Audi A1 Sportback แฮตช์แบ็กที่สปอร์ต-ไฮเทคมากขึ้น
เพื่อเป็นการสานต่อความสำเร็จของรุ่นแรก Audi A1 Sportback เลือกเก็บความแข็งแกร่งในต้นแบบมาผสมผสานกับดีไซน์ตัวถังที่มีความสปอร์ตมากขึ้น และเพิ่มอุปกรณ์ไฮเทคเข้ามา รวมทั้งเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จที่มีความแรงตั้งแต่ 95-200 แรงม้า โดยจะเริ่มต้นขายที่ยุโรป ช่วงปลายปีนี้
ย้อนกลับไปในปี 2010 ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของเยอรมัน เปิดไลน์การผลิตใหม่ในชื่อ A1 สปอร์ตแฮตช์แบ็กที่มีกระแสตอบรับที่ยอดเยี่ยม และการเข้าสู่เจเนอเรชั่นที่ 2 มีการเพิ่มรูปแบบดีไซน์ที่มีความพลิ้วไหวจนกลายเป็น Audi A1 Sportback ที่เหมาะกับการใช้งานในเมือง รวมถึงการเดินทางไกล พร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ทันสมัย และระบบความบันเทิงในระดับเดียวกับรถซีดานหรู
A1 Sportback ถูกขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นจากรุ่นก่อนหน้า ด้วยความยาว 4.03 เมตร, กว้าง 1.74 เมตร และปรับความสูงให้ลดลงเหลือ 1.43 เมตร ด้วยรูปทรงที่กว้างแต่ลงตัวมากขึ้น ทำให้มันมีมาดความสปอร์ตเต็มๆ กระจังหน้าแบบชิ้นเดียวถูกออกแบบให้ต่ำลงมา ใต้ฝากระโปรงมีรูสามช่องซึ่งเป็นการระลึกถึง Sport Quattro 1984 โมเดลระดับตำนานของค่ายนี้
ไฟหน้า LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Light ภายนอกถูกออกแบบให้มีความคล้าย Audi Ur-Quattro และ Sport Quattro ถ้ามองจากด้านข้าง เสา C-Pillar ที่กว้าง และลาดลงดูเหมือนรถจะพุ่งไปข้างหน้าตลอดเวลา ถึงจอดนิ่งอยู่กับที่ หลังคาถูกสาดด้วยสีดำลาดยาวไปถึง C-Pillar ทำให้มิติของตัวรถดูโฉบเฉี่ยว และมั่นคงขึ้น ลายเส้นด้านข้างตั้งแต่กระจกไปจนถึงท้ายมีการไล่ระดับความลาดชัน จุดเด่นของตัวรถอยู่ที่ล้ออัลลอยกับแก้มข้างที่ต่ำทำให้จุดโฟกัสสมดุลขึ้น ดูแน่น และแข็งแกร่งบนท้องถนน
เครื่องยนต์เลือกใช้เป็นเครื่องยนต์ TFSI ที่มีให้เลือกตั้งแต่ 3 สูบ 1.0 ลิตร, 4 สูบ 1.5 ลิตร และ 2.0 ลิตร ที่มีกำลังตั้งแต่ 95-200 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ S tronic แบบคลัตช์คู่ 7 จังหวะ และเกียร์ธรรมดา
Audi เปิดโอกาสให้เลือกเวอร์ชั่น S Line ที่เพิ่มความสปอร์ตมากขึ้นด้วยช่องดักลมขนาดใหญ่, สเกิร์ตข้าง และสปอยเลอร์หลัง ขณะที่ตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด 10 สี และสามารถเลือกตัดด้วยสีอื่นได้อีกด้วย ด้วยเส้นสายที่โค้งมนสวยงามที่ Audi เน้นทุกจุดให้ออกมามีกลิ่นของความสปอร์ตเข้มๆ โดยผ่านการทดสอบมากมายเพื่อให้ใช้งานได้จริง
Audi A1 Sportback ยังอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยมากมาย แม้แต่ในรุ่นมาตรฐานก็ยังมาพร้อมจอแสดงผลดิจิตัลขนาดใหญ่ 10.25 นิ้ว มีความละเอียดสูง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นที่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ หลังพวงมาลัย Audi A1 มีฟังก์ชั่นหลากหลายรูปแบบที่นำเสนอข้อมูลที่ครบถ้วน เช่น แผนที่นำทางแบบเคลื่อนไหว และระบบกราฟฟิกควบคุมการขับในขอบเขตการมองเห็นโดยตรงของผู้ขับขี่
ระบบให้ความบันเทิงมาในรูปแบบ MMI ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Audi การทำงานทั้งหมดสามารถควบคุมได้บนพวงมาลัย และจอแสดงผลขนาดใหญ่แบบทัชสกรีนที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน พร้อมระบบนำทาง GPS ที่ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจในเรื่องเส้นทางยิ่งขึ้น พิเศษคือมาในรูปแบบสามมิติ 3D โมเดลที่มีตำแหน่งของเมืองต่างๆอยู่ครบถ้วน โดยสามารถอัพเดทได้ตลอดเวลา
ในตอนนี้ Audi เปิดให้ลูกค้าชาวยุโรป เริ่มต้นจอง A1 Sportback อย่างเป็นทางการ ก่อนจะเริ่มส่งมอบในปลายปีนี้ โดยราคาขายในเยอรมัน คาดว่าจะเริ่มต้นราว 20,000 ยูโร หรือราว 760,000 บาท
เรื่อง: ภวัต ภาศิรินนท์
ขอบคุณข้อมูล: audi-mediacenter.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th