Aston Martin Vantage F1 Edition ใช้ประโยชน์จากการกลับสู่ฟอร์มูลาวัน
ในเมื่อชื่อ Aston Martin ได้กลับเข้าสู่การแข่งฟอร์มูลาวันอีกครั้งในปีนี้ทั้งในด้านทีมผู้ผลิตและการสนับสนุนรถเซฟตี้คาร์ ทางผู้ผลิตรภยนต์จากสหราชอาณาจักรก็เลยนำเอาสิ่งนี้มาเป็นประโยชน์ทางการตลาดสำหรับรถใช้งานบนถนนของตน ด้วยการทำ Vantage F1 Edition ออกมา ซึ่งไม่ได้มาแค่กับการแต่งพิเศษภายนอกและภายในเท่านั้น จะยังเป็นการปรับในส่วนเมคานิคเพื่อนำรถรุ่นนี้ไปสู่ความดุดันอีกระดับด้วย
Aston Martin Vantage F1 Edition มาพร้อมกับการปรับหลายๆ ส่วนทั้งในด้านสไตล์และเมคานิคโดยได้อิทธิพลมาจากรถเซฟตี้คาร์สำหรับฟอร์มูลาวันที่มีการเปิดตัวออกมาไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ จนทำให้เป็นรถที่มีความเร็วที่สุดของ Vantage เท่าที่เคยมีการทำออกมา
เริ่มจากในส่วนของภายนอกรถ Vantage F1 Edition จะมาในสีอื่นไม่ได้นอกจากสีเขียว Aston Martin Racing Green เพื่อแสดงถึงความเกี่ยวข้องกับรถแข่งฟอร์มูลาวัน แต่หากอยากได้สีอื่นทางผู้ผลิตก็มีสีดำหรือขาวให้เลือก พร้อมการแต่งภายนอกและแถบจากฝากระโปรงหน้าถึงด้านหลังสีเทาด้าน
นอกจากนี้ยังเสริมสมรรถนะของรถด้วยการมาพร้อมกับชุดแอโรคิตที่เพิ่มแรงกดให้กับรถได้ถึง 200 กิโลกรัมที่ความเร็วสูงสุด ซึ่งประกอบด้วย Splitter หน้าใหม่ Drive Planes ที่ด้านข้างของรถ กระจังหน้าเฉพาะ มีการปรับการไหลของอากาศที่ใต้ท้องรถ และสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ รวมไปถึงรถมาพร้อมกับล้อขนาด 21 นิ้วเป็นอีกสิ่งที่แตกต่างจากรุ่นปกติ
ภายในห้องโดยสารของ Vantage รุ่นพิเศษเป็นการใช้ทั้งหนังสีดำ และ Alcantara สีเทา ร่วมกับแถบและการเดินสีเขียว Lime Green ในการแต่ง โดยที่สามารถเลือกใช้แถบและการเดินด้ายสีดำ เทา หรือแดงแทนสีเขียวในห้องโดยสารได้
สำหรับปรับเปลี่ยนในส่วนของเมคานิค Vantage F1 Edition ถูกเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับแชสซีส์ด้วยการอัพเกรดโช๊กอัพและใช้สปริงหลังที่มีความหนืดขึ้น รวมไปถึงมีการปรับในส่วนของพวงมาลัยจากวิศวกร ขณะที่เครื่องยนต์ของรถแม้จะยังคงเป็นเครื่อง V8 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบเหมือนเดิม แต่มีกำลังเพิ่มขึ้น 25 แรงม้าเป็น 535 แรงม้า ขณะที่แรงบิดยังคงอยู่ที่ 685 นิวตัน-เมตรเหมือนเดิม แต่ทางผู้ผลิตอ้างว่าเครื่องยนต์มีการให้แรงบิดคงที่ได้นานขึ้น และนอกจากนี้ยังมีการปรับในส่วนของเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วย
Aston Martin Vantage F1 Edition มีให้เลือกทั้งตัวถังคูเป้และโรดสเตอร์ โดยมีราคา 142,000 ปอนด์ในสหราชอาณาจักร และจะเริ่มส่งมอบรถได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th