แม้ว่าผู้ผลิตรถยนต์ต่างๆ จะพยายามพัฒนาระบบ Voice Assistant ของตนเองเพื่อเพิ่มความสะดวกในการควบคุมการทำงานต่างๆ และช่วยผู้ขับให้มากขึ้นขณะขับรถ แต่กลับมีการศึกษาใหม่ที่ทำโดย JD Power ในสหรัฐอเมริกาที่พบว่าเจ้าของรถยนต์อยากให้รถที่พวกเขาเป็นเจ้าของใช้ซอฟต์แวร์จดจำเสียงแบบเดียวกับที่ใช้ในบ้านมากกว่าของผู้ผลิตรถยนต์เอง

จากการสำรวจของ JD Power ได้สรุปว่ามีถึง 76 เปอร์เซ็นต์ของเจ้าของรถที่ไม่ต้องการระบบของบริษัทรถเพราะไม่อยากเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ โดยที่อยากให้รถยนต์ของพวกเขาใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ในบ้านของตนอย่าง Amazon Alexa หรือ Google Assistant มากกว่า โดยจากการศึกษามีเกือบ 60 เปอร์เซ็นต์ของการสำรวจที่ตอบว่า พวกเขาอาจจะอยากซื้อรถใหม่จากผู้ผลิตบางรายโดยเฉพาะหากรถนั้นมีระบบ Voice Assistant เหมือนที่พวกเขาใช้ในบ้าน ซึ่งการศึกษาที่ได้รับการสนับสนุนจาก Amazon ทำให้ผู้ค้ารายใหญ่หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยทำให้ผู้ผลิตรถตัดสินใจรวม Alexa เข้ากับระบบ Infotainment ของรถ ซึ่งมีรายงานว่ามีผู้ผลิตรถยนต์จำนวนหนึ่งประกอบด้วย Ford, BMW, Seat, Toyota และ Audi ที่ได้ประกาศออกมาว่าได้รวม Alexa ไว้ในระบบ Infotainment ในรถบางรุ่นของตน

Arianne Walker ผู้บริหารของ Alexa Automotive ได้บอกว่าคนจำนวนมากรู้สึกผิดหวังกับระบบ Voice Assistant ที่มีอยู่ในรถยนต์ และผู้บริโภคเหล่านี้ต้องการการตอบสนองที่เป็นธรรมชาติและดูมีชีวิตมากขึ้นกว่าระบบ Voice Assistant ที่มีอยู่ในรถยนต์ตอนนี้

อย่างไรก็ตามบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลายต่างก็ยังคงใช้ระบบของตนเองแทน Alexa และ Google Assistant ซึ่งสาเหตุน่าจะตามที่ McKinsey & Co ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจได้เคยระบุว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้รวมทั้งเทคโนโลยีที่คล้ายกันจะสามารถช่วยสร้างมูลค่าได้สูงถึง 750,000 ล้านดอลล่าร์สำหรับผู้ผลิตรถยนต์เมื่อถึงปี 2030 ดังนั้นแน่นอนว่าในเมื่อสามารถทำเทคโนโลยีเหล่านี้ได้ด้วยตนเองก็ย่อมไม่อยากให้รายได้ส่วนนี้หลุดไปเป็นของคนนอก

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th