AMG Experience On Track 2023 กิจกรรมฝึกขับรถแรง กับ’เบิร์น ชไนเดอร์’ แชมป์ DTM ห้าสมัย ในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต

หากย้อนไปสักประมาณ 2-3 ปีก่อนหน้า กลุ่มลูกค้า เมอร์เซเดส เบนซ์ คงจะได้เริ่มรู้จักกับกิจกรรมพิเศษที่ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง AMG Driving Academy (เอเอ็มจี ไดรฟ์วิ่ง อะคาเดมี) กิจกรรมที่ถือกำเนิดขึ้นมาพื่อเรียนรู้เทคนิคการขับขี่รถยนต์เมอร์เซเดส เบนซ์ แบบเต็มสมรรถนะ โดยทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพจากเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี  อย่าง มร. เบิร์น ชไนเดอร์ แบรนด์แอมบาสเดอร์ของเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี นักแข่งรถสัญชาติเยอรมัน เจ้าของตำแหน่งแชมป์ DTM ห้าสมัย และแชมป์สองสมัยจากสนามนูร์เบอร์กริงสุดโหด ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

ล่าสุดในปี 2023 กลับมาอีกครั้งในชื่อใหม่และยกระดับให้ยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ด้วยกิจกรรม “AMG Experience On Track” ซึ่งเป็นงานที่ถูกจัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทยและเป็นตลาดที่ 2 ของโลกต่อจากสหรัฐอเมริกา ด้วยการขนรถในตระกูล AMG มาให้นักข่าวและกลุ่มลูกค้าได้สัมผัส ทั้งหมด 8 รุ่น 

ไล่เรียงตั้งแต่ Mercedes-AMG G 63, Mercedes-AMG SL 43, Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe, Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+, Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC, Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupe และ Mercedes-AMG GLE 53 4MATIC+ และ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกในตระกูล AMG Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+ 

ในรูปแบบของสถานีที่จัดขึ้นเพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้ประสบการณ์ขับรถ AMG ในสนามแข่งระดับโลก ดูจะมีความคล้ายคลึงอยู่กับรูปแบบของงาน AMG Driving Academ เมื่อหลายปีก่อน แตหลายจุดก็ดูจะมีความแอดวานซ์มากขึ้นไปกว่าเดิม เพื่อให้สามารถซึมซับกับสมรรถนะของรถยนต์ภายใต้ตระกูล AMG ทั้ง 8 รุ่นได้อย่างเต็มที่ หลังจากแบ่งกลุ่ม ก็ถูกแบ่งแยกไปตามสถานีแต่ละจุด

เบิกฤกษ์กันด้วย สถานี “Corner Theory”

น่าจะพอทราบกันดีว่า โค้ง 8 – 9 -10 ในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต คือ โค้งที่มีความโหดมากในระดับหนึ่ง เมอร์เซเดส เบนซ์ เลยอยากให้ทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมได้เรียนรู้และทำความคุ้นเคยกับรูปแบบของดค้งที่หลากหลายของสนามช้าง ด้วยหวังจะเพิ่มสกิลการขับเข้าโค้งให้ได้เร็วและปลอดภัยที่สุด ซึ่งในสถานีนี้ใช้รถ AMG CLS 53 4MATIC+ จุดสังเกตและสิ่งเน้นย้ำของผู้ฝึกสอน คือ จังหวะการเบรกก่อนเข้าโค้ง การลดรัศมีของโค้ง วิธีการมองจุดตัดยอดโค้ง จนไปถึงการหาทางออกและจังหวะการออกรถเมื่อพ้นโค้ง โดยทุกเทคนิคมุ่งหวังจะสร้างประโยชน์ได้ทั้งการขับขี่บนสนามแข่งและการขับขี่บนถนนในชีวิตประจำวัน 

การวิ่งวนหลายรอบ จนเราเริ่มคุ้นชินกับสนาม  ก็จะพอทำให้เริ่มจับจุดได้ว่า นอกจากจุดเบรกและจุดตัดโค้ง การรู้จักควบคุมคันเร่งให้เหมาะสมนั่นก็สำคัญ  ถ้าอยากเพิ่มความไว และไปให้เนียนกว่าเดิม แม้จะแบบสนุกเกินไป จนในช่วงออกโค้งทำให้รถมีอาการท้ายออกอย่างชัดเจน จนใจหายแว๊บไปแปปนึง แต่ด้วยระบบความปลอดภัยที่คอยช่วยเหลือผู้ขับขี่ของรถ อย่าง AMG CLS 53 4MATIC+ ที่ยังช่วยดึงรถให้กลับมาควบคุมได้ง่าย ก็พออุ่นใจและเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่รอบต่อไปได้มากขึ้น 

สถานี Motokhana ไปให้สุดแล้วหยุดที่ กรวย

สถานีไฮไลท์ที่สุดแล้วสำหรับกิจกรรมในปีนี้ เพราะนอกคุณจะได้ลองขับวัดสติ วัดสายตา และการควบคุมรถในแบบที่บ้านเราเรียกว่า Ghymkhana  ด้วยรถยนต์ AMG GLA 35 4MATIC แล้วนั้น ยังได้เปิดโลก เปิดสายตาไปกับฝีมือการควบคุมรถของ แชมป์ DTM 5 สมัย มร. เบิร์น ชไนเดอร์ อีกด้วย สิ่งที่ชวนขนลุก คือ ในการเข้าร่วมสถานีนี้เป็นเวลาพลบค่ำ แสงเริ่มน้อยมาก แต่ชายวัย 50 กว่า ยังมีสายตาและปฎิกิริยาตอบสนองในการควบคุมรถเหมือนเป็นแขนขาตัวเอง ซัดเต็มสปีดความเร็ว แสดงให้เห็นถึงฝีมือของแชมป์โลก จนต้องปรบมือให้โดยสดุดี 

ด่านนี้ ส่วนตัวคิดว่ายากเอาเรื่อง เพราะระยะการตั้งกรวย ให้เกิดจุดเลี้ยว ไปจนถึงการตั้งจุดกลับรถเสมือโค้งหักศอก คอนข้างโหดและประชิด การจะทำความเร็วให้เกิดระยะเวลาสั้นที่สุดไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สิ่งที่ได้เรียนรู้ คือ การสร้างความสมดุลของความเร็ว และการคอนโทรลรถ การกะระยะ และการใช้เบรกให้เต็มประสิทธิภาพในจุดที่ควรใช้ ไปจนถึงการเติมคันเร่งให้ลงตัวในจุดออกจากกรวยทุกจุด ซึ่งในรอบซ้อม ส่วนตัวก็คิดว่าทำเวลาได้พอไหว แต่เมื่อเค้ามีการจับเวลาเพื่อแข่งขันและหาคนที่เร็วที่สุด…. จบด้วยการกินกรวยในด่านสลาลอมไป 3 ตัว แบบอิ่ม อิ่ม

Drag Race / Brake to the Point สถานีแห่งการปลดปล่อยความเร็ว

คุณเคยรู้สึก หวิว หวิว ในหัวใจเวลากดคันเร่งรถสุดเท้าแล้วรถพุ่งทะยานไปด้วยความเร็วสุดทิ่ม ลิ่มรูหู ไหม ? และในความทรงจำของคุณ คือ รถ คันไหน… ?

AMG EQE 53 4MATIC+ ด้วย อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.5 วินาที คือ คันที่ทำผมใจหายวาบกับพลังในการออกตัว อาการกระชากหลังติดเบาะที่เล่นเอาต้องดึงสติ เพื่อเตรียมกระทืบเบรก ให้ทันก่อนจะทะลุจุดเบรกไปไกล ด้วย อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.5 วินาที เล่นเอาซะติดอกติดใจ ขอวนไปไม่ต่ำกว่า 4 รอบ 

สถานีนี้ ไม่ได้มีอะไรไปมากกว่า ต้องการให้คุณได้รู้จัก กับความบ้าพลังของรถตระกูล Mercedes-AMG กับการจำลองการแข่งทางตรงระยะสั้น ซึ่งรถที่ใช้ในสถานีนี้ นอกจาก AMG EQE 53 4MATIC+ ที่เกริ่นไป ก็ยังมี เอเอ็มจี G 63, เมอร์เซเดส เอเอ็มจี  เอสแอล 43 , AMG GLC 43 4MATIC Coupe และ AMG GLA 35 4MATIC 

High Speed Break and Swerve 

สถานีนี้ แม้จะคุ้นชินกับรูปแบบและเคยผ่านการลองฝีมือมาแล้วเมื่อ 2-3 ปี ก่อน แต่ก็ยังเหมือนเดิม… คือหักเลี้ยวผิดเหมือนเดิม จะเรียกว่าไร้การพัฒนาจนผู้ฝึกสอนระอาก็ไม่เคอะเขิลอันใด

High Speed Break and Swerve คือ การทดสอบระบบเบรกและระบบความปลอดภัยของตัวรถ รวมถึงการทดสอบปฏิกิริยาตอบสนองต่อสถานการณ์ ใจความสำคัญ คือ ฝึกให้คุณคุ้นชินกับระยะเบรก ไปจนถึงการรู้จักใช้สายตาและการตอบสนองของร่างกาย เพื่อสร้างความปลอดภัยในการขับขี่ เมื่อเข้าสู่สถานการณ์ฉุกเฉิน โดยแบ่งการทดสอบเป็น 2 ส่วน คือการทดสอบเบรกทางตรงและการทดสอบเบรกแบบหักหลบสิ่งกีดขวาง ด้วยพิกัดความเร็ว 80 และ 100 กม./ชม. ตามลำดับ 

จุดสำคัญ คือ สายตา ที่ต้องประสานกับดวงไฟ เพราะต้องอาศัยทักษะ การขับขี่และความเร็วในการตอบสนองต่อสัญญาณไฟที่ปรากฏอยู่บนเสาสถานี เพื่อเบรกฉุกเฉินพร้อมหักหลบไปยังทิศทางที่กำหนดไว้ ซึ่งผมหักพวงมาลัยสวนทางกับไฟทุกครั้ง ! โดยรถที่ใ้ชในสถานีนี้ คือ Mercedes-AMG GLC 43 4MATIC Coupe,Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupe, Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ และ Mercedes-AMG GLE 53 4MATIC+

สุดท้าย ของท้ายที่สุด คือ Lead & Follow

เมื่อคุณฝึกวิชาจนครบถ้วนทุกสำนัก สิ่งที่เมอร์เซเดส เบนซ์ทำ คือ จัดรูปขบวน พร้อมกับการพาคุณไปขับรอบสนามช้างแบบเต็มลูป ซึ่งปกติไม่ค่อยจะมใครเค้าทำกัน โดยจะมีผู้ฝึกสอนเป็นผู้ขับนำ แล้ว ค่อยวิทยุบอกให้คุณขับไล่ตามเค้าให้ทัน ! 

ซึ่งในแต่ละรอบ ความเร็วในการขับจะค่อย ๆ เพิ่ม ขึ้นเรื่อย ๆ ตามโหมดการขับขี่แบบ Sport และ Sport+ ที่มีอยู่ในรถยนต์ Mercedes-AMG ทุกรุ่น โดยจะมีผู้ฝึกสอนคอยบอกไลน์และการใช้จังหวะในการเข้า ออก แต่ละโค้ง เพื่อให้คุณทำความเร็วได้ดีที่สุด ไปทิ้งห่าง ล่าช้า จนโดนเพื่อนล้อจนลูกบวช

หากเราค่อนข้างมีสติและจดจำสิ่งที่ถูกเสี้ยมสอนมาในทุกสถานี บวกกับความมั่นใจในตัวรถ การขับแบบเต็มสนามช้าง จะเพิ่มอรรถรสในการขับให้เป็นอย่างมาก เพราะในความเป็นจริงแล้วควาเร็วที่ใช้อยู่ในการควบคุมและประเมินของผู้ฝึกสอนแล้วว่า ปลอดภัย และ เอาอยู่ ก่อนจะปิดจบด้วยการ มอบประกาศนียบัตรที่ได้รับการรับรองจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย  ว่าครั้งหนึ่งในชีวิต คุณเคยผ่านการทดสอบการขับขี่ในกิจกรรมระดับโลกอย่าง AMG Experience On Track มาแล้ว 

AMG Experience On Track 2023 กับสิ่งที่คุณจะได้

เหนืออื่นใด การฝึกอบรมครั้งนี้ สิ่งที่ได้กลับบ้านน่าจะเป็นเรื่องของ ความรู้ ความสามารถ ที่จะนำไปปรับใช้กับรถส่วนตัว เพื่อให้ใช้งานบนถนนสาธารณะได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น การใช้สายตา การมองล่วงหน้า การประเมินสถานการณ์  คือ สิ่งสำคัญ ในการช่วยควบคุมรถหลบได้อย่างปลอดภัยและเหมาะสม

ใครอยากประสบกับความสนุกสนาน หรือ แอบหมั่นไส้ สงสัย ว่ามันจะยากขนาดไหนกันเชียวนะ แนะนำ ให้เริ่มจากเป็นลูกค้าเบนซ์ก่อน แล้วเดี๋ยวความสนุกเร้าใจจะตามมา

เรื่อง  : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ภาพ : ฝ่ายภาพ GRANDPRIX

ติดตามข่าวสารยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ได้ที่ www.grandprix.co.th