Audi ขยายทางเลือกให้กับรถในตระกูล A3 ที่ได้รับการปรับโฉมไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ด้วยรถแฮทช์แบ็กปลั๊กอินไฮบริด A3 Sportback TFSI e ที่มีทั้งกำลัง สมรรถนะ และระะยการเดินทางโดยใช้เฉพาะไฟฟ้ามากกว่ารุ่นก่อนหน้า โดยมีให้เลือก 2 ระดับกำลังขับเคลื่อน

Audi A3 TFSI e ใหม่มี 2 ทางเลือกของระดับกำลังขับเคลื่อนระหว่าง 40 TFSI e และ 45 TFSI e ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร TFSI evo2 ใหม่มีอัตราส่วนกำลังอัดมากกว่าเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร TFSI รุ่นเก่าเหมือนกัน แต่เครื่องยนต์ในรุ่นพื้นฐานมีกำลัง 148 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร ขณะที่รุ่นท็อปมีกำลัง 174 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร

เครื่องยนต์ในรถทั้ง 2 รุ่นทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 114 แรงม้า แรงบิด 330 นิวตัน-เมตรที่อยู่ร่วมกับระบบส่งกำลัง S tronic 6 สปีดที่ขับเคลื่อนล้อหน้า ทำให้มีกำลังรวม 201 แรงม้า แรงบิด 350 นิวตัน-เมตรในรุ่นพื้นฐาน ส่วนรุ่นที่มีกำลังมากกว่ามีกำลัง 268 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตัน-เมตร

ในด้านความเร็วรถแฮทช์แบ็กปลั๊กอินไฮบริดรุ่นพื้นฐานใช้เวลา 7.4 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และทำความเร็วได้สูงสุด 225 กม./ชม. ส่วนรุ่นท็อปใช้เวลา 6.3 วินาทีเพื่อทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. และทำความเร็วได้สูงสุด 237 กม./ชม. นอกจากนี้รถทั้ง 2 รุ่นยังมีการทำงานเพื่อเพิ่มกำลังของรถ ซึ่งทำให้ 40 TFSI e มีกำลังเพิ่มขึ้น 54 แรงม้าได้นานถึง 18 วินาที ส่วนรุ่น 45 TFSI e มีกำลังเพิ่มขึ้น 94 แรงม้านานถึง 8 วินาที

มอเตอร์ไฟฟ้าในรถรับพลังานมาจากแบตเตอรี 25.7 kWh ซึ่งสามารถเก็บพลังงานได้มากกว่ารุ่นก่อนหน้าเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ ทำให้รถปลั๊กอินไฮบริดทั้ง 2 รุ่นเดินทางโดยไม่ใช้น้ำมันได้ 143 กิโลเมตร รวมทั้งยังรองรับการชาร์จไฟแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC ได้ถึง 50 kW ทำให้ชาร์จไฟจาก 10-80 เปอร์เซ็นต์โดยใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที

รถแฮทช์แบ็กปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่มีราคาเริ่มต้น 44,200 ยูโรในรุ่นพื้นฐาน ส่วนรุ่นท็อปราคาเริ่มต้น 47,700 ยูโรในยุโรป

เรื่อง : กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th