Aston Martin Valkyrie AMR Pro มาจากการออกแบบเพื่อชนะเลอมังส์ 24 ชั่วโมง
Aston Martin เผยโฉม Valkyrie AMR Pro ซึ่งเป็นรถสำหรับใช้ในสนามแข่งเท่านั้น โดยที่มีหลายสิ่งยกระดับขึ้นมาจาก Valkyrie ไฮเปอร์คาร์สำหรับใช้งานบนถนนสาะารณะ เนื่องจากรถรุ่นใหม่นี้มีพื้นฐานมาจากการออกแบบรถแข่งที่ทาง Aston Martin ร่วมมือกับ Red Bull Advanced Technology และบริษัทวิศวกรรม Multimatic เพื่อให้เป็นรถที่ชนะการแข่งเลอมังส์ 24 ชั่วโมง
Aston Martin Valkyrie AMR Pro ไม่ได้มีความแตกต่างจาก Valkyrie สำหรับใช้งานบนถนนสาธารณะที่ภายนอกของรถซึ่งดูดุดันกว่าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสิ่งที่อยู่ลึกภายในของรถด้วย เพราะรถใช้แชสซีส์คาร์บอนไฟเบอร์เฉพาะจึงทำให้เมื่อเทียบกับ Valkyrie ปกติแล้วมีระยะฐานล้อยาวขึ้น 380 มม. รวมไปถึงมีความกว้างที่ด้านหน้าเพิ่มขึ้น 96 มม. และความกว้างที่ด้านหลังเพิ่มขึ้น 115 มม. นอกจากนี้เมื่อรวมชุดแอโรไดนามิกที่เพิ่มความดุดันให้กับรถยังทำให้ Valkyrie AMR Pro มีความยาวกว่ารุ่นใช้งานบนถนนสาธารณะ 266 มม.
นอกจากแชสซีส์ที่อยู่ภายในของรถ Valkyrie AMR Pro ยังถูกปรับในด้านของแอโรไดนามิกหลายส่วนบนตัวรถ อย่างการใช้ Splitter หน้าคาร์บอนไฟเบอร์ที่ใหญ่ขึ้น มีการออกแบบซุ้มล้อและครีบระบายอากาศด้านข้างใหม่ อย่างไรก็ตามรถมาพร้อมกับกระจกมองข้างเหมือนกับรถทั่วไปแทนการใช้กล้องแบบ Valkyrie ใช้งานบนถนนสาธารณะ ส่วนที่ด้านหลังรถมาพร้อมกับครีบฉลามขนาดใหญ่เช่นเดียวกับปีกหลัง รวมไปถึงไม่ต่างกับซุ้มล้อหน้าที่มีการออกแบบซุ้มล้อหลังใหม่สำหรับ Valkyrie AMR Pro ด้วย ซึ่งจากแอโรไดนามิกของรถจึงทำให้ถูกระบุว่าสามารถสร้างแรงกดได้เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นใช้งานบนถนน
อีกส่วนที่มีความแตกต่างจาก Valkyrie ปกติคือขุมกำลัง ซึ่งไม่ได้เป็นไฮบริดแบบรถใช้งานบนถนน แต่ใช้เครื่องยนต์ V12 6.5 ลิตรหายใจเองที่พัฒนาโดย Cosworth ซึ่งให้กำลังออกมา 1,000 แรงม้า และมีรอบการทำงานของเครื่องยนต์ถึง 11,000 รอบ/นาที โดยทาง Aston Martin ได้อ้างว่ารถสำหรับใช้ในสนามแข่งรุ่นใหม่ของตนจะให้สมรรถนะในสนามแข่งได้ในระดับเดียวกับรถแข่งฟอร์มูลาวัน และยังสามารถทำเวลาต่อรอบที่สนามเลอมังส์ด้วยเวลา 3 นาที 20 วินาที ซึ่งเกือบเท่ากับรถแข่ง LMP1
Aston Martin จะทำ Valkyrie AMR Pro ออกมาทั้งหมดจำนวน 40 คันรวมทั้งรถต้นแบบ ซึ่งทั้งหมดเป็นรถพวงมาลัยซ้าย และมีกำหนดการส่งมอบในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ โดยผู้ที่ซื้อรถจะสามารถเข้าร่วมการจัด Track Day ที่มีขึ้นเป็นพิเศษโดย Aston Martin ในสนามแข่งรถต่างๆ ทั่วโลกได้ รวมไปถึงสามารถเข้าร่วม Track Day ในสหราชอาณาจักรและยุโรปที่จัดโดย Aston Martin ได้ตามที่ต้องการ พร้อมกับได้รับการฝึกอบรมระดับมืออาชีพ เป็นแขกวีไอพีสำหรับดินเนอร์ และได้รับชุดแข่งรถ FIA
เรื่อง: กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th