Aston Martin DB12 ดีไซน์ยังคงกลิ่นไอรุ่นเดิมพร้อมเครื่องยนต์ V8 ที่แรงขึ้น
Aston Martin ผู้ผลิตรถยนต์หรูในสหราชอาณาจักรเผยโฉม DB12 รุ่นใหม่ออกมาแทนที่ DB11 โดยที่ยัคงกลิ่นไอการออกแบบถายนอกมาจากรุ่นก่อนหน้า และมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V8 ที่มีความแรงมากขึ้น
Aston Martin DB12 ซึ่งทางผู้ผลิตรถยนต์จากสหราชอาณาจักรอ้างว่าเป็นรถซูเปอร์ทัวเรอร์รุ่นแรกของโลกถูกระบุว่าได้รับการออกแบบมาเพื่อฉลอง 110 ปีของแบรนด์ อย่างไรก็ตามดีไซน์ของรถยังคงกลิ่นไอมาจากรุ่น DB11 ที่เปิดตัวออกมาเมื่อปี 2016 อย่างชัดเจนจนอาจทำให้รู้สึกว่าเป็นรุ่นปรับโฉมของ DB11 เนื่องจากรถรุ่นใหม่รับเอาดีไซน์ภายนอกหลายส่วนมากจาก DB11 แต่มีความแตกต่างด้วยกันชนหน้าใหม่ กระจังหน้าที่ใหญ่ขึ้น มี Splitter ชิ้นใหญ่ขึ้น รวมทั้งมีไฟหน้าที่ออกแบบใหม่ ฝากระโปรงหน้าใหม่ และป้ายโลโก้ที่ปรับดีไซน์ใหม่
รถรุ่นใหม่ยังมาพร้อมกับล้อขนาด 21 นิ้วใหม่ที่ถูกระบุว่ามีน้ำหนักเบาลงกว่าล้อขนาด 20 นิ้วใน DB11 ถึง 8 กิโลกรัม พร้อมกับใช้ยาง Michelin Pilot 5s ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยเฉพาะเพื่อลดเสียงรบกวนด้วยการแทรกโฟมโพลียูรีเธนเข้าไปซึ่งช่วยลดเสียงจากยางในห้องโดยสารได้ 20 เปอร์เซ็นต์
ห้องโดยสารของรถถูกออกแบบให้มีความทันสมัยขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าด้วยพวงมาลัยใหม่ พร้อมกับมีเรือนไมล์ดิจิตอลแสดงข้อมูลผู้ขับ รวมทั้งมีจอระบบ Infotainment ตรงกลางขนาด 10.25 นิ้วที่รองรับ Android Auto, Apple CarPlay และการเชื่อมต่อ 4G รวมไปถึงมีระบบผู้ช่วยสั่งงานด้วยเสียง และอัพเดต Over-the-Air ได้
นอกจากนี้ห้องโดยสารของ DB12ยังมีคอนโซลกลางขนาดใหญ่และสูงที่ถูกออกแบบในลักษณะลอยตัว พร้อมกับแผงแดชบอร์ดใหม่ที่มีช่องระบบปรับอากาศทรงเรียวยาว มีสวิตเกียร์เลือกระบบขับเคลื่อนใหม่ และเน้นใช้วัสดุคุณภาพสูง โดยระบบเสียงมาตรฐานของรถมาพร้อมกับลำโพง 11 ตัว
ใต้ฝากระโปรงของรถเป็นเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ มีกำลัง 680 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 800 นิวตัน-เมตร ซึ่งเพิ่มขึ้นจากรุ่น DB11 ที่มีกำลัง 535 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 675 นิวตัน-เมตรอย่างชัดเจน รวมถึงเครื่องยนต์ V8 ในรถรุ่นใหม่ยังมีกำลังมากกว่ารถรุ่นก่อนหน้าที่ใช้เครื่องยนต์ V12 5.2 ลิตร ทวินเทอร์โบที่มีกำลัง 639 แรงม้าด้วย
ส่วนระบบส่งกำลังรถรุ่นใหม่เป็นแบบอัตโนมัติ 8 สปีดซึ่งช่วยให้รถใช้เวลา 3.6 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และทำความเร็วสูงสุดได้ 325 กม./ชม.
ทางผู้ผลิตระบุว่าไม่เพียงแค่รถรุ่นใหม่มีกำลังขับเคลื่อนเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีการปรับแชสซีส์ของรถใหม่ทำให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น 7 เปอร์เซ็นต์ รวมไปถึงมีการใช้ Electronic Limited-slip Differential บาร์กันโคลงที่ทนต่อการบิดตัวมากขึ้น และแดมเปอร์อแดปปทีฟใหม่ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบควบคุมการโคลงอีเล็กรอนิกของรถ และใช้ระบบเบรกคาร์บอนเซรามิกที่ช่วยลดน้ำหนักรถลง 27 กิโลกรัม
การขาย DB12จะเริ่มในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ โดยที่ยังไม่มีการระบุราคารถออกมา และในอนาคตก็น่าจะมีDB12 Volante ซึ่งเป็นรุ่นเปิดประทุนตามออกมา
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th