Aston Martin Goldfinger DB5 Continuation โอกาสสำหรับนักสะสมที่เงินถึง
ปี 1963 Aston Martin เปิดตัว DB5 ออกมาแทนที่ DB4 โดยใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ 4,000 ซีซีมีกำลังสูงสุด 282 แรงม้าที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิด 380 นิวตันเมตรที่ 4,500 รอบ/นาที ใช้เกียร์ 4 สปีดจากรุ่น DB4 ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นเกียร์ ZF 5 สปีดภายหลัง และสามารถทำความเร็วสูงสุด 237 กม./ชม. ในปีต่อมา DB5 ปรากฏในภาพยนตร์สายลับเจมส์ บอนด์ Goldfinger ที่มี Sean Connery นำแสดง รวมทั้งยังปรากฏในภาพยนตร์แฟรนไชส์สายลับเรื่องนี้อีกถึง 6 เรื่องทั้ง Thunderball, Golden Eye, Tomorrow Never Dies, Casino Royale, Skyfall และ Spectre ในปี 2015 ซึ่งเป็นเรื่องล่าสุดของเจมส์ บอนด์ เรียกได้ว่าผ่านมือผู้รับบทสายลับหมายเลข 007 ถึงสามคน แต่ DB5 ในเจมส์ บอนด์ที่เป็นที่จดจำกันมากที่สุดสำหรับแฟนภาพยนตร์คือคันที่เป็นรถสำหรับสายลับในเรื่อง Goldfinger จากออฟชั่นต่างๆ ที่ Q Branch ใส่เข้าไปในรถให้สายลับใช้ทั้งเพื่อไล่ล่าและหนีการติดตามไม่ว่าจะเป็นป้ายทะเบียนพลิกได้ หน้าจอสำหรับติดตามเป้าหมาย ปืนด้านหน้ารถ และเบาะนั่งดีดตัวได้ จนมักมีการนำมาทำเป็นโมเดลสำหรับสะสม อย่างล่าสุดที่ทาง Lego ได้ทำโมเดล DB5 Goldfinger ออกมา
สำหรับคนที่ยังไม่พอใจกับรถโมเดล DB5 Goldfinger ขนาดเล็ก ยังมีโอกาสสะสมรถในขนาดจริงหากเงินถึง เพราะทาง Aston Martin ได้ออกมาประกาศถึงการทำ Goldfinger DB5 Continuation ออกมา โดยที่นอกจากรถจะมีสี Silver Birch เหมือนในภาพยนตร์แล้ว ยังมาพร้อมกับออฟชั่นต่างๆ สำหรับสายลับเหมือนกับในภาพยนตร์ด้วย แต่มีการผลิตเป็นพิเศษสำหรับจำหน่ายจำกัดเพียง 25 คันเท่านั้น
การทำ DB5 รุ่นพิเศษพร้อมออฟชั่นแบบในภาพยนตร์ออกมาครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตรถ Aston Martin กับ EON ซึ่งเป็นผู้ผลิตภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ โดยที่ทาง Aston Martin จะทำงานร่วมกับ EON Production และ Chris Corbould ซูเปอร์ไวเซอร์ด้านสเปเชี่ยลเอฟเฟกต์ที่เคยได้รับรางวัลออสการ์และทำงานในเจมส์ บอนด์ถึง 8 เรื่องเพื่อสร้างให้ Goldfinger DB5 Continuation เหมือนในภาพยนตร์ที่ฉายในปี 1964 ส่วนการผลิต DB5 รุ่นพิเศษนี้จะมีขึ้นที่โรงงาน Aston Martin Work ที่ Newport Pagnell ซึ่งเป็นสถานที่ผลิตดั้งเดิมของ DB5
สำหรับราคาของ Aston Martin Goldfinger DB5 Continuation ที่ว่าสำหรับนักสะสมเงินถึงคือ 2.75 ล้านปอนด์หรือประมาณ 115,500,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มการส่งมอบรถในปี 2020 และทาง Aston Martin ระบุว่าไม่สามารถใช้งานบนถนนได้อย่างถูกกฏหมาย หากจองหนึ่งใน 25 คันสำหรับจำหน่ายไม่ทันยังมีโอกาสอีกครั้ง เพราะนอกจาก 25 คันสำหรับจำหน่ายแล้วทางผู้ผลิตจะมีการผลิตอีกสามคันสำหรับเก็บไว้เองหนึ่งคัน สำหรับ EON หนึ่งคัน และสำหรับประมูลเพื่อการกุศลอีกหนึ่งคัน แต่ว่าเมื่อถึงตอนนี้ราคาในการประมูลคงสูงกว่า 2.75 ล้านปอนด์
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานต์ยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th