สาวกซูเปอร์คาร์คงเริ่มรู้สึกว่าความแรงระดับพันแรงม้าของ Bugatti เป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วใช่ไหม? และบรรดามิลเลียนแนร์คงอยากให้แขกที่มาเยือนโรงรถของพวกเขาต้องตะลึงเวลาเห็นรถที่มีดีไซน์แปลกตาจอดอยู่ตรงกลางระหว่าง Ferrari กับ Lamborghini?

ดรีมคาร์ที่พวกเขามองหาอาจรออีกไม่นานหลังจาก Aston Martin เพิ่งประกาศแผนการสร้าง –AM-RB 001– รถไฮเปอร์คาร์ที่มีสมรรถนะพร้อมลงสนามแข่งจริงที่ถูกพัฒนาขึ้นในแผนการแลกเปลี่ยนความร่วมมือ Innovation Partnership กับ Red Bull Racing ทีมดังแห่งศึกฟอร์มูล่า วัน

ภายใต้การควบคุมของ 3 ผู้มากประสบการณ์ Adrian Newey หัวหน้าฝ่ายเทคนิคของ Red Bull หนึ่งในนักออกแบบรถฟอร์มูล่า วัน ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด, Marek Reichman รองประธานบริหาร-หัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟของ Aston Martin และ David King รองประธาน Aston Martin ผู้ดูแลแผนกพิเศษของบริษัท โดยพวกเขาจะร่วมนำเสนอไอเดียเพื่อทำให้แบรนด์รถสปอร์ตที่มีอายุมากกว่า 100 ปี สร้างสรรค์รถยนต์ที่น่าหลงใหล, เทคโนโลยีที่ทันสมัย และก้าวผ่านขีดจำกัดของความเร็ว เป็นรถยนต์สไตล์ GT ที่มีสมรรถนะเหมือนรถแข่งเอฟ วัน ของทีม Red Bull

ชื่อที่ใช้ตอนนี้อาจฟังดูไม่อินเทรนด์ ยกเว้นแค่รหัสตัวเลขสามหลักที่ให้ความรู้สึกถึงการเป็นรถคู่ใจของ James Bond อย่างไรก็ตาม Aston Martin ยืนยันว่าโปรเจ็กต์นี้จะเป็นการปฏิวัติครั้งใหญ่เพื่อยกระดับการออกแบบ และการพัฒนาเครื่องยนต์ของพวกเขา โดยต้องรอพิสูจน์ในตอนที่ AM-RB 001 เปิดตัวขายอย่างเป็นทางการในปี 2018

แน่นอนว่ารถไฮเปอร์คาร์ต้องมาพร้อมราคามหาแพง — จากที่สื่อต่างประเทศเลียบเคียงถามถึงราคาคร่าวๆ ของ AM-RB 001 แหล่งข่าววงใน Aston Martin ตอบกลับด้วยประโยคเด็ดว่า “ถ้าคุณถามว่ารถคันนี้ราคาแพงแค่ไหน คุณก็น่าจะรู้ตัวแล้วว่าไม่มีเงินพอที่จะซื้อ”

Turbocharged 900 bhp

ถึงจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องยนต์ออกมาไม่มากนัก แต่เป็นที่รู้กันว่า AM-RB 001 จะใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ V12 วางหลังที่สามารถสร้างความแรงระดับ 900 แรงม้า– แน่นอนว่ามากกว่ารถแข่งฟอร์มูล่า วัน ในปัจจุบัน

เทคโนโลยีไฮบริดจากสนามแข่งคาดว่าจะถูกยกมาใส่ด้วย และถือเป็นการเดิมพันครั้งสำคัญของ Aston Martin ในการพัฒนารถยนต์เจนเนอเรชั่นต่อไป “มันไม่ใช่รถที่เปิดตัวเพื่อสร้างความฮือฮาเท่านั้น”  Andy Palmer ประธาน และซีอีโอของ Aston Martin ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงการบริหารงานในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา จนทำให้ผู้ผลิตรถสปอร์ตหนึ่งเดียวของเกาะอังกฤษ ก้าวขึ้นมาแข่งขันกับแบรนด์รถอื่นๆ ได้อีกครั้ง “จะต้องเป็นรถยนต์ที่มีความหรูหรามากที่สุดในกลุ่มนี้ แต่จะต้องเร็ว และแรงที่สุดเช่นกัน”

จากท่าทีของผู้บริหารทั้ง Aston Martin และ Red Bull ดูเหมือนว่าการผลิต AM-RB 001 จะถูกแบ่งเป็น 2 เวอร์ชั่น — สำหรับผู้หลงใหลความเร็วกับรถยนต์ที่สามารถขับในสนามแข่งด้วยความเร็วระดับเดียวกับเอฟ วัน และรุ่นที่มีการปรับแต่งให้มีความสบายสำหรับการขับบนถนนปกติ

Secretive Styling

โครงสร้างตัวถังรถใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีน้ำหนักเบาเช่นเดียวกับรถไฮเปอร์คาร์แบรนด์อื่นๆ ในปัจจุบัน โดยจะพยายามทำให้น้ำหนักไม่เกิน 1,000 กิโลกรัม และ AM-RB 001 มีการพัฒนาแอร์โรไดนามิกไปอีกขั้นเพื่อให้ค่าแรงกด (Downforce) อยู่ในระดับต่ำสุดเท่าที่กฎหมายกำหนดสำหรับรถยนต์ที่วิ่งบนถนนปกติ ทั้งหมดต้องขอบคุณความอัจฉริยะในการดีไซน์ของ Newey  ที่หากสำเร็จจะทำให้รถยนต์คันนี้มีประสิทธิภาพแรงม้า: น้ำหนัก ระดับ 1:1

แต่ต้องรออีกสักพักในการตัดสินดีไซน์ห้องโดยสารว่ามีความยอดเยี่ยมระดับใด โดยภาพชุดแรกของ AM-RB 001 ที่ถูกปล่อยออกมาพอจะแสดงให้เห็น “รูปแบบที่ดี” ของขั้นตอนสุดท้ายในการออกแบบ แต่ไม่มีข้อมูลมากเท่าไรนักเกี่ยวกับภายใน แต่คงอยู่ในมาตรฐานเดียวกับสไตล์การออกแบบตัวรถที่มีความซับซ้อน, เส้นสายโค้งมน และการให้ความสำคัญกับแอร์โรไดนามิก

Reichman กับ Newey จะต้องร่วมกันทำงานในทุกรายละเอียดของโปรเจ็กต์นี้ เพื่อให้มั่นใจว่า AM-RB 001 สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อใช้งานในสถานการณ์ที่แตกต่างทั้งการขับบนถนนปกติ แต่ให้อารมณ์สปอร์ต และมีสมรรถนะที่สูงมากพอหักเลี้ยวเข้าสู่สนามแข่งทันที

The Numbers Count

คาดว่ารถไฮเปอร์คาร์ของ Aston Martin จะถูกผลิตออกจากโรงงานที่กาย์ดอน ราว 99-150 คันเท่านั้น โดยจำนวนนี้นับรวมรถต้นแบบ และเวอร์ชั่นสำหรับขับในสนามแข่งที่จะผลิตออกมา 25 คัน โดยราคาคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 2.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 91 ล้านบาท) แต่ดูเหมือนจะไม่สร้างความกังวลใดๆ กับ Aston Martin ในการตัดสินใจเลือกตามเทรนด์รถระดับ Ultra-High-end โดยหากเทียบกับ Chiron ไฮเปอร์คาร์รุ่นล่าสุดของ Bugatti ที่มีราคา 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 84 ล้านบาท) แต่มียอดสั่งจองเกิน 180 คัน ทำให้มั่นใจได้ว่าการจับมือร่วมงานระหว่างทีมแชมป์โลกเอฟ วัน 4 สมัย กับผู้ผลิตรถยนต์สปอร์ตหรูที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเกาะอังกฤษ สามารถดึงดูดความสนใจให้บรรดานักสะสมรถยนต์ และบรรดามหาเศรษฐีที่พร้อมจะทุ่มเงินเพื่อให้ได้  AM-RB 001 มาไว้ในครอบครอง

ที่สำคัญผู้บริหาร Aston Martin ไม่ลืมจุดขายของแบรนด์ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์สายลับ James Bondมายาวนาน เพราะคงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะใช้รหัส 001 หากพวกเขาไม่คิดจะผลิตรถในซีรีส์นี้ต่อเนื่องอย่างน้อยที่สุดจนถึงรุ่น 007 ถูกต้องไหม?

เรื่อง : พูนทวี สุวัตถิกุล

ขอบคุณภาพ : Aston Martin Media

เรียบเรียงข้อมูลโดย กรังด์ปรีซ์ออนไลน์ GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th