เมื่อปีที่แล้ว Aston Martin เปิดตัว DBS Superleggera ซึ่งเป็นรถแกรนด์ทัวริงก์สมรรถนะสูงออกมาด้วยการใช้เทคนิคการผลิตตัวถังรถที่มีน้ำหนักเบาของผู้ผลิตรถจากอิตาลีร่วมกับเครื่องยนต์กำลังแรง มาในปีนี้ก่อนเข้าสู่ฤดูร้อนของยุโรปผู้ผลิตรถหรูจากอังกฤษได้เปิดตัว DBS Superleggera Volante ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นเปิดประทุนออกเป็นทางเลือก โดยแม้ว่า DBS Superleggera จะไม่ได้ถูกระบุว่าเป็นรถจีทีที่มีความเร็วสูงสุดของ  Aston Martin แต่กับรุ่นเปิดหลังคาทางผู้ผลิตระบุว่านี่คือรถเปิดประทุนที่มีความเร็วสูงสุดที่เคยผลิตมา

Aston Martin DBS Superleggera Volante ไม่มีความแตกต่างในเรื่องขุมกำลังจากรุ่นคูเป้ ที่ใช้เครื่องยนต์ V12 5,200 ซีซี เทอร์โบคู่ ผลิตม้าได้ 725 ตัว และสร้างแรงบิดได้สูงสุด 900 นิวตัน-เมตร โดยใช้เกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีดส่งกำลัง อย่างไรก็ตามการเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ของรุ่นเปิดประทุนจะช้ากว่ารุ่นมีหลังคาเล็กน้อยโดยใช้เวลา 3.6 วินาที และสามารถเร่งจาก 0-161 กม./ชม. ด้วยเวลา 6.7 วินาที โดยที่มีความเร็วสูงสุด 340 กม./ชม. ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุดของรถเปิดประทุนที่ Aston Martin เคยผลิตออกมา

ในด้านแอโรไดนามิกของรุ่นเปิดหลังคาไม่มีการเปลี่ยนแปลงทั้ง Spiltter และช่องดักอากาศที่ด้านหน้าจากรุ่นมีหลังคาสำหรับการนำอากาศไหลผ่านด้านล่างรถเพื่อสร้างแรงกดที่ตัวรถและระบายความร้อนของเบรกที่ล้อหน้า แต่มีการเปลี่ยนแปลงที่ด้านข้างเพื่อนำอากาศจากซุ้มล้อหน้ามาช่วยลดการยกตัวของรถและเพิ่มความนิ่งที่ความเร็วสูงมากขึ้น รวมไปถึงมีการออกแบบแอโรไดนามิกที่ด้านหลังในส่วนของ Diffuser ใหม่เพื่อสร้างแรงกดที่ด้านหลัง ซึ่งทำให้แม้จะเป็นรถเปิดประทุนแต่ก็สร้างแรงกดได้ 177 กก. ซึ่งน้อยกว่ารุ่นมีหลังคาเพียง 3 กก. เท่านั้น

อีกส่วนสำคัญของ DBS Superleggera Volante คือหลังคาอ่อนซึ่งมีโครงสร้าง 8 ชั้นสำหรับสร้างบรรยากาศที่ดีเมื่อขับแบบปิดหลังคา ที่สามารถเปิด-ปิดหลังได้ด้วยปุ่มควบคุมในห้องโดยสารหรือรีโมตของรถในระยะห่างไม่เกิน 2 เมตรโดยใช้เวลาในการเปิดหลังคา 14 วินาทีและ 16 วินาทีเพื่อปิดหลังคา ทาง Aston Martin ระบุว่าหลังคาของ DBS Superleggera Volante มีกลไกที่ทนทานสามารถทำงานได้มากกว่า 100,000 รอบการเปิด-ปิด รวมทั้งเคยผ่านสภาพอากาศที่สุดขั้วทั้งความร้อนใน Death Valley และความเย็นของ Arctic Circle มาแล้วในขั้นตอนการพัฒนา นอกจากนี้ผู้ซื้อยังสามารถเลือกสีของหลังคาเพื่อสร้างความกลมกลืนกับตัวรถหรือสร้างความแตกต่างได้จาก 8 สีที่มีให้เลือก

Aston Martin DBS Superleggera ถูกตั้งราคาไว้ที่ 247,500 ปอนด์ในอังกฤษ ส่วนการส่งมอบรถจะเริ่มตั้งแต่ควอเตอร์ที่ 3 ของปีซึ่งยังทันที่จะขับแบบเปิดหลังคาเพื่อรับอากาศที่ดีก่อนเข้าสู่ช่วงที่อากาศหนาวเย็นในยุโรป

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th