Audi e-tron GT อัปเดตปรับรุ่นพร้อมเพิ่มรุ่นสมรรถนะสูงขึ้น
Audi e-tron GT รถแกรนด์ทัวริสโมไฟฟ้า 4 ประตูที่ถูกเปิดตัวออกมาเมื่อปี 2021 ได้รับการอัปเดต ซึ่งนอกจากรถรุ่นใหม่จะได้รับการปรับปรุงทั้งระยะการเดินทาง สมรรถนะ การชาร์จ และการขับขี่แล้ว ยังเมีรุ่นสมรรถนะสูงใหม่เพิ่มเข้ามาเป็นทางเลือก ทำให้รถรุ่นใหม่มี 3 รุ่นให้เลือก
จากเดิมที่ Audi e-tron GT มี 2 ทางเลือกระหว่างe-tron GT Quattro และ RS e-tron GT รถรุ่นใหม่จะมี 3 ทางเลือกคือ S e-tron GT, RS e-tron GT และ RS e-tron GT Performance โดยรถรุ่นใหม่ทั้งหมดมาพร้อมกับแบตเตอรีความจุ 97 kWh ซึ่งนอกจากมีความจุมากกว่าแบตเตอรีในรถรุ่นก่อนหน้าที่มีความจุ 84 kWh แล้วยังมีน้ำหนักเบาลงด้วย พร้อมปรับปรุงระบบเก็บพลังงานจากการเบรกเพิ่มจาก 290 kW เป็น 400 kW โดยสามารถปรับได้ด้วยแป้นชิฟต์หลังพวงมาลัย ซึ่งด้วยแบตเตอรีที่มีความจุมากขึ้นทำให้รถรุ่นใหม่สามารถเดินทางได้สูงสุดถึง 609 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง
นอกจากเพิ่มความจุแบตเตอรีแล้ว การชาร์จไฟของรถยังได้รับการปรับปรุงจากให้รองรับได้สูงสุด 270 kW เป็น 320 kW ทำให้ใช้เวลา 18 นาทีเพื่อชาร์จไฟจาก 10-80 เปอร์เซ็นต์ หรือใช้เวลาชาร์จไฟ 10 นาทีสามารถเดินทางได้เพิ่ม 280 กิโลเมตร พร้อมมีการปรับความเย็นหรือความอุ่นที่แบตเตอรีสำหรับการชาร์จเร็ว
อีกสิ่งหนึ่งที่ได้รับการปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจนคือกำลังขับเคลื่อนของรถ เพราะรุ่นพื้นฐานใหม่มีกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่รวม 679 แรงม้า ส่วนรุ่น RS มีกำลัง 856 แรงม้า และรุ่น RS e-tron GT Performance มีกำลัง 925 แรงม้า ซึ่งเป็นรถที่มีกำลังขับเคลื่อนสูงสุดที่ค่าย 4 ห่วงเคยทำออกมา จากกำลังที่เพิ่มขึ้นทำให้รุ่นพื้นฐานทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. โดยใช้เวลา 3.4 วินาที รุ่น RS ใช้เวลา 2.8 วินาที และรุ่นสมรรถนะสูงสุดใช้เวลา 2.5 วินาที ขณะที่การทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 245 กม./ชม. ในรุ่นพื้นฐาน ส่วน 2 รุ่นที่มี RS นำหน้าทำความเร็วสูงสุดได้ 250 กม./ชม.
เบรกและช่วงล่างของรถเป็นอีกพื้นที่ของรถที่ได้รับการอัปเกรด โดยรุ่นพื้นฐานมาพร้อมกับดิสก์เบรกเหล็กกล้า ขณะที่รุ่น RS มีดิสก์เบรก Tungsten Carbide-coated เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมมีดิสก์เบรกคาร์บอนเซรามิกและคาลิเปอร์ 10 ลูกสูบสำหรับล้อหน้าเป็นออปชันให้เลือกกับรถทุกรุ่น ส่วนช่วงล่าง Air Suspension ถูกระบุว่าได้รับการปรับใหม่เพื่อรองรับการเบรก การควบคุมรถ และการเร่งความเร็วที่มีพลังของรถ รวมไปถึงสามารถปรับความสูงของรถได้ โดยที่มีระบบควบคุมการเลี้ยว 4 ล้อเป็นออปชันให้เลือก
ห้องโดยสารของรถมีการปรับไม่มาก มาพร้อมกับเบาะและพวงมาลัยใหม่ พร้อมมีการอัปเดตAudi Virtual Cockpit ใช้วัสดุผสมร่วมกันใหม่ มีการใช้ไม้แทรกในการแต่ง และใช้ไมโครไฟเบอร์ Dinamica
ส่วนราคาของรถรุ่นใหม่ที่ยูโรปเริ่มต้น 126,000 ยูโรในรุ่นพื้นฐานจนถึง 160,500 ยูโรในรุ่นสมรรถนะสูงสุด
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
เรียบเรียงข้อมูลโดย GRANDPRIX ONLINE
ติดตามข่าวสาร ยานยนต์ รถจักรยานยนต์ รถใหม่ ได้ที่ www.grandprix.co.th