อยากขับ All-New Honda Civic 2021 เลือกรุ่นไหนดี!
เปิดตัวมาเป็นที่เรียบร้อย All-New Honda Civic คอมแพ็กต์ซีดานยอดขายอันดับ 1 ของเมืองไทย ใครที่รอซื้ออยู่ แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกรุ่นไหนระหว่าง EL, EL+ และ RS ลองมากางสเป็คดูกันว่ารายละเอียดของแต่ละรุ่นมีความแตกต่างกันยังไง?
ก่อนอื่นต้องมาดูที่ราคาของ All-New Civic หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่หลายคนใช้ตัดสินใจ โดยรุ่นนี้ไม่ต้องคิดมากเรื่องเครื่องยนต์ เพราะมีตัวเลือกเดียว VTEC TURBO 1.5 ลิตร ทำให้ขึ้นอยู่กับคุณมีงบประมาณอยู่ที่เท่าไร หากเรียงจากน้อยไปมากรุ่นเริ่มต้น EL อยู่ที่ 964,900 บาท, EL+ ราคา 1,009,900 บาท และรุ่น RS จะทะลุไปเป็น 1,199,900 บาท
อ่านข้อมูลเพิ่มเติม ฮอนด้า เปิดตัว All-New Civic เร้าใจกับขุมพลัง VTEC TURBO
ใครมีราคาอยู่ในใจแล้ว ตามมาดูว่า All-New Civic แต่ละรุ่นย่อยมีความแตกต่างกันอย่างไร เรื่องขุมกำลังเครื่องยนต์ตรงนี้ข้ามไปได้เลยไม่ต้องเสียเวลาเปรียบเทียบ เพราะทั้ง 3 รุ่นย่อยใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO เหมือนกันหมด ทั้งกำลังแรงม้า, แรงบิด, เกียร์อัตโนมัติ CVT, เติมน้ำมัน E85 และอัตราประหยัดน้ำมัน 17.2 กิโลเมตร/ลิตร แต่ RS จะมีโหมดการขับขี่แบบ Sport เพิ่มเข้ามาจาก EL และ EL+ ที่จะมีแค่โหมดประหยัด ECON กับ Normal เท่านั้น
เช่นเดียวกับข้อมูลด้านเทคนิคทั้งอัตราทดเกียร์, ระบบพวงมาลัย, ระบบเบรก, ระบบกันสะเทือน (หน้า/หลัง), มิติตัวถัง, ฐานล้อ หรือความสูงใต้ท้องรถ มีจุดเดียวที่แตกต่างเป็นน้ำหนักรถรุ่นล่างสุด EL จะเบากว่า RS อยู่ราว 22 กิโลกรัม แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้ส่งผลกับสมรรถนะของรถเท่าไรนัก
คลิกเพื่อขยาย
จุดแตกต่างภายนอกที่สำคัญ และอาจเป็นเหตุผลที่หลายคนตัดสินใจซื้อ คงเป็นขนาดล้อที่ All-New Civic RS จะได้ล้ออัลลอยสีดำ 17 นิ้วใส่ยาง 215/50 (ภาพโปรโมตของฮอนด้า จะใช้ยาง Yokohama Advan DB) โดย 2 รุ่นรองจะได้ล้ออัลลอย 16 นิ้วมาพร้อมยาง 215/55 (แต่ความจริงหลังจากคุณรับรถมาแล้วอยากจะไปเปลี่ยนแม็กซ์หรือยางขนาดอื่นก็ไม่ผิดอะไร)
ขณะที่ชุดไฟหน้า-ไฟท้าย All-New Civic ทั้ง 3 รุ่นแตกต่างแค่ตัวท็อป RS ไฟหน้าเป็นแบบ LED ส่วน 2 รุ่นรองจะเป็นไฟโปรเจคเตอร์ แต่จะมีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ รวมทั้งไฟท้าย LED ที่จะได้มาเหมือนกันหมด
แต่ออปชั่นหนึ่งที่จะไม่มีในรุ่นล่าง EL แต่จำเป็นสำหรับใครหลายคนที่จำเป็นต้องจอดรถริมถนนบ่อยๆ คือกระจกมองข้างปรับ และพับไฟฟ้า (พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ) หลายคนที่ไล่ดูโบรชัวร์ก็อาจงงๆ เพราะ EL อุตสาห์ได้ไฟเลี้ยวฝังในกระจกมองข้างมาแล้วจะใส่ออปชั่นเพิ่มความสะดวกสบายมาให้อีกหน่อยก็ไม่ได้
เข้ามาสู่ภายในห้องโดยสาร All-New Civic ในรุ่น RS จะมีระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ Honda Smart Key Card ทำให้พกแค่การ์ดใบเดียวก็สามารถเปิด-ปลดล็อกประตูรถได้อย่างสะดวกสบาย เบาะจะเป็นวัสดุหนังกลับผสมหนังสังเคราะห์เดินตะเข็บสีแดงคล้ายๆ รุ่นก่อน เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เช่นเดียวกับ EL+ พวงมาลัยหุ้มหนังจะมี Paddle Shift เข้ามาให้ช่วยเพิ่มความเร้าใจเวลาขับ ส่วน 2 รุ่นรองจะเป็นเบาะหนังแท้ผสมวัสดุหนังสังเคราะห์ แต่จะสามารถเลือกได้ว่าเบาะจะเป็นสีเทาเบจหรือ/สีดำ ขึ้นอยู่กับสีภายนอกของรถ
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติเหมือนกันทั้ง 3 รุ่นย่อย แต่ RS จะสามารถปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ และติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger บริเวณช่องด้านล่างคอนโซลกลาง และออปชั่นที่แตกต่างกันเล็กๆน้อยๆ อย่างหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ RS จะเป็น TFT ขนาด 10.2 นิ้ว แต่ 2 รุ่นรองจะมีขนาด 7 นิ้ว โดยระบบเบรกมือไฟฟ้า และระบบ Auto Brake Hold จะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย
ในขณะที่ระบบความบันเทิง Infotainment ที่มีความสำคัญในยุคโซเชียลเน็ตเวิร์ค All-New Civic ติดตั้ง Apple CarPlay เพื่อความสะดวกสบายในการเชื่อมต่อ iPhone ในทุกรุ่นย่อย โดยหน้าจอควบคุมเครื่องเสียงเป็นแบบสัมผัส Advanced Touch ขนาด 7 นิ้ว (EL, EL+) และ 10 นิ้ว (RS) โดย 2 รุ่นบนจะติดตั้งลำโพง 8 ตำแหน่ง ช่องเชื่อมต่อ USB จะไม่เท่ากัน EL จะมีเพียง 1 จุดเท่านั้น
เทคโนโลยีความปลอดภัยของ All-New Civic ต้องชื่นชม Honda ติดตั้ง Honda SENSING เป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย ทำให้มีทั้งระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS), ระบบเตือน และช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (RDM with LDW), ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (ACC with LSF) และใหม่ล่าสุดกับระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (LCDN) พร้อมทั้งระบบความปลอดภัยพื้นฐานอื่นๆ แต่รุ่น RS จะเพิ่มระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) และระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor) เข้ามาเพิ่ม
มาถึงตรงนี้คงจะบอกว่าหากไม่คิดเยอะ และเป็นสาวก Civic อยู่แล้ว EL+ น่าจะเป็นคำตอบของหลายๆ คน โดยเฉพาะในยุคโควิด-19 แบบนี้ แต่หากคุณรักในความเป็นสปอร์ต อยากได้รถที่ออกจากศูนย์ฯ แล้วไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเลย มีกำลังเหลือพอจะจ่ายส่วนต่างที่เพิ่มอีก 190,000 บาท RS เป็นคำตอบเดียวอยู่แล้ว
ใครที่ตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือก All-New Honda Civic รุ่นไหน ขอทิ้งท้ายด้วยโปรโมชั่นช่วงเปิดตัว โดยฮอนด้า จัดข้อเสนอพิเศษ ดอกเบี้ย 2.99% พร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี และบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท เมื่อจอง และรับรถฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ตั้งแต่วันที่ 6-31 สิงหาคม 2564 ถ้าตัดสินใจได้แล้วก็รีบตรงไปโชว์รูมใกล้บ้านคุณได้เลย
เรื่อง: พูนทวี สุวัตถิกุล
ขอบคุณข้อมูล: ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย)
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th