ในชื่อรถทั่วริ่งคาร์รุ่นล่าสุดของ Aston Martin มี 2 คำที่บ่งบอกความพิเศษคือ DBS ซึ่งเป็นชื่อรุ่นที่ผู้ผลิตรถสปอร์ตหรูจากอังกฤษใช้ครั้งแรกในปี 1967 กับรุ่น DB ที่มีความแตกต่างจากรุ่นอื่น และ Superleggera ที่มีความหมายว่า Super Light หรือน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นเทคนิคการสร้างตัวถังรถที่มีน้ำหนักเบาของผู้ผลิตรถสปอร์ตอิตาลีซึ่งเคยร่วมงานกับ Aston Martin ในอดีต ดังนั้น Aston Martin DBS Superleggera จึงเป็นการนำเอาสองสิ่งที่พิเศษในอดีตกลับมารวมเป็นรถยนต์ซูเปอร์จีทีสมรรถนะสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

สมรรถนะของ DBS Superleggera  ที่เหนือกว่ารถสำหรับใช้งานบนถนนรุ่นอื่นของ Aston Martin มาจากการใช้เครื่องยนต์ V12 5,200 ซีซี เทอร์โบคู่ ที่มีกำลังสูงสุด 725 แรงม้าที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 900 นิวตันเมตรที่ 1,800-5,000 รอบ/นาที โดยทำงานร่วมกับเกียร์ ZF 8 สปีดเพื่อส่งกำลังสู่ล้อคู่หลัง

ขณะที่การทำให้ตัวถังของ Aston Martin DBS Superleggera มีน้ำหนักเบา มาจากการใช้แชสซีส์และโครงสร้างอลูมิเนียมที่มีน้ำหนักเบาอยู่แล้วของ DB11 ร่วมกับการใช้คาร์บอนไฟเบอร์ที่ส่วนต่างๆ บนตัวรถจนทำให้ DBS รุ่นล่าสุดมีน้ำหนักเบากว่า DB11 ถึง 72 กิโลกรัม ด้วยน้ำหนัก 1,693 กิโลกรัม

เพื่อเสริมสมรรถนะของตัวรถ DBS Superleggera จึงได้รวมเอาเทคโนโลยีเพื่อแอโรไดนามิคที่ดีของรถจาก Aston Martin มาไว้ด้วยกันไปพร้อมกับการออกแบบภายนอกให้มีความดุดันในลักษณะของรถจีทีสมรรถนะสูง ไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรงหน้าที่มีความโค้งในลักษณะของรถสปอร์ตความเร็วสูงพร้อมช่องรับอากาศเหนือกระจังหน้าสีดำขนาดใหญ่ลายรังผึ้ง, Splitter หน้าที่ช่วยให้การไหลของอากาศดีขึ้นเพื่อผลในด้านแรงกดของตัวรถและการระบายความร้อนของเบรกที่ล้อหน้า, Double Diffuser พร้อมด้วย Aeroblade II เพื่อจัดการอากาศด้านหลังรถ ขณะที่ด้านข้างตัวรถทั้งในส่วนล้อหน้าและหลังที่มีขนาดใหญ่ซึ่งไม่เพียงให้ความรู้สึกถึงกล้ามเนื้อเพื่อบอกถึงพลังเท่านั้น แต่ยังช่วยในการดักอากาศที่ผ่านล้อหน้าเพื่อสร้างแรงกดบนตัวรถด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้สามารถสร้างแรงกดบนตัวรถได้สูงถึง 180 กิโลกรัมเมื่อใช้ความเร็วสูง

จากทั้งกำลังของเครื่องยนต์ น้ำหนักรถที่เบา และแอโรไดนามิคของรถ ส่งให้ DBS Superleggera พุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลา 3.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 337 กม./ชม.

เพื่อรองรับกำลังที่มาก Aston Martin ใช้ช่วงล่างอิสระ Double-Wishbone ที่ด้านหน้า และ Multi-Link ที่ด้านหลัง พร้อมกับมี Anti-roll Bar และ Adaptive Damping ทั้งด้านหน้าและหลัง

ไม่เพียงดุดันทั้งภายนอกและสมรรถนะเท่านั้น ภายในของ DBS Superleggera ยังให้อารมณ์สปอร์ตเข้มพร้อมกับการควบคุมรถที่ดีด้วยเบาะนั่ง Sport Plus ที่ให้ทั้งความมั่นคงกระชับและสบายเมื่อเดินทางไกลรวมไปถึงพวงมาลัย Sport Plus เช่นเดียวกับเบาะ ขณะที่การตกแต่งในห้องโดยสารเน้นไปที่การใช้หนังโดยมีตะเข็บสีแดงเพื่อเพิ่มสีสันที่แตกต่างในห้องโดยสาร

คอนโซลกลางภายในห้องโดยสารมีจอขนาด 8 นิ้วด้านบนสำหรับ Infotainment และการควบคุมระบบเสียงของ Aston Martin เพื่อความเพลิดเพลินจากเสียงเพลงขณะเดินทาง ส่วนด่านล่างเป็นปุ่มปรับควบคุมการทำงานต่างๆ โดยที่มีปุ่ม PRND ขนาดใหญ่เพื่อความสะดวกในการปรับ

นอกจากนี้แม้จะเป็นรถสมรรถนะสูงแต่ Aston Martin DBS Super Leggera ยังเหมาะสำหรับการเดินทางไกลและให้ความสะดวกในการเก็บสัมภาระ ด้วยพื้นที่เก็บของด้านหลังรถที่สามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้ 4 ใบ

Aston Martin DBS Superleggera จะเริ่มถูกส่งมอบในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2018 โดยมีราคาเริ่มต้น 225,000 ปอนด์ในอังกฤษ

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th