ALXA FESTIVAL 2024 ออฟโรดจีน “กระหึ่ม” เฟสติวัลสำหรับขาลุยทะเลทราย
ALXA FESTIVAL 2024 การกลับมาของงานอีเวนต์ใหญ่ที่เปิดสู่สายตาชาวโลกครั้งแรก โดย GWM เชิญสื่อทั่วโลกมาให้เห็นกับตา ความยิ่งใหญ่ของคนรักแบรนด์ TANK พร้อมร่วมพิสูจน์ “สิงห์ทะเลทรายตัวจริง” ไกลถึงทะเลทรายติดชายแดนมองโกเลีย
บินไกลตามไปดูอีเวนต์ใหญ่ของสายออฟโรดฝั่งจีน ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีกับงาน ALXA FESTIVAL 2024 หลังจากหยุดพักช่วงโควิดไปหลายปี ได้เวลานัดรวมพลคนรักออฟโรดทะเลทราย ที่เมือง ALXA League ทางตอนเหนือของจีน ติดกับมองโกล ในส่วนที่จีนเรียกว่าเป็น Inner Mongolia ในเขตทะเลทรายที่กว้างใหญ่
รอบนี้เราเดินทางมากับ GWM ที่เป็นผู้สนับสนุนหลักในการจัดงาน เพื่อชมกระแสความนิยมของแบรนด์ TANK ในจีน พร้อมชมไฮไลต์ขบวนพาเหรดการนัดรวมตัวของเหล่า “แทงเกอร์” นำโดย TANK 300, TANK 500 รวมทั้งกระบะ PORE ที่ขายดีจนครองส่วนแบ่งตลาดกว่า 50% ในจีน นอกจากนั้น ยังมี TANK 400 และ TANK 700 รุ่นใหญ่ ที่ยังไม่ได้ทำตลาดในบ้านเรา และแน่นอน HAVAL 9 ก็มาปรากฏโฉมกันเพียบ
จากไทยบินไปลงที่คุนหมิง แล้วต่อเครื่องไปเมือง Yinchuan จากนั้นนั่งรถบัสไปอีกสามชั่วโมงก็จะถึงที่จัดงาน ALXA FESTIVAL 2024 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-7 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงหยุดยาว “โกลเด้นวีค” ฉลองวันชาติจีน ทำให้ผู้คนหลั่งไหลมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปีล่าสุดที่จัดไปมีคนร่วมงานนับแสนคน และรถยนต์ที่มาในงานกว่า 40,000 คัน นอกจากการออกบูธแสดงรถใหม่ของ GWM แล้ว ยังมีส่วนของร้านค้าตกแต่งประดับยนต์มาออกบูธกันเพียบ และมีการแข่งขันออฟโรดตลอดการจัดงานในทะเลทราย ซึ่งภาพรวมเต็มไปด้วยความคึกคัก เสริมด้วยกิจกรรมดนตรี ฟู้ดทรัค คาร์แคมปิ้ง สนามโกคาร์ท รวมถึงร้านค้าของแต่งรถ เสื้อผ้าที่ระลึก แม้แดดจะแรงแต่อากาศหนาวเย็นในตอนกลางวัน ยิ่งในช่วงกลางคืนบรรยากาศเหมือนกับเทศกาลดนตรี มีเวทีมากมายรอบงาน โดยปีนี้พิเศษกว่าที่เคย เพราะมีการเชิญสื่อจากหลายประเทศมาร่วมงาน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของคนรัก TANK ซึ่งแถบจีนตอนเหนือพูดได้เต็มปากว่าเป็นบ้านของ “แทงเกอร์” วิ่งกันเกลื่อนเมือง
เราได้เห็นถึงความสำเร็จของคนรัก GWM ด้วยตาตัวเองว่ายิ่งใหญ่เกินคาด ตั้งแต่เข้ามาในเขตเมืองอัลซา แทบจะไม่เห็นรถแบรนด์อื่นเลย นอกจากแบรนด์ลูกของ GWM จากเมื่อก่อนที่มาตามเมืองใหญ่ยอดนิยมยังได้เห็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายไทยวิ่งเป็นส่วนใหญ่ กลายเป็นว่าในแถบตอนบนของจีนเอง รถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้รับความนิยมมากนัก ในเมืองใหญ่ถ้าดูด้วยตาแล้ว ยังมีสัดส่วนที่น้อยมาก สังเกตได้จากธุรกิจปั๊มน้ำมันยังคึกคักอยู่เหมือนเดิม และสภาพภูมิประเทศที่เป็นทุ่งหญ้า และทะเลทราย ทำให้รถยนต์แบบเอสยูวีและรถกระบะในแบบขับเคลื่อนสี่ล้อได้รับความนิยมมาก ซึ่งคนพื้นที่เล่าให้ฟังว่า คนจีนสมัยก่อนส่วนใหญ่ตามชนบททำไร่ทำนา ไม่ค่อยมีรถยนต์ส่วนตัวใช้กันเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่ปัจจุบันบ้านเมืองพัฒนาไปแบบก้าวกระโดด ถนนหนทางสะดวกสบาย ผู้คนมีรถยนต์ใช้ และมักออกมาทำกิจกรรมร่วมกันหลังเลิกงาน และในวันหยุด โดยเฉพาะกิจกรรมกลางแจ้งเอาต์ดอร์สไตล์แอดแวนเจอร์ได้รับความนิยมมาก ดังนั้น การใช้รถยนต์ส่วนใหญ่จะเห็นว่าเป็นแนวออฟโรด พร้อมติดอุปกรณ์ต่างๆ ไว้มากมายตามการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์แคมปิ้ง อุปกรณ์กีฬา ซึ่งส่วนใหญ่ภาพที่เห็นจะแปลกตาสำหรับคนไทย เพราะเมืองทะเลทรายจะมีการใช้ชีวิตที่แตกต่างจากบ้านเรา
คนที่เข้ามาในงาน ALXA FESTIVAL 2024 ต่างเตรียมตัวกันเป็นอย่างดี ส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัว พร้อมมาพักแรมในงาน เพราะมีพื้นที่กางเต็นท์ มีอาหารการกินพร้อม ห้องน้ำดีเป็นสัดส่วน หรือมาหาที่พักเมืองใกล้ๆ อย่างน้อยต้องขับรถหนึ่งชั่วโมงเพื่อหนีอากาศติดลบในช่วงค่ำ ส่วนใหญ่ในงานจะขับรถเที่ยวกัน ไม่ค่อยจอดแล้วลงเดิน เพราะพื้นที่จัดงานใหญ่โตแบบสุดลูกหูลูกตาชวนขนลุก มีการแบ่งโซนกิจกรรม โซนการแข่งรถ โซนขายของ ขายอาหาร และโซนนันทนาการสำหรับครอบครัว ไม่เว้นแม้แต่ชิงช้าสวรรค์ การแสดงพลุตลอดทั้งคืน แถมมีโชว์ฟรีตลอดงาน ทั้งเครื่องบิน ขบวนพาเหรดรถออฟโรดที่วิ่งสวนกันไปมาเหมือนดูหนังเรื่อง MAD MAX ผสมกับ FAST AND FRUIOUS ภาคแรกที่จัดงานแข่งกันแบบดิบๆ ชนิดที่คุณถือกล้องไปถ่ายงานต้องมีเมมโมรีสักหนึ่งโหลถึงจะบันทึกภาพตลอดงานได้หมด และต้องมีสติในการเดินชมงานมากๆ เพราะรถยนต์ที่วิ่งกันไปมา ไม่หลบคนเดินถนนสักเท่าไร
ในโซนขายของก็มีครบ ตั้งแต่รองเท้าคอมแบทลุยทะเลทราย ผ้าห่ม เต็นท์นอน รวมไปถึงร้านกาแฟ ร้านผลไม้ที่มีกระทั่งทุเรียนมาขาย แต่ที่ชอบคือสินค้าสำหรับลุยทะเลทรายในแบบเฉพาะของงาน ไม่ว่าจะเป็นธงประดับรถ เพื่อให้มองเห็นเวลาวิ่งในทะเลทราย สีสันแสบตา หรือพวกถาดสไลด์ของเด็ก อุปกรณ์เล่นทรายก็มี และมันบ้ามาก เพราะงานไม่ได้จัดแค่วันสองวัน แต่เป็นหนึ่งสัปดาห์ที่คนกลุ่มนี้ไม่เลือกเที่ยวต่างประเทศ หรือขับรถไปเยี่ยมบ้านเกิด แต่กลับเลือกวันหยุดโกลเด้นวีคของจีนมาปลดปล่อยความมันส์กับรถคู่ใจบนเนินทะเลทราย
คนไทยอาจคุ้นชินทะเลทรายอย่างมุยเน่ของเวียดนาม แต่กับโกบี มันเป็นเขตทะเลทรายที่สุดลูกหูลูกตา และถ้ามาในช่วงตุลาคม กลางวันหนาว แต่แดดและแสงยูวีแรง กลางคืนเย็นจัดจนแทบอยากนั่งติดกับกองไฟเพื่อคลายหนาว ทรายที่นี่ละเอียดแต่แน่น เดินไม่ยวบยาบมาก ดังนั้น การขับรถเล่นถือเป็นไฮไลต์ในการมาเที่ยวที่นี่สักครั้งในชีวิต ไม่แพ้การขี่อูฐ (แถมอูฐที่จีนเป็นมิตร น้องยิ้มแย้มตลอด ไม่ดุเหมือนในอาหรับ)
สิ่งที่อยากมาดูคือเฟสติวัลออฟโรดในต่างประเทศจะแตกต่างจากบ้านเรายังไง แต่วันนี้ได้เห็นแล้วว่า ความชื่นชอบรถยนต์ของคนจีนไม่แพ้คนไทย แต่เพราะภูมิประเทศทำให้แบรนด์อย่าง TANK และกระบะ POER ประสบความสำเร็จ เมื่อก่อนอาจมีแบรนด์ญี่ปุ่นเข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนงานอยู่บ้าง แต่วันนี้รถยนต์ GWM ได้ยึดครองงานนี้เป็นส่วนใหญ่ และหลังการได้ขับรถในทะเลทราย…รู้เลยว่ารถเหล่านี้ถูกปรับเซตมาเพื่อลูกค้าหลักในจีนกลุ่มนี้ได้ตรงจุด เพราะที่นี่คงเป็นบ้านเกิดที่แท้จริง ส่วนพวกรถอีวีหนนี้หลบไปก่อน
ด้านไฮไลต์ “งานแข่งมอเตอร์สปอร์ต” สิงห์ทะเลทรายโคตรเดือด ในรุ่น T3 ซึ่งเป็นการแข่งขันสไตล์แรลลี่ครอส ขับในแทร็กที่กำหนด มีเนินกระโดดตลอดเส้นทาง กำหนดให้แข่งทีมละ 3 คัน ออกตัวตามสัญญาณไฟ จับเวลาจากคันสุดท้ายที่เข้าเส้นชัย มีทั้งรุ่นผสม และรุ่นผู้หญิงล้วน ซึ่งนักแข่งส่วนใหญ่แข่งกันเอามันส์ เน้นความสนุกสนาน เรียกว่าเป็นสีสันของงานก็ว่าได้
ในงานยังมีบูธของ GWM นำรถรุ่นใหม่มาโชว์ พร้อมรถที่ตกแต่งโดยสำนักแต่งต่างๆ มาออกบูธกันเพียบ มีทุกแนวให้เลือกชม และห้ามพลาดที่จะลองนั่งรถขับในทะเลทรายของจริงกับกิจกรรม Sand Dune เหมือนนั่งรถไฟเหาะกับนักขับมืออาชีพ มันคนละเรื่องกับการขับรถออฟโรดบ้านเราโดยสิ้นเชิง ไม่ต้องแต่งอะไรมา ขอให้รถมีแรงบิดดีๆ ขับเคลื่อนสี่ล้อ มีฝีมือและความชำนาญการขับในทะเลทรายก็ไปสนุกกันได้
GWM “พูดถึงตลาดไทย แม้จะมีเหตุการณ์หลายอย่าง แต่เรายังให้คำมั่นสัญญาว่าจะมุ่งพัฒนาไม่หยุด และนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ต่อไป เพราะเรามีการลงทุนต่อเนื่อง ทั้งยังสร้างโรงงานเพื่อผลิตขายในไทยและส่งออก ต่อจากนี้ที่ต้องเร่งดำเนินการ คือปรับปรุงดีลเลอร์ ปรับวิธีขายให้มีความเหมาะสม พร้อมสร้างการรับรู้แต่ละแบรนด์ย่อยของ GWM ให้มากขึ้น ส่วนรถโมเดลใหม่ รอชมกระบะ POER SAHAR และเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นใหม่ได้เร็วๆ นี้”
เรื่อง: ณัฐพล จีระมงคลกุล
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th