ้นเครื่องบิน เป็นต้น ในขณะที่ประตูท้ายที่มีขนาดกว้าง 1,020 มิลลิเมตร ทำให้มีพื้นที่เก็บสัมภาระและใช้งานได้ง่ายในทุกสถานการณ์ นอกจากนี้ การวิจัยตามหลักสรีรศาสตร์ (Ergonomic) พบว่า การออกแบบที่ให้ความสูงของขอบห้องสัมภาระท้ายต่ำในระดับ 731 มิลลิเมตรจากพื้น จะช่วยลดการออกแรงทางกายภาพในขณะที่ขนถ่ายสินค้าที่หนักหรือกระเป๋าเดินทาง
ความน่าดึงดูดของรูปลักษณ์ที่ดูเรียบง่ายและประณีต
บริเวณที่เก็บสัมภาระของ CX-30 ใช้วัสดุแบบไม่มีการถักทอที่ขอบด้านข้างและพื้น ในขณะเดียวกันก็ใช้โครงสร้างผนังแบบเรียบง่าย สิ่งนี้ช่วยป้องกันไม่ให้กระเป๋าสัมภาระถูกขีดข่วนและสร้างภาพลักษณ์ที่แสดงออกถึงความกว้างและคุณภาพที่ดี
ประตูท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
ประตูท้ายระบบไฟฟ้าช่วยให้สามารถเปิดและปิดได้ด้วยการสัมผัสเพียงครั้งเดียว CX-30 ใช้ชิ้นส่วนที่ทำจาก เรซิ่นสำหรับโครงสร้างและกลไกของชุดแดมเปอร์ที่เปิดและปิดประตูท้าย ซึ่งรถมาสด้ารุ่นก่อนหน้านี้ใช้โครงและกลไกที่เป็นโลหะ การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยจะลดเสียงรบกวนที่เกิดจากการทำงานของระบบซึ่งรบกวนผู้โดยสารในห้องโดยสาร การเคลื่อนที่อันราบรื่นและการทำงานที่เงียบจะทำให้ได้ผู้โดยสารได้รับความสบายมากยิ่งขึ้น
ตำแหน่งการขับขี่
สามารถปรับตำแหน่งได้ พวงมาลัยที่สามารถปรับสูงต่ำได้ถึง 45 มิลลิเมตร และมีช่วงยืดเข้า-ออก มากถึง 70 มิลลิเมตร ช่วยให้สามารถปรับตำแหน่งการขับขี่ได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ เบาะนั่งด้านหน้าที่สามารถปรับระดับความเอียงได้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อช่วยรองรับต้นขาของผู้ขับขี่ได้อย่างเหมาะสม ด้วยเหตุนี้จึงช่วยให้กระดูกเชิงกรานอยู่ในตำแหน่งตั้งตรงเพื่อรักษาตำแหน่งที่นั่งในอุดมคติของมาสด้า
การจัดวางคอนโซลกลาง
ตำแหน่งที่วางแก้วของ CX-30 ที่อยู่หน้าคันเกียร์ เมื่อใช้ร่วมกับคันเกียร์และปุ่มควบคุมอัจริยะถูกวางในตำแหน่งค่อนไปทางด้านหน้า ซึ่งสามารถทำให้ผู้ขับขี่สามรถใช้งานโดยที่แขนอยู่ในท่าที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น และจะช่วยให้สามารรถขยับมือระหว่างพวงมาลัยกับคันเกียร์ได้ง่ายขึ้น รูปแบบการจัดวางนี้ยังช่วยให้ผู้ขับขี่ที่มีขนาดตัวเล็กไม่รู้สึกอึดอัดเมื่อเลื่อนเบาะนั่งไปข้างหน้า CX-30 มีขนาดที่พักแขนที่ยาวเพียงพอ ทำให้แขนของคนขับวางได้มั่นคงมากขึ้นเมื่อใช้งานปุ่มควบคุมอัจริยะ
การสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และอุปกรณ์
จอแสดงผล TFT LCD ขนาด 7 นิ้วที่อยู่ตรงกลางของแผงหน้าปัดแสดงข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบและชัดเจนตรงไปตรงมาซึ่งช่วยให้จดจำได้ง่าย มาตรวัดทั้งทางด้านซ้ายและขวาหันหน้าไปทางคนขับและมาตรวัดอยู่ในแนวตั้งกับหน้าจอแสดงผลการขับขี่ (Active Driving Display) เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ง่ายเพียงแค่ยกหรือลดระดับสายตา รูปแบบการจัดวางสร้างความประทับใจและสามารถเชื่อมต่อระหว่างรถและผู้ขับขี่ ให้ความมั่นใจผ่อนคลายและช่วยให้มีสมาธิในการขับขี่
การแสดงผล Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว
CX-30 ใช้จอแสดงผล Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว แบบอักษรที่ใช้นั้นเป็นแบบเดียวกันกับที่ใช้ในหน้าจอแสดงผลการขับขี่และมาตรวัดเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่น่าพึงพอใจและสอดคล้องกัน การควบคุมข้อมูลที่จอแสดงผล Center Display ทำได้โดยใช้ปุ่มควบคุมอัจริยะและระบบแสดงตัวอย่างเมนูที่ใช้งานง่าย สอดคล้องกับข้อมูลที่แสดงบนจอแสดงผล ซึ่งถูกควบคุมโดยการใช้ปุ่มควบคุมอัจริยะ ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน
การแจ้งเตือน
มาสด้าออกแบบระบบการแจ้งเตือน เพื่อสื่อสารข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์ได้อย่างเรียบง่ายและถูกต้อง เป็นส่วนหนึ่งที่ทำได้โดยการแบ่งหน้าที่ออกจากกัน เป็นการแจ้งเตือนด้วยเสียงและการแสดงด้วยคำเตือน เสียงที่ถูกใช้เพื่อเป็นแนวทางในการรับรู้ของผู้ขับขี่หรือเป็นการถ่ายทอดระดับความเร่งด่วน ในขณะที่จอแสดงผลอธิบายถึงสถานการณ์และวิธีการแก้ไขปัญหา ตัวอย่างเช่น การแจ้งเตือนด้วยเสียงจากลำโพงด้านหน้าหรือด้านหลังและจอแสดงผลนั้นมีการใช้คำอธิบายเพื่อให้ผู้ขับขี่ทุกคนเข้าใจได้ง่าย โดยมีเป้าหมายคือ เพื่อให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงความปลอดภัยและความมั่นใจได้ในทันที
สวิตช์ที่ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานที่สุด
มาสด้าใช้ผลการวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับมนุษย์ รวมถึงหลักการทางวิศวกรรมของ Kansei เพื่อให้ผู้ขับขี่มีความสุขในการขับขี่และสามารถรู้สึกได้แม้ในการใช้งานสวิตช์และการควบคุมต่างๆ ความพยายามนี้ ได้ถูกถ่ายทอดมาตั้งแต่การสร้างสวิตช์ทั้งหมดอย่างประณีตเพื่อให้เกิดความรู้สึกที่สอดคล้องไม่ว่าจะถูกกด ดึง โยกสลับ หรือหมุน
สวิตช์บนพวงมาลัย
รูปแบบการจัดวางสวิตช์บนพวงมาลัยของ CX-30 เป็นการผสมผสานระหว่างสวิตช์แบบโยกสลับและสวิตช์แบบกด การใช้งานสวิตช์สามารถกำหนดด้วยความรู้สึกและการเชื่อมโยงทิศทางการทำงานและฟังก์ชันสำหรับการโยกสลับแต่ละครั้ง ซึ่งทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น
ทัศนวิสัยและมุมมอง
การลดจุดบอดจากทางด้านซ้ายและด้านขวาผ่านกระจกหน้ารถ CX-30 มีตำแหน่งที่นั่งค่อนข้างสูง เพื่อให้ได้ระดับสายตาที่เหมาะสม โดยมาสด้าได้ทำการวิจัยตามหลักการ สรีรศาสตร์ทำให้ได้มุมมองที่ชัดเจนและไม่มีสิ่งกีดขวาง ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่สามารถโฟกัสไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจแม้ขณะขับขี่บนถนนในเมืองที่มีผู้คนหนาแน่น ความหนาและรูปร่างของเสาเอถูกปรับให้เหมาะสมตามการศึกษาลักษณะของมนุษย์ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถรักษามุมมองต่อสิ่งที่มองได้อย่างต่อเนื่อง ผู้ขับขี่ยังสามารถมองด้วยตาซ้ายหรือขวาแม้ว่าทัศนวิสัยจะถูกกีดขวางชั่วขณะก็ตาม การออกแบบเสาเอช่วยลดจุดบอดด้านหน้าซ้ายและขวา และช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นคนเดินถนนหรือสิ่งกีดขวางที่อาจเกิดขึ้นได้ง่ายในมุมมองของผู้ขับขี่ขณะที่ยังคงรักษาท่าทางการขับขี่ที่เป็นธรรมชาติ
การรับรู้ระยะทางและความเร็ว ถูกออกแบบให้ง่ายขึ้นสำหรับผู้ขับขี่
CX-30 มีการออกแบบบริเวณคนขับโดยคำนึงถึงจิตใต้สำนึกของผู้คนที่มีความสามารถในการกะระยะทางและความเร็วที่ชัดเจน เส้นจากแผงหน้าปัดทอดยาวออกไปถึงจุดที่เส้นถนนบรรจบกันเพื่อเพิ่มพื้นที่การรับรู้ให้กับผู้ขับขี่ การออกแบบโดยรวมทำให้ CX-30 ง่ายต่อการขับขี่ และช่วยให้ผู้ขับขี่กะระยะทางและความเร็วสัมพัทธ์ได้ดีขึ้น
ทัศนวิสัยด้านหลังทำให้มั่นใจมากขึ้นเมื่อเปลี่ยนเลน
เสาซีมีรูปทรงเพื่อให้มองเห็นภายนอกได้ชัดเจนที่สุดผ่านหน้าต่างด้านหลังที่เสาซี หน้าต่างที่ประตูด้านหลังและหน้าต่างที่เสาซี ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นยานพาหนะที่อยู่ในแนวทแยงมุมด้านหลังรถได้ง่ายเมื่อมองผ่านเหนือหัวไหล่ของผู้ขับขี่ให้ความอุ่นใจเมื่อเปลี่ยนเลน
ที่ปัดน้ำฝนหน้าถูกออกแบบให้รักษาทัศนวิสัยได้อย่างรวดเร็ว
ระบบควบคุมความเร็วการทำงานของที่ปัดน้ำฝนได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อเพิ่มสมรรถนะการทำความสะอาดให้สูงสุด ช่วยให้ที่ปัดน้ำฝนสามารถรีดน้ำได้เรียบอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งช่วยรักษาอัตราการหักเหของแสงและทำให้มองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ที่ปัดน้ำฝนยังใช้รูปแบบการควบคุมที่เพิ่มมุมการทำงานของใบปัดน้ำได้กว้างมากขึ้น ทำให้เกิดความสะอาดจนถึงเสาเอและรักษาทัศนวิสัยบริเวณเสาเอด้านผู้ขับขี่ ใบปัดน้ำฝนที่อยู่ใต้ฝากระโปรงช่วยให้การมองเห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้นผ่านกระจกหน้ารถ นอกจากนี้ หัวฉีดน้ำล้างกระจกถูกติดตั้งบนก้านปัดน้ำฝนเพื่อให้สามารถเช็ดน้ำออกได้ทันทีหลังการใช้งาน และไม่รบกวนการมองเห็น คุณสมบัติการออกแบบเหล่านี้รวมกันเพื่อให้ผู้ขับขี่มีความมั่นใจมากขึ้นด้วยการนำเสนอมุมมองที่ชัดเจนยิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
Mazda Connect
การใช้งานสมาร์ทโฟน อินเทอร์เน็ต และการเชื่อมต่อการสื่อสาร ทำให้ทุกคนที่อยู่ในรถยนต์มีข้อมูลมากขึ้น Mazda Connect มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย และเติมพลังชีวิตด้วยประสบการณ์ใหม่ๆ ช่วยให้การขับขี่ในขณะที่มีการเชื่อมต่ออยู่นั้นเป็นไปได้ง่าย
CX-30 ใช้ระบบ Mazda Connect รุ่นเดียวกับ Mazda3 ใหม่ การปรับปรุงสมรรถนะการทำงานขั้นพื้นฐานทำให้ระบบทำงานได้เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้า ในขณะเดียวกัน คุณภาพของภาพและเสียงได้รับการปรับปรุงโดยการแปลงสัญญาณทั้งหมดให้ส่งผ่านด้วยระบบดิจิทัล ระบบเชื่อมต่อระหว่างผู้โดยสารกับอุปกรณ์ที่ทันสมัย ทำให้การดำเนินงานพื้นฐานสอดคล้องกันในทุกเมนู เมื่อหมุนปุ่มควบคุมอัจริยะเพื่อเลื่อนเมนูและกดเพื่อเลือก โดยสอดคล้องกับเมนูที่มีรูปแบบการจัดวางในแนวตั้ง
ระบบเสียง
Mazda Harmonic Acoustics – ระบบเสียงใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้ตรงกับลักษณะการได้ยินของมนุษย์ ออกแบบมาเพื่อควบคุมลักษณะของเสียงสามประการ ได้แก่ “ระดับเสียง” “การเปลี่ยนแปลงตามเวลา” และ “ทิศทางต้นกำเนิดเสียง” อย่างเหมาะสม ห้องโดยสารของ CX-30 ลดเสียงรบกวนและรักษาความเงียบได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งช่วยให้เสียงที่จำเป็นเท่านั้นเข้าถึงหูได้อย่างเป็นธรรมชาติและเป็นที่น่าพอใจ ผ่านการยกระดับศักยภาพของพื้นที่ช่วยให้ได้ยินเสียงอย่างเหมาะสม ทีมพัฒนาได้ทำการศึกษาว่าเสียงเดินทางมาถึงหูของผู้โดยสารอย่างไร รวมถึงการรับรู้ถึงเสียงเหล่านั้นอย่างไรเพื่อพัฒนาระบบเสียง ด้วยการจัดวางตำแหน่งลำโพงให้สอดคล้องกับคุณลักษณะการได้ยินของมนุษย์ ความพยายามเหล่านี้ทำให้เกิดระบบเสียง Mazda Harmonic Acoustics ใหม่
ลำโพงที่ให้เสียงเบสตั้งอยู่ที่มุมด้านหน้าของห้องโดยสารซึ่งสามารถให้เสียงต่ำได้ดีขึ้น ลำโพงเสียงกลางและลำโพงเสียงแหลมจะอยู่ในตำแหน่งส่วนบนทั้งด้านซ้ายและขวาของแผงประตูหน้าและประตูหลัง ซึ่งเสียงจะถูกส่งไปยังหูของผู้ขับขี่โดยตรงโดยไม่สะท้อนจากกระจกหน้ารถ ดังนั้น การจัดวางลำโพง 8 ตัว โดยมีลำโพงเสียงต่ำขนาด 3 ลิตร ที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านข้างของคอนโซลหน้า ลำโพงเสียงแหลมขนาด 2.5 เซนติเมตร ที่ด้านซ้ายและขวาของกระจกมองข้าง และลำโพงเสียงกลางขนาด 8 เซนติเมตร ที่ส่วนบนของแผงประตูหน้าและหลัง หลังจากปรับรูปแบบการจัดวางลำโพงที่สมบูรณ์แบบแล้ว ตัวขยายเสียงยังได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับพื้นที่ห้องโดยสารของ CX-30 มากที่สุด คุณสมบัติเหล่านี้ผสมผสานกับระดับของความเงียบสงบที่มีคุณภาพภายในห้องโดยสาร เพื่อมอบประสบการณ์เสียงที่ทรงพลังยิ่งขึ้นโดยมีจุดกำเนิดเสียงที่เหมาะสม เพิ่มความลึกและความชัดเจนของเสียงที่มากขึ้น
ระบบเสียงของ Bose® 12 ลำโพง
Mazda CX-30 ยังมาพร้อมกับระบบเสียงลำโพง 12 ตัว ที่พัฒนาร่วมกับ Bose Corporation ด้วยรูปแบบการจัดวางลำโพงพื้นฐานของระบบ Mazda Harmonic Acoustics ลำโพง 12 ตัวของระบบเสียง Bose®ประกอบด้วยลำโพงเสียงต่ำขนาด 3 ลิตร ที่ติดตั้งบริเวณด้านข้างของคอนโซลหน้า ลำโพงเสียงแหลมขนาด 2.5 เซนติเมตร ที่ด้านซ้ายและขวาของกระจกมองข้าง และลำโพงเสียงกลางขนาด 8 เซนติเมตร ในส่วนบนของแผงประตูหน้าและหลัง เพิ่มลำโพงกลาง 8 ซม.กลางคอนโซลหน้าด้านบน ลำโพงคู่หลังและซับวูฟเฟอร์ นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งเสียงได้เองเพื่อมอบเสียงเบสที่ทรงพลังและคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นในแบบของ Bose® นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้โดยสารในห้องโดยสารเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่นำเสนอด้วย Centrepoint®2 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเสียงของ Bose
สมรรถนะการขับขี่
ประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกเร้าใจและควบคุมง่ายดั่งใจ: สมรรถนะในการขับขี่แบบ Jinba-ittai ของมาสด้ายังพัฒนาต่อไปเพื่อมอบอิสระและความสุขในการขับขี่ที่มากขึ้น “Ultimate Jinba-ittai” – ความรู้สึกที่ว่ารถเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายผู้ขับขี่ ควบคุมได้อย่างแม่นยำโดยไม่ต้องไตร่ตรอง – เป็นเป้าหมายของมาสด้า มาสด้าได้เปิดตัว SKACTIV-Vehicle Architecture ซึ่งเป็นสกายแอคทีฟแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นใหม่ การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ซึ่งเป็นผลงานล่าสุดของแนวคิดการพัฒนาที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลางของมาสด้า ทำให้ CX-30 สามารถเปิดมิติใหม่ของความเพลิดเพลินในการขับขี่
ในขณะที่การควบคุมอย่างแม่นยำด้วยระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่น่าพึงพอใจและสร้างแรงบันดาลใจ นอกจากนี้ ห้องโดยสารยังมีความเงียบสงบผ่านการพัฒนาเรื่องการลดเสียงรบกวน การสั่นสะเทือน และความกระด้าง (Noise, Vibration and Harshness, NVH) ด้วยการศึกษาลักษณะประสาทสัมผัสของมนุษย์อย่างละเอียดถี่ถ้วน CX-30 ให้อิสระแก่ผู้ขับขี่ในการควบคุมรถตามความต้องการและในขณะเดียวกันก็ให้ผู้ขับขี่ทุกคนได้นั่งอย่างเพลิดเพลินและสบายมากขึ้น
ระบบขับเคลื่อน
เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.0 ลิตร
เครื่องยนต์ SKYACTIV-G 2.0 รุ่นล่าสุดของมาสด้ามีการพัฒนาท่อไอดีและรูปทรงของลูกสูบที่เหมาะสม ระบบการฉีดน้ำมัน วาล์วควบคุมน้ำหล่อเย็น เพื่อประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่สูงขึ้น ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
คุณลักษณะจำเพาะของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน
SKYACTIV-G 2.0 | |
ปริมาตรกระบอกสูบ | 1,998 ซีซี |
เส้นผ่าศูนย์กลางกระบอกสูบ x ระยะชัก | 83.5 มิลลิเมตร x 91.2 มิลลิเมตร |
อัตราส่วนการอัด | 13.0 : 1 |
กำลังสูงสุด | 121 กิโลวัตต์ (165 แรงม้า) ที่ 6,000 รอบต่อนาที |
แรงบิดสูงสุด | 213 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที |
การสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง | 15.4 กิโลเมตรต่อลิตร |
คุณลักษณะจำเพาะของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน
เทคโนโลยีแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นใหม่ : SKYACTIV-Vehicle Architecture มนุษย์มีความสามารถในการควบคุมขา กระดูกเชิงกราน และกระดูกสันหลัง ในลักษณะที่ทำให้ร่างกายมีความสมดุลและลดการเคลื่อนไหวของศีรษะเมื่อเดินหรือวิ่ง เพื่อเลียนแบบท่าทางการเดินอย่างเป็นธรรมชาติแม้ในขณะขับขี่ มาสด้าจึงพัฒนาโดยให้มนุษย์เป็นศูนย์กลาง โดยออกแบบให้เบาะนั่ง ตัวถัง และแชสซี ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย นำไปสู่จุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีแพลตฟอร์มเจเนอเรชั่นใหม่ SKYACTIV-Vehicle Architecture ด้วยเป้าหมายคือ เพื่อให้คนมีท่านั่งที่เป็นธรรมชาติและรู้สึกสบายขณะขับขี่ CX-30 ตระหนักถึงความลงตัวของการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสของมนุษย์ในแง่ของความสบายในการขับขี่ และการรักษาสมดุลของร่างกายโดยปราศจากความกังวลใดๆ
เบาะนั่งช่วยรักษาท่านั่งที่เป็นธรรมชาติ
เบาะนั่งมีโครงสร้างพื้นฐานที่ออกแบบมาเพื่อรักษาแนวของกระดูกสันหลังให้เป็นรูปตัว S ตามธรรมชาติ เบาะรองนั่งและพนักพิงหลังส่วนล่างรองรับกระดูกเชิงกรานส่วนล่าง กระดูกเชิงกรานส่วนบน และต้นขา เพื่อให้กระดูกเชิงกรานอยู่ในตำแหน่งตั้งตรง ในขณะเดียวกันพนักพิงหลังส่วนบนยังช่วยรองรับจุดศูนย์ถ่วงของกระดูกซี่โครง ยิ่งไปกว่านั้นการปรับรูปทรงเบาะนั่งและพนักพิงหลังพร้อมการปรับค่าของสปริงในแต่ละส่วนให้เหมาะสม ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถขยับกระดูกเชิงกรานและกระดูกสันหลังเพื่อปรับสมดุลของจุดศูนย์ถ่วงร่างกายโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนักเหมือนกับขณะเดิน นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาสมดุลของศีรษะได้ตามธรรมชาติเพื่อตอบสนองต่อแรงที่ส่งมาจากพื้นถนน
ระบบช่วงล่างที่ส่งผ่านการสั่นสะเทือนจากถนนได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ตามแนวคิดของการส่งผ่านแรงที่ราบรื่นไปยังน้ำหนักที่อยู่เหนือสปริง (Sprung mass) ระบบรองรับของ CX-30 ใช้แม็คเฟอร์สันสตรัท (MacPherson Struts) ด้านหน้า และใช้แบบกึ่งอิสระทอร์ชั่นบีม (Torsion beam) ที่ด้านหลัง ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกใน Mazda3 ใหม่ ได้ใช้บุชลูกยางที่มีโครงสร้างภายในเป็นทรงกลมและแกนกลางที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางแตกต่างกันไปจากกึ่งกลางไปจนถึงหน้าตัดด้านนอก นอกจากนี้มุมของ ปีกนกล่างและความสูงของจุดศูนย์กลางของโครงถูกปรับให้เหมาะสมกับความสูงของรถ การสร้างระบบรองรับที่ให้การตอบสนองอย่างรวดเร็วและแม่นยำส่งผ่านการสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนน เพิ่มความรู้สึกของการตอบสนองโดยตรงถึงผู้ขับขี่ เป็นผลให้คนขับมีสมดุลในการควบคุม และให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ
ตัวถังดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
CX-30 ยังเพิ่มความแข็งแรงและประสิทธิภาพการถ่ายโอนพลังงานตามแนวคิดดั้งเดิมของมาสด้าบนฐานของเฟรมที่ถูกเสริมด้วยโครงสร้างแบบวงแหวนที่ต่อเนื่อง มีการเพิ่มการเชื่อมต่อแบบใหม่จากด้านหน้าไปด้านหลังในตำแหน่งต่างๆ เช่น จุดยึดแดมเปอร์ด้านหน้าและด้านหลังซึ่งเสริมการเชื่อมต่อแนวตั้งและด้านข้างของตัวถังของรถรุ่นก่อนหน้า เพื่อสร้างโครงสร้างวงแหวนแบบหลายทิศทางที่เพิ่มความแข็งแรงและลดการหน่วงของแรงที่ส่งผ่านเข้ามา สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มการทำงานของแดมเปอร์และยาง โดยมุ่งเน้นที่การรับแรงที่มาจากพื้นผิวถนนในสภาพต่างๆ และใช้โครงสร้างตัวถังทำหน้าที่เป็นวัสดุตัวกลางในการดูดซับแรงสั่นสะเทือน ซึ่งตัวถังจะลดการสั่นสะเทือนที่อาจทำให้เกิดเสียงรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่ได้ทำให้น้ำหนักของรถเพิ่มขึ้น
สมรรถนะการเบรก
สมรรถนะการเบรกในอุดมคติของมาสด้า คือการสร้างแรงเบรกเบาๆ ทันทีที่ผู้ขับขี่สัมผัสกับแป้นเบรกแล้วรักษาระดับความแรงให้คงที่ แรงเบรกควรลดลงอย่างนุ่มนวลเมื่อยกเท้าออกจากแป้นเบรกเพียงเล็กน้อย CX-30 ใช้การออกแบบคาลิปเปอร์เบรกแบบใหม่เพื่อให้แน่ใจว่ามีระยะห่างที่คงที่ระหว่างผ้าเบรกและจานเบรกตลอดเวลา หรือแม้หลังการเบรกอย่างแรง สิ่งนี้จะช่วยลดความต้านทานการหมุนและปรับปรุงการควบคุมเบรกได้อย่างมาก ทำให้ผู้โดยสารที่อยู่ในรถสามารถรักษาสมดุลและเพลิดเพลินกับประสบการณ์การขับขี่ที่สบายไร้ความกังวล
เทคโนโลยีควบคุมรุ่นใหม่ SKYACTIV-Vehicle Dynamics
ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus หรือ G-Vectoring Control Plus เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการเลี้ยวโดยการใช้เบรกเพื่อเพิ่มการควบคุมการหันเหของรถ นอกเหนือจากการควบคุมเครื่องยนต์แบบเดิมด้วย GVC เมื่อผู้ขับขี่ขับรถออกจากโค้งโดยคืนพวงมาลัยกลับไปที่ตำแหน่งกึ่งกลาง GVC Plus จะเพิ่มแรงเบรกเพียงเล็กน้อยที่ล้อหน้าด้านนอก ทำให้เกิดเสถียรภาพซึ่งจะช่วยให้รถกลับมาวิ่งตรงเหมือนเดิมได้ง่ายขึ้น ระบบสามารถรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องของการหันเห (yaw) การโคลงของตัวรถ (roll) และการกระดกหน้า-หลัง (pitch) แม้อยู่ภายใต้แรงเข้าสู่ศูนย์กลางที่มาก เป็นการเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวของรถจากการหมุนพวงมาลัยอย่างกะทันหัน และการออกจากโค้งที่แม่นยำ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวของรถในการหลบหลีกการชนปะทะแบบฉุกเฉิน GVC Plus ให้ความรู้สึกมั่นใจในการควบคุมรถเมื่อเปลี่ยนเลนบนทางหลวงและเมื่อขับบนหิมะหรือพื้นผิวถนนลื่นอื่นๆ
สมรรถนะเรื่องการลดเสียงรบกวน การสั่นสะเทือน และความกระด้าง (NVH)
มาสด้ามองว่าสมรรถนะเรื่องการลดเสียงรบกวน การสั่นสะเทือน และความกระด้าง (NVH) เป็นปัจจัยสำคัญในการขับขี่อย่างปลอดภัยและสบาย และได้พยายามอย่างเต็มที่ในการเพิ่มสมรรถนะในทุกส่วนของรถยนต์ที่สร้างขึ้น หนึ่งในความพยายามดังกล่าวคือการนำผลการศึกษาวิจัยกับมนุษย์มาใช้ โดยมุ่งเน้นไปที่ลักษณะของเสียง 3 ประการ ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้โดยสารในห้องโดยสาร ได้แก่ ระดับความดังของเสียง การเปลี่ยนแปลงคุณภาพเสียงเมื่อเวลาผ่านไป และทิศทางจากจุดกำเนิดเสียง นอกเหนือจากจุดประสงค์เพื่อลดเสียงรบกวนด้วยการลดเสียงที่ต้นกำเนิดของเสียงแล้ว เป้าหมายสำหรับ CX-30 คือการควบคุมการเปลี่ยนแปลงคุณภาพและทิศทางของเสียงหลังจากที่เสียงเข้าไปในห้องโดยสารเพื่อให้เกิด “ความเงียบในระดับสูง” เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความพึงพอใจ
มาตรการฉนวนกันเสียง
มาสด้า ปรับปรุงสมรรถนะของฉนวนโดยไม่เพิ่มน้ำหนักด้วยการใช้โครงสร้าง “ผนังสองชั้น” ที่เว้นช่องว่างระหว่างพรมปูพื้นและแผงตัวถังด้านล่าง และระหว่างแผงประตูกับแผงตกแต่งด้านใน นอกจากนี้ ปริมาณวัสดุไฟเบอร์ที่ด้านหลังของพรมปูพื้นถูกปรับให้เข้ากับตำแหน่งเฉพาะเพื่อให้ได้ความหนาแน่นที่เหมาะสมที่สุดทั่วทั้งพื้น มีความพยายามอย่างมากในการลดจำนวนรูให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เช่น พรม และแผงประตูบริเวณที่ติดตั้งลำโพง ซึ่งเป็นการช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของฉนวนกันเสียง
มาตรการลดเสียงลมสำหรับเบาะนั่งด้านหลัง
การใช้ซีลภายในตรงเส้นขอบประตูหลังช่วยลดเสียงรบกวนที่เกิดจากลมที่พัดผ่านช่องว่างได้เป็นอย่างดี มาตรการลดเสียงจากถนน CX-30 ใช้วัสดุบุด้านบนเพื่อดูดซับเสียงเหนือศีรษะและพรมปูพื้น เพื่อป้องกันเสียงความถี่สูงที่เกิดขึ้นเมื่อพื้นผิวถนนเปลี่ยนจากขรุขระเป็นเรียบ สามารถหยุดเสียงได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ปล่อยให้เกิดเสียงสะท้อนภายในห้องโดยสาร ช่วยป้องกันเสียงรบกวนผู้โดยสารภายในห้องโดยสาร ยางที่มีลักษณะเป็นสปริงในแนวดิ่งจะดูดซับการสั่นสะเทือนที่เกี่ยวข้องจากการเพิ่มระดับเสียงจากถนนเมื่อรถวิ่งจากพื้นผิวถนนเรียบเปลี่ยนไปเป็นขรุขระ นอกจากนี้ ได้เพิ่มความแข็งแรงของจุดต่างๆ ที่การสั่นสะเทือนอาจถูกส่งผ่านไปยังช่วงล่างและตัวถัง เพื่อป้องกันการสั่นสะเทือนเข้าสู่ห้องโดยสาร
ความปลอดภัย
สมรรถนะความปลอดภัยที่โดดเด่นสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดเพื่อช่วยสังคมให้ใช้รถยนต์โดยปราศจากอุบัติเหตุ ปรัชญาเรื่องความปลอดภัยเชิงป้องกันของมาสด้า (Mazda Proactive Safety) เป็นแนวทางในการวิจัยและพัฒนาของบริษัทในด้านสมรรถนะด้านความปลอดภัย ความล้ำหน้าของการขับขี่ในทุกด้านตั้งแต่พื้นฐานด้านความปลอดภัย เช่น ตำแหน่งท่านั่งในการขับขี่ เทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงปกป้องไปจนถึงเทคโนโลยี i-Activsense ที่ล้ำหน้า CX-30 ติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยมากมายที่เกิดจากความพยายามในการวิจัยเหล่านี้
ในส่วนของความปลอดภัยเชิงป้องกัน i-Activsense ของ CX-30 เช่น ความล้ำหน้าของเทคโนโลยีช่วยเบรกอัตโนมัติ ที่เพิ่มความสามารถในการตรวจจับรอบทิศทางที่มาสด้าได้นำมาใช้ การพัฒนาความปลอดภัยเชิงปกป้องมุ่งเน้นไปที่การศึกษาลักษณะของมนุษย์และรายละเอียดของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจริง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการชนและเพิ่มสมรรถนะการปกป้องคนเดินเท้า CX-30 พัฒนาต่อไปเพื่อให้ผู้ขับขี่ทุกคนได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกและปลอดภัย ช่วยสร้างสังคมใช้รถที่ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ
ความปลอดภัยเชิงป้องกัน: i-Activsense ใน CX-30
ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า (CTS) ช่วยลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่โดยช่วยควบคุมความเร็ว เบรก และการบังคับเลี้ยวเมื่อขับรถบนทางหลวงที่มีการจราจรหนาแน่น เมื่อเปิดใช้งาน CTS ระบบจะปรับความเร็วของรถโดยอัตโนมัติเพื่อรักษาระยะห่างที่เหมาะสมตามรถข้างหน้า นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมพวงมาลัยเพื่อให้ง่ายต่อการรักษาตำแหน่งรถให้อยู่ในเลนบนทางโค้ง CTS ช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น สร้างความมั่นใจและความสบายมากขึ้นในขณะขับรถในการจราจรหนาแน่น
ความปลอดภัยเชิงปกป้อง
ตัวถังที่มีน้ำหนักเบาและแข็งแกร่งสูงที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัย ประกอบด้วยเหล็กกล้า ทนแรงดึงสูง 980 เมกะพาสคาลหรือสูงกว่าประมาณ 30% และรวมถึงการใช้เหล็กกล้าระดับ 1,310 เมกะพาสคาลในบางพื้นที่อีกด้วย CX-30 จึงมีโครงสร้างที่แข็งแรงและมีน้ำหนักเบาเป็นอย่างมาก วัสดุคุณภาพสูงรวมกับคานแบบใหม่ที่กรอบตัวถัง โดยเฉพาะที่เสาบีที่ออกแบบใหม่มีทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักเบา และเฟรมด้านหลังให้ยุบตัวได้แบบเดียวกับลักษณะการยุบตัวของหีบเพลง (Accordion-style pattern) เพื่อสร้างตัวถังที่แข็งแกร่งสามารถทนต่อแรงกระแทกและโครงสร้างที่ดูดซับพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มาตรการปกป้องจากการชนด้านหน้า
ตัวถังถูกพัฒนาไปใช้โครงสร้างที่มีการเชื่อมอย่างต่อเนื่องกันทั้งคัน และโครงสร้างแบบตรงของมาสด้า นอกจากนี้ ยังใช้คานโดยรอบช่วยลดแรงกระแทกที่เกิดขึ้นเมื่อมีรถชนกับ CX-30 แบบเหลื่อมกัน ในการชนเช่นนี้ เมื่อเกิดการเหลื่อมซ้อนกันเล็กน้อยกับรถที่ชนหรือสิ่งกีดขวาง วัสดุที่ใช้กับคานโดยรอบทางด้านขวาและด้านซ้ายจะกระจายแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร่วมกับโครงสร้างเฟรมด้านหน้าที่สามารถโค้งงอได้เมื่อเกิดการชนอย่างหนัก และค่อยๆ ดูดซับแรงกระแทก เพื่อให้ได้คุณสมบัติการดูดซับแรงที่มีประสิทธิภาพสูง
มาตรการปกป้องจากการชนด้านข้าง
ตัวถังถูกสร้างขึ้นเพื่อรับแรงกระแทกที่มาจากหลากหลายทิศทางและ ณ ตำแหน่งต่างๆ เพื่อช่วยลดการเสียรูปของห้องโดยสารโดยกระจายแรงนั้นไปยังด้านหน้าและด้านหลังของรถ CX-30 เป็นรถยนต์มาสด้าคันแรกที่ติดตั้งเหล็กกล้าแข็งแรงสูง (hot-stamped material) กับวัสดุเสริมแรงที่ถูกประกอบขึ้นรูปกันเป็นเสาบี วิธีการนี้มีประสิทธิภาพทั้งในด้านของความแข็งแรงและน้ำหนักที่ลดลง
มาตรการปกป้องจากการชนด้านหลัง
เฟรมด้านข้างส่วนหลังได้รับการออกแบบให้เสียรูปได้แบบหีบเพลงในกรณีที่เกิดการชน สิ่งนี้ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับแรงได้เป็นสองเท่าของโครงสร้างที่ใช้ก่อนหน้านี้โดยไม่เพิ่มน้ำหนัก ในขณะที่ยังได้รับความปลอดภัยจากการชนระดับสูง สมรรถนะเชิงพลศาสตร์ และการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง
ระบบถุงลมนิรภัย SRS
นอกจากถุงลมนิรภัยด้านหน้า ถุงลมแบบม่าน และถุงลมด้านข้างส่วนหน้าที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน CX-30 ยังติดตั้งถุงลมนิรภัยที่บริเวณหัวเข่าของผู้ขับขี่ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในตลาดทุกประเทศทั่วโลกอีกด้วย ในกรณีที่เกิดการชน ถุงลมนิรภัยที่หัวเข่าของผู้ขับขี่จะช่วยลดการบาดเจ็บที่ขา หน้าอก และหน้าท้อง โดยการหยุดการเคลื่อนที่ของร่างกายคนขับไปข้างหน้า
เบาะนั่งด้านหน้าถูกออกแบบมาเพื่อบรรเทาการบาดเจ็บที่คอ
ที่นั่งด้านหน้าที่คืนกลับสู่ตำแหน่งเดิมหลังจากการชน ถูกลดระดับความแรงลงโดยใช้เบาะที่แข็งและเฟรมด้านข้างที่ออกแบบมาเพื่อดูดซับแรง เพื่อช่วยลดโอกาสและความรุนแรงของการบาดเจ็บที่คอโดยลดการเคลื่อนที่ของศีรษะ หน้าอก และกระดูกเชิงกรานตอนเกิดการชน
เข็มขัดนิรภัย
ที่นั่งคนขับและที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้าติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ (pretensioner and load limiter) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน จะรัดแน่นขึ้นในจังหวะที่เกิดการชนและผ่อนแรงออกเมื่อควบคุมได้ คุณลักษณะของรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศไทยมีการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติด้านซ้ายและขวาในส่วนของที่นั่งหลังด้วย นอกจากนี้ ที่ยึดด้านล่างสำหรับเข็มขัดนิรภัยที่นั่งด้านหน้าติดกับที่นั่งโดยตรง สิ่งนี้จะรักษาความกระชับของเข็มขัดนิรภัยโดยไม่คำนึงถึงตำแหน่งที่นั่งและทำให้เข็มขัดนิรภัยสามารถควบคุมผู้โดยสารได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นในกรณีที่เกิดการชน
การปกป้องคนเดินเท้า
พื้นที่ที่ช่วยดูดซับแรงที่อยู่ระหว่างฝากระโปรงและเครื่องยนต์ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดการบาดเจ็บที่ศีรษะของคนเดินเท้าหากเกิดอุบัติเหตุการชนที่ฝากระโปรงหน้ารถ ด้านในของฝากระโปรงหน้ายังใช้โครงสร้างการดูดซับแรงที่มีรูปแบบเป็นเสาคู่ขนานติดตั้งอยู่ใกล้กับพื้นผิวฝากระโปรง แรงกระแทกจะถูกดูดซึมโดยตรงในช่วงเวลาแรกของการปะทะจากนั้นค่อยๆ กระจายไป และสิ่งนี้จะช่วยให้ดูดซับแรงได้เร็วขึ้น
มาตรการปกป้องขาคนเดินเท้า
เพื่อลดโอกาสของการบาดเจ็บที่ขาของคนเดินเท้า กันชนหน้าจะใช้ชิ้นส่วนพลาสติกติดตั้งอยู่ที่ส่วนบนพร้อมกับกันชนด้านล่างทำจากพลาสติกวางอยู่ด้านหน้าคานกันกระแทก เพื่อการรองรับต้นขาและหน้าแข้งเมื่อเกิดการชนและทำให้การกระแทกที่เข่านุ่มลง โครงสร้างนี้ช่วยลดโอกาสการบาดเจ็บที่บริเวณหัวเข่าหรือเอ็นที่เกิดจากขาที่งอเนื่องจากถูกชน
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: มาสด้า เซลล์ ประเทศไทย
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th