Audi แสดงถึงทิศทางการออกแบบและเทคโนโลยีรถไฟฟ้าในอนาคตของตนผ่านรถคอนเซ็ปต์ในตระกูล Sphere ออกมาแล้ว 3 รุ่น และก็ล่าสุดได้เผยโฉมรถคอนเซ็ปต์รุ่นที่ 4 ในตระกูลนี้ Activesphere ออกมาซึ่งเป็นการรวมเอารูปทรงของรถคูเป้ไว้กับลักษณะต่างๆ ของรถครอสโอเวอร์ แถมยังสามารถเปลี่ยนเป็นรถปิกอัพได้ และเต็มไปด้วยเทคโนโลยีในห้องโดยสาร

ต่อจากรถคอนเซ็ปต์ Skysphere ซึ่งเป็นรถแกรนด์ทัวเรอร์ 2 ประตู Grandsphere รถซีดานเรือธง และ Urbansphere ซึ่งเป็นรถมินิแวน รถคอนเซ็ปต์คันล่าสุด Audi Activesphere มาในดีไซน์สไตล์รถคูเป้ 4 ประตูที่รูปทรงมีความไหลลื่นและมีตัวถังรถที่มีพลัง พร้อมผสานด้วยลักษณะต่างๆ ของรถครอสโอเวอร์ไม่ว่าจะเป็นใต้ท้องรถที่สูงจากพื้น ล้อขนาด 22 นิ้วพร้อมยางออฟโรดขนาด 285/44R22 และมีคิ้วกันกระแทกที่ซุ้มล้อ

รถคอนเซ็ปต์รุ่นใหม่เน้นพื้นผิวกระจกที่กว้าง รวมทั้งมีกระจังหน้าซิงเกิลเฟรมและบริเวณเหนือบันใดข้างของรถที่มีลักษณะโปร่งใสเพื่อให้มีมุมมองรอบตัวรถมากขึ้น แถมด้วยกระจกหลังของรถยังสามารถเลื่อนไปไว้เหนือหลังคาเพื่อเปิดพื้นที่เก็บของให้โล่งสำหรับแปลงจากรถครอสโอเวอร์ให้เป็นรถปิกอัพได้ ซึ่งทางค่าย 4 ห่วงระบุว่าพื้นที่ของกระบะด้านหลังสามารถบรรทุกจักรยานไฟฟ้า e-Bike ได้ 2 คัน ในขณะที่หลังคารถก็สามารถบรรทุกสกีได้

นอกจากความอเนกประสงค์แล้วรถคอนเซ็ปต์คูเป้-ครอสโอเวอร์ยังมาพร้อมกับความไฮเทคด้วยชุดไฟ LED ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของรถ ใช้กล้องแทนกระจกข้าง และล้ออัลลอยลาย 6 ก้านมีรูที่สามาระเปิดหรือปิดได้ รวมทั้งด้วยการใช้ช่วงล่างถุงลมแปรผันจึงทำให้สามารถเปลี่ยนแปลงความสูงของใต้ท้องรถจากพื้นได้ตามสถานการณ์ โดยความสูงมาตรฐานของใต้ท้องรถจากพื้นจะอยู่ที่ 208 มม. เท่ากับ Q5 แต่สามารถเพิ่มความสูงเป็น 248 มม. ได้ในโหมดออฟโรดได้ หรือลดความสูงจากพื้นลงเหลือ 168 มม. ให้เหมือนรถทั่วไปเพื่อเน้นเรื่องแอโรไดนามิกและการควบคุมรถสำหรับขับบนทางลาดยางปกติ

ห้องโดยสารของรถคอนเซ็ปต์รุ่นใหม่มีความโดดเด่นด้วยประตูรถเปิดออกจากตรงกลางและไม่มีเสา B-Pillar จึงทำให้เข้าสู่ทั้ง 4 ที่นั่งของรถที่เป็นเบาะแยกในลักษณะ Lounge Chair ที่มีทั้งที่ท้าวแขนและพนักพิงศรีษะได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีพวงมาลัย Yoke-shaped และแผงแดชบอร์ดแบบลอยตัวซึ่งหน้าหน้าที่เป็นซาวด์บาร์และช่องระบบปรับอากาศโดยไม่มีหน้าจอ โดยหากใช้โหมดขับขี่อัตโนมัติทั้งแผงแดชบอร์ดจะถูกพลิกซ่อนไว้พร้อมกับที่พวงมาลัยและแป้นเหยียบหายไป เพื่อให้ด้านหน้าผู้ขับและผู้โดยสารเป็นพื้นที่โล่งซึ่งสามารถมองเห็นพื้นถนนด้านหน้าได้ผ่านกระจังหน้าโปร่งใสของรถ ส่วนอุโมงกลางระหว่างผู้ขับและผู้โดยสารจะเป็นพื้นที่ปรับความอุ่นและความเย็นได้สำหรับเก็บอาหารและเครื่องดื่ม

จุดเด่นในห้องโดยสารของรถคอนเซ็ปต์คูเป้-ครอสโอเวอร์ยังอยู่ที่การมี 4 ชุดเฮดเซ็ต Mixed-Reality เก็บไว้ที่หลังคาเพื่อให้ผู้โดยสารทั้งหมดในรถเข้าถึงการควบคุมและสิ่งต่างๆ ได้โดยไม่ต้องมีหน้าจอและปุ่มควบคุมในรถ อย่างการเข้าถึงระบบ Infotainment ด้วยอินเตอร์แอคทีฟ 3 มิติผ่านการสัมผัส ท่าทาง หรือขยับสายตา โดยที่การควบคุมแต่ละสิ่งจะถูกกำหนดให้อยู่ใกล้กับสิ่งที่เกี่ยวข้องอย่างการปรับระบบปรับอากาศจะอยู่ใกล้กับช่องระบบปรับอากาศของรถ หรือการปรับระบบเสียงอยู่ใกล้กับลำโพง ซึ่งหมายความว่าทุกพื้นผิวในห้องโดยสารจะถูกเปลี่ยนเป็นจอทัชสกรีนที่ไม่มีจออยู่จริง โดยระบบใหม่นี้ถูกเรียกว่า Audi Dimensions และเมื่อสวมเฮดเซ็ตออกไปนอกรถก็ยังสามารถใช้ฟังก์ชัน Augment Reality กับโลกจริงได้

ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ของรถคอนเซ็ปต์ถูกระบุว่าอยู่บนสถาปัตยกรรม PPE โดยตัวรถมีความยาว 196 นิ้ว กว้าง 81.5 นิ้ว สูง 63 นิ้ว และมีระยะฐานล้อยาว 116.9 นิ้ว ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่สร้างกำลังออกมา 442 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุด 720 นิวตัน-เมตรสำหรับขับเคลื่อนทุกล้อของรถ ส่วนแบตเตอรี 800 โวลต์ที่ถูกติดตั้งระหว่างเพลาทั้ง 2 ของรถมีความจุ 100 kWh ให้ระยะการเดินทางได้ 600 กิโลเมตร พร้อมรองรับการชาร์จไฟ 270 kW ซึ่งจะทำให้ชาร์จไฟจาก 5-80 เปอร์เซ็นต์ด้วยเวลา 24 นาทีกับเครื่องชาร์จแบบอัลตร้า-ฟาสต์

เช่นเดียวกับรถคอนเซ็ปต์ในตระกูล Sphere คันอื่นที่ Activesphere จะไม่กลายมาเป็นรถในสายการผลิตโดยตรง แต่สิ่งต่างๆ ในรถจะปรากฏกับรถในสายการผลิต ขนาดของรถที่เท่ากับ A6 e-tron ซึ่งจะออกมาในอนาคตโดยมีทั้งสไตล์สปอร์ตแบ็กและแวกอน รวมทั้งจะมีรถในสายการผลิตจริงรุ่นแรกที่อยู่บนสถาปัตยกรรม PPE เหมือนรถคอนเซ็ปต์ออกมาในปี 2023 นี้

เรื่อง: กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE

ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th